ชลบุรี 5 ส.ค.- ตั้งกรรมการตรวจสอบเหตุไฟไหม้ผับ Mountain B สอบปากคำพยานแล้ว 30 ปาก ลั่นหากพบเป็นความบกพร่องของใครต้องรับผิดชอบ
ที่ สภ.พลูตาหลวง พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมกับฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหมด และความคืบหน้าของคดีเหตุการณ์ไฟไหม้ผับ Mountain B อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เปิดศูนย์การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไว้ที่ อบต.ภูตาหลวง เพื่อรับแจ้งข้อมูลและประสานการช่วยเหลือ ส่วนผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทางญาติมายืนยันแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจน จึงต้องส่งศพไปนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจดีเอ็นเอยืนยันตัวตนอีกครั้ง
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้ส่งพิสูจน์หลักฐานกลาง และนำทีมที่มีประสบการณ์ จากตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ที่เกาะกูดจนสามารถดำเนินคดีกับเจ้าของได้มาร่วมตรวจสอบด้วย และขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำพยานไปประมาณ 30 ปากแล้ว จะต้องเร่งตรวจพิสูจน์ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้รู้ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง และได้ส่งเจ้าหน้าที่ประกบผู้ที่เกี่ยวข้อง แม้มีการปล่อยตัวไป ขอให้ญาติไม่ต้องกังวล เพราะอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อให้ความเป็นธรรมเยียวยากับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต
ขณะนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเป็นความบกพร่องของใครต้องรับผิดชอบ และหลังจากนี้จะต้องมีมาตรการไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก รวมถึงผู้ประกอบการจะต้องไปดูมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะประตูหนีไฟ ที่มีพยานเล่าว่ามีการล็อกประตู ซึ่งจะนำเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียนว่าจะป้องกันแก้ไขอย่างไรได้ และต้องให้ความรู้กับพนักงาน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะมีวิธีการรับมืออย่างไร พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการด้วยว่า อย่าคิดแสวงหาผลกำไรอย่างเดียว ต้องระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ยืนยันว่า หากใครเกี่ยวข้อง มีสี หรือไม่มีสีอย่างไร จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อดำเนินคดี และเยียวยาให้กับญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้าน พลตำรวจตรีอรรถสิทธิ์ กิจจาหาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เจ้าของร้านอยู่ในที่เกิดเหตุตั้งแต่แรก และได้สอบปากคำไปแล้วในเบื้องต้น ซึ่งเดิมสถานที่นี้ ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่เป็นการขออนุญาตเปิดเป็นร้านอาหารและจำหน่ายสุรา แต่ต่อมาในช่วงหลังลอบดัดแปลงเป็นสถานบริการ
พันตำรวจเอกวุฒิพงษ์ สมใจ ผู้กำกับการ สภ.ภูตาหลวง กล่าวอีกว่า กรณีมีการปรับเปลี่ยนจากร้านอาหารเป็นผับต้องไปตรวจสอบ ส่วนการขออนุญาต ทั้งที่ไม่ใช่โซนนิ่งที่เปิดผับได้นั้น เบื้องต้นพบว่ามีการเปิดเป็นร้านอาหาร มีการขอใบอนุญาตเป็นร้านอาหาร และจากการการพูดคุยเจ้าของร้านในที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้สอบถามเรื่องการเปิดเป็นสถานบริการ จากเดิมที่ขออนุญาตเป็นร้านอาหาร โดยหลังจากนี้จะเรียกเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะเมื่อคืนเร่งดูแลเรื่องการได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนก่อนหน้านี้ที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องเสียงดัง ก็ได้ดำเนินคดีเรื่องการใช้เสียงที่เกินต่อกฎหมายไปแล้ว โดยอำเภอประสานตำรวจไปดำเนินการ ส่วนประเด็นการไปตรวจสอบของตำรวจทุกครั้งไม่ทราบหรือว่า ที่เกิดเหตุเปิดเป็นผับไม่ใช่ร้านอาหาร ผู้กำกับ สภ.ภูตาหลวง ชี้แจงว่า การไปตรวจของตำรวจ ตรวจในลักษณะของงานป้องกันปราบปราม ไม่ได้ตรวจสอบเรื่องของการขออนุญาตใบประกอบกิจการสถานบันเทิง
นอกจากนี้มีกระแสข่าวลือว่า มีผู้ทีอิทธิพล คนมีสี เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องไปตรวจสอบ แต่เบื้องต้น กระแสข่าวที่ว่าดาบตำรวจ สภ.ภูตาหลวงเกี่ยวข้อง ยืนยันว่า ยังไม่พบ ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า กรณีพื้นที่เปิดผับเป็นพื้นที่นอกโซนนิ่งซึ่งให้ตั้งสถานบริการไม่ได้ แต่เจ้าของไปขออนุญาตจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม จึงสามารถประกอบกิจการได้ ไม่เกิน 24.00 น. แต่ภายหลังมีการดัดแปลงเปิดผับ ทั้งนี้ต้องไปตรวจสอบการดัดแปลงเป็นสถานประกอบการโดยละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย