ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

จับเว็บพนัน

กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการทลายเว็บพนันรายใหญ่จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่ 2 จุดกลางกรุงเทพฯ มีเงินหมุนนับ 100 ล้านบาท/เดือน รวมกว่า 1,500 ล้านบาท/ปี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย หนึ่งในนั้นพบเป็นตัวประกอบช่องดังร่วมขบวนการ

ก่อนการแถลงข่าว ทางตำรวจไซเบอร์ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบปากคำ โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ดำเนินการสอบปากคำด้วยตนเอง จากการสอบปากคำ นายอมรและนายอิศรา ให้การรับสารภาพในบางส่วน แต่นายไพรัช ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


สำหรับคดีนี้นั้น สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สอท.2 ได้สืบสวนพบการกระทำผิดของเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย WM CASINO จากข้อมูลเส้นทางการเงินพบว่ามียอดเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน รวมกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้นับ 10 ราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.2 ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ จุดที่ 1 เป็นห้องพักชั้น 3 ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง พื้นที่แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง และจุดที่ 2 เป็นบ้านพักในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในซอยรามอินทรา 34 แยก 15 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ได้แก่ 1.นายอมร อายุ 31 ปี นักแสดงประกอบละครของช่องดัง ทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัท เปิดบัญชีนิติบุคคลและเบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร 2.นายอิศรา อายุ 37 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร และ 3.นายไพรัช อายุ 38 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้รับเงินต่อจากนายอมร พร้อมกันนี้สามารถตรวจยึดของกลาง อาทิ รถยนต์ 5 คัน, สมุดบัญชีธนาคาร 46 เล่ม, บัตรกดเงินสด 6 ใบ, โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง ฯลฯ รวมมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด ประมาณ 10.5 ล้านบาท

จากการสืบสวนพบว่า นายอมรทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัท เปิดบัญชีนิติบุคคลและเป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร จากนั้นนำไปส่งให้นายไพรัช โดยเบิกถอนอาทิตย์ละ 2-4 ครั้ง ๆ ละประมาณ 1-3 ล้านบาทต่อครั้ง โดยครั้งล่าสุดพบข้อมูลว่าถอนเงินไปวันเดียวจำนวนกว่า 9 ล้านบาท จากหลักฐานพบว่า นายอมรได้ถอนเงินมากกว่า 15 ครั้งต่อเดือน รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่จัดตั้งบริษัทแล้ว ทราบว่าได้ถอนเงินสดไปแล้วกว่า 120 ล้านบาท


จากการข้อมูลพบว่า นายอมรมีอาชีพเป็นนักแสดงประกอบละครของช่องดังช่องหนึ่ง เคยรับบทเป็นเพื่อนพระเอกของละครดัง เคยแสดงเป็นพระเอกมิวสิควิดีโอ ถ่ายแบบนิตยสาร งานเดินแบบ งานประกวด และรับงานต่าง ๆ ในวงการบันเทิง

ส่วนนายอิศรา ทำหน้าที่เป็นผู้เบิกถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยได้เบิกถอนเงินจากบัญชีบริษัทต่างกันจำนวน 3 บริษัท แล้วนำไปส่งตามจุดต่าง ๆ ตามที่นายไพรัชแจ้งโดยไม่ซ้ำจุดกัน เมื่อไปถึงแล้ว จะนำเงินใส่ไว้ในรถที่จอดไว้ตามที่นายไพรัชแจ้งข้อมูลรถและสถานที่ จากข้อมูลพบว่านายอิศราเดินทางไปทำธุรกรรมทางการเงินไม่น้อยกว่า 4 วันต่อสัปดาห์ โดยทำการถอนมากกว่า 40 ครั้งต่อเดือน ประมาณ 1.5-2 ล้านบาทต่อครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 80 ล้านบาท โดยรับจ้างทำมาแล้วกว่า 4 เดือน เมื่อรวมระยะเวลาทั้งหมดแล้ว นายอิศราได้ถอนเงินสดมากกว่า 320 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ โดยเฉพาะเจ้าของเว็บและอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนั้นเป็นระดับผู้บริหารการเงินและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการบริหารจัดการเงิน รวมทั้งอำพรางปกปิดการสืบสวนจับกุมด้วยการใช้บัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคลที่จดทะเบียนถูกต้อง ซึ่งตัวนายอมร เคยเป็นอดีตนักแสดงประกอบตัวละครชื่อดัง แต่ได้มาร่วมมือกับเพื่อนที่ 2 คนในการบริหารการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์ หลังจากนี้จะดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 3 คนในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินและความผิดเกี่ยวกับการพนันต่อไป ส่วนจะต้องถึงขั้นไปตรวจสอบบุคคลในวงการบันเทิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกหรือไม่นั้น คงไม่ถึงไปขั้นนั้นและคงไม่สามารถเหมารวมได้ แต่หากมีเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิด ก็จะดำเนินคดีหมดทุกคนโดยไม่ละเว้น.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

กาญจนบุรี 19 พ.ค. – ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 4 ราย อุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” ตั้งข้อหาหนักหลายกระทง ล่าสุด ครอบครัวรับศพแล้ว เผยผลชันสูตร กระสุนเจาะศีรษะ 2 นัด เป็นเหตุเสียชีวิต พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีล่าตัวแก๊งอุ้มฆ่า นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จับกุม นายธนเดช หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ แล้ว ส่วนอีก 4 คน ศาลอนุมัติหมายจับ ประกอบด้วย นายณรงค์เดช, นายภคณัท, นายนพพิจิตร และนายธราเทพ ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใน 5 ข้อหาหนัก ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

ตามหา “เจ๊แก้ว” ใส่ทอง 20 บาท หายตัวไป 2 วัน

สุราษฎร์ธานี 19 พ.ค. – ยังไร้วี่แวว “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัว 2 วัน พร้อมทองหนัก 20 บาท-เงินสด 1 แสน สามีวอนตำรวจ-พลังโชเชียลช่วยตามหา หวั่นเกิดเหตุร้าย เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) ญาติของ น.ส.สุจิตรา หรือเจ๊แก้ว อายุ 43 ปี เจ้าของแผงทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ว่า น.ส.สุจิตรา หายตัวไปวันที่ 17 พฤษภาคม หลังจากเสร็จงานที่แผงทุเรียน และกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. น้องสาวของเจ๊แก้ว เล่าว่า วันนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาวและทราบว่าพี่สาวกำลังจะออกจากแผงทุเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เห็นผิดสังเกตว่าพี่สาวยังมาไม่ถึงบ้านเลยพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีคนรับ ปกติแล้วพี่สาวได้สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท เลทข้อมือทองคำน้ำหนัก 10 บาท […]

“บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบบัญชีวัดเพิ่มอีกรวม 49 บัญชี

นครปฐม 19 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำทีมตรวจเงินวัดไร่ขิง พบตู้บริจาค 185 ตู้ บัญชีวัดรวม 49 บัญชี รอตรวจสอบเส้นเงินที่ชัดเจน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ สตง. และเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา เข้าตรวจสอบข้อมูลการเงินเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ภายในห้องการเงิน วัดไร่ขิง ก่อนที่ในช่วงบ่ายพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ได้เป็นตัวแทนนำ จนท.ออกมาชี้จุดตั้งตู้บริจาคปัจจัยที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด พบว่ามีตู้บริจาคทั้งหมด 185 ตู้ ซึ่งหลังจากใช้เวลาตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมกว่า 8 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่าการตรวจสอบในวันนี้ ไม่ได้ เป็นการสอบปากคำ แต่เป็นเพียงการเรียกทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีการเงินของวัดประมาณ 10 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารจาก 4 ธนาคาร เข้ามาให้ข้อมูล เพื่อหาข้อสรุปว่า บัญชีของวัดมีกี่บัญชี ซึ่งทำให้พบบัญชีวัดเพิ่มขึ้นจากที่พบก่อนหน้านี้ 20 กว่าบัญชี (ใน 20 กว่า มีบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส […]