กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ตร. ตีแผ่ “หนี ซ่อน สู้” หลักสากล การเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง (Active Shooter) ที่เอฟบีไอ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศนำมาใช้
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าตามที่ในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าเหตุกราดยิง หรือ Active Shooter ไม่ได้พบแต่ในต่างประเทศเท่านั้น แต่ในไทยก็เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว เช่น เหตุกราดยิง ที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2550 และเหตุกราดยิงที่ห้าง Terminal 21 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2563 เป็นต้น อีกทั้งหลักการดังกล่าวยังสามารถนำไปปรับใช้ในการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ยิงปะทะต่าง ๆ อีกด้วย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี-ซ่อน-สู้” หรือ “Run Hide Fight” ซึ่งเป็นหลักสากลที่ FBI และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง โดยหลักการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้
“หนี-Run” เมื่อสามารถหาเส้นทางหลบหนีที่พาไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้
- เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ ให้จดจำทาง เข้า-ออก และทางออกฉุกเฉินให้เป็นนิสัย
- เมื่อเกิดเหตุต้องตั้งสติให้ดี และมองหาเส้นทางในการหลบหนี
- ทิ้งของทุกอย่างที่ไม่จำเป็น
- ช่วยเหลือคนอื่นเท่าที่สามารถช่วยได้
“ซ่อน-Hide” เมื่อไม่สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ ให้หาสถานที่ปลอดภัยเพื่อซ่อนตัว
- ล็อคประตูและหาสิ่งที่ของมาใช้กีดขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้มาถึงตัว
- ซ่อนให้พ้นสายตาโดยหลบหลังสิ่งของขนาดใหญ่และแข็งแรง เช่น โต๊ะ กำแพง เป็นต้น
- ปิดไฟในห้อง และปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ
- อยู่ให้เงียบที่สุด ไม่พูดคุยหรือใช้เสียง
“สู้- Fight” เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อไม่สามารถหนีหรือซ่อนตัวจากคนร้ายได้ และคนร้ายกำลังจะเข้ามาถึงตัวหรือโจมตีมาที่ตน
- ร่วมกันสู้สุดกำลัง เพื่อให้มีโอกาสรอด
- ใช้การซุ่มโจมตีโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัว เพื่อหยุดยั้งคนร้าย
- ใช้สิ่งของทุกอย่างที่หาได้มาเป็นอาวุธ
- ใช้ทุกวิธีการที่นึกได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์กราดยิง หรือเหตุการณ์ที่มีการใช้อาวุธปืนต่าง ๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางเข้าไประงับเหตุได้ ทั้งนี้การโทรศัพท์แจ้งเหตุที่หมายเลข 191 ท่านจะต้องมั่นใจว่าในขณะที่ทำการโทร ตนเองอยู่นอกระยะการมองเห็นหรือได้ยินของคนร้าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายพุ่งเป้าในการโจมตีมาที่ตน. -สำนักข่าวไทย