ตั้งกรรมการตรวจสอบเหตุทิ้งร่างชายวัย 68 คารถ

กรุงเทพฯ 12 ส.ค. – บก.ทล. ตั้งกรรมการตรวจสอบเหตุทิ้งร่างชายวัย 68 ปี คารถ หลังเกิดอุบัติเหตุนาน 12 ชั่วโมง ด้านพนักงานสอบสวนยอมรับไปไม่ถึงที่เกิดเหตุ หมอนิติเวชชี้ผู้บาดเจ็บกระดูกรามหน้าอกมีการช้ำของเยื่อหุ้มหัวใจ โอกาสรอดน้อย


จากกรณีนายภัทรชัย อายุ 68 ปี ประสบอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนข้างทางอย่างแรง บนถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าพัทยา ส่งผลให้กระโปรงหน้ารถพังยับ และมีการเก็บกู้ซากรถออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ ต่อมาว่าพบศพติดอยู่ในซากรถ ชายคนดังกล่าวถูกปล่อยร่างทิ้งไว้ในรถนาน 12 ชั่วโมง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา

พลตำรวจตรีเอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง นายธน วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้แทนจากกรมทางหลวง ตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย แถลงชี้แจงกรณีไม่พบศพในรถยนต์ หลังประสบอุบัติเหตุบนมอเตอร์เวย์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม


พลตำรวจตรีเอกราช กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า จากรณีเหตุดังกล่าวได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว หากพบใครเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา ย้ำทางกู้ภัย กรมทางหลวง มีขั้นตอนการปฏิบัติงาน และ พฐ. ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น ส่วนที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง ก็เป็นสิทธิของญาติ ให้เป็นไปตามขั้นตอน

ด้านพันตำรวจโทรัตพล วรรณ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยอมรับไม่ได้ไปไม่ถึงที่เกิดเหตุ โดยได้รับรายงานว่าไม่พบผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และคู่กรณี โดยได้ดูคลิปที่เกิดเหตุที่ส่งมาทางไลน์ และขอ CCTV ตรวจสอบ จึงได้ให้เคลื่อนย้ายรถเพื่อไม่ให้กีดขวางจราจร ย้ำมีความเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งตนได้ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลวิภาราม บริเวณใกล้เคียง แต่ไม่พบผู้บาดเจ็บ จึงคาดว่าญาติจะมาติดตาม จนเวลาผ่านไปนานจึงเข้าตรวจสอบเอกสารที่รถ จึงพบร่างนายภัทรชัย

ขณะที่นายภาสกร เจ้าหน้าที่กู้ภัย เล่าว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุตั้งใจพยายามเข้าตรวจสอบเหตุให้เร็วที่สุด ประมาณไม่เกิน 5 นาที โดยมองผ่านช่องซ้าย มองเข้าไปไม่พบผู้ขับขี่ ไม่พบสัญญาณขอความช่วยเหลือ ไม่พบคราบเลือด และทรัพย์สินฝั่งคนขับเท่านั้น ซึ่งอุบัติเหตุที่เคยเจอมาหากมีการชน ผู้ขับขี่จะฟุบไปด้านหน้าพวงมาลัย หรือเอนไปด้านหลัง ยอมรับมองไม่เห็นจริงๆ ไม่ใช่ตนเพียงคนเดียว แต่ในที่เกิดเหตุมีผู้ร่วมตรวจดู 6 คน ใช้เวลาสักพัก ซึ่งพยายามมองโซนนั่ง ดูกระจกหลัง รวมถึงไปเปิดประตูด้านหลังก็ไม่พบ


ส่วนทำไมไม่ตรวจสอบด้านขวาคนขับ เพราะจะไม่ต้องการไปยุ่งกับทรัพย์สิน เนื่องจากเคยมีการร้องเรียนเรื่องทรัพย์สินสูญหาย จึงคิดว่าอาจมีผู้หวังดีพาผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล เมื่อมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกชุดมาถามจึงแจ้งว่าไม่พบผู้ขับขี่ เหมือนบางเคสที่ผ่านมา รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกผิดที่ไม่สามารถเจอคุณลุงได้ในขณะนั้น พร้อมน้อมรับสิ่งที่สังคมวิจารณ์ ยืนยันปฏิบัติหน้าที่ตามกฎเกณฑ์

พันตำรวจเอกนายแพทย์ปกรณ์ วะศินรัตน์ ผู้แทนสถาบันนิติเวชวิทยา เปิดเผยว่า จากการผ่าพิสูจน์พบว่าศพมีรูปร่างสันทัด ไม่อ้วน ไม่ผอม สาเหตุหลักๆ กระดูกซี่โครงหักทั้งสองข้างหลายซี่ รวมถึงกระดูกรามหน้าอกมีการช้ำของเยื่อหุ้มหัวใจ บริเวณขั้วหัวใจที่เชื่อมต่อกับเส้นเลือดแดงใหญ่ ทำให้มีเลือดออกปริมาณมาก ซึ่งพบได้บ่อยในอุบัติเหตุที่เกิดจากการลดความเร็วอย่างรวดเร็วและมีแรงเหวี่ยง และตรวจไม่พบการบาดเจ็บอื่นที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ ซึ่งตามทฤษฎี อนุมานจากลักษณะอาการบาดเจ็บที่พบรุนแรง การฉีกขาดของหัวใจ ผู้ประสบเหตุสามารถเสียชีวิตได้ทันทีสูงถึง 80% แต่ไม่สามารถระบุช่วงเวลาหลังเกิดเหตุจะเสียชีวิตได้ภายในกี่นาที ส่วนอีก 20% ที่ไม่เสียชีวิตจะพบผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสมาก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

นายธน วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้แทนจากกรมทางหลวง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดต่อกับลูกสาวผู้เสียชีวิต และกรมทางหลวงรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพจัดงานศพผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ทางอธิบดีกรมทางหลวงได้สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ทางให้รัดกุมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]