จ่อออกหมายเรียกนักธุรกิจดังปมนำเข้ากัญชาผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 26 ก.ค.- กรมศุลกากรจับกัญชง-กัญชา นำเข้าผิดกฎหมาย ผ่านผู้ขนส่งสินค้าเร่งด่วนทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุชื่อผู้นำเข้าคือนักธุรกิจชื่อดัง โดยสำแดงว่าเป็นสินค้าเหล็ก ประสานตำรวจออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนี้


นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร แถลงข่าวการจับกุมกัญชา-กัญชง จำนวน 5.3 กิโลกรัม ผ่านผู้ขนส่งสินค้าเร่งด่วนทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการนำเข้ากัญชา-กัญชง กรมศุลกากรเฝ้าติดตามผ่านระบบบริหารความเสี่ยง และตรวจพบใบขนสินค้าขาเข้าเร่งด่วน ระบุชื่อผู้นำเข้าเป็นนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่ง โดยไม่ระบุชื่อสินค้า ผ่านบริษัทขนส่งสินค้าเร่งด่วนทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงอายัดสินค้าดังกล่าว เมื่อเปิดตรวจพบว่าสินค้ามีลักษณะคล้ายช่อดอกกัญชา-กัญชง ซึ่งเป็นของต้องกำกัด และต้องมีใบอนุญาตนำเข้าจากกรมวิชาการเกษตรมาแสดงก่อนผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดฐานแสดงข้อมูลสินค้าไม่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกำกัด เป็นความผิดตามมาตรา 244 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ประกอบพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 ทั้งนี้ เมื่อได้ตรวจสอบย้อนหลังแล้วพบว่ามีการนำเข้าลักษณะคล้ายกันนี้มาแล้ว 2 ครั้ง จึงแจ้งความดำเนินคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


นายพชร เปิดเผยเพิ่มเติมกรณีนักธุรกิจคนดังกล่าวอัดคลิปการนำเข้าช่อดอกกัญชาจากสหรัฐเข้าไทย และบอกว่าสามารถสั่งซื้อ พร้อมแสดงเอกสารการส่งสินค้าเข้ามาในไทย ว่าเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรประจำท่าอากาศสุวรรณภูมิตรวจพบสินค้า ผู้นำเข้าคือนักธุรกิจคนดังกล่าว ซึ่งสำแดงว่าเป็นสินค้าเหล็ก แต่จากการตรวจสอบกลับพบว่าภายในเป็นกัญชา เข้าข่ายเป็นความผิดต่อกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.กักพืช และ พ.ร.บ.ศุลกากร จึงหารือกับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว เห็นว่าควรพิจารณาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ฐานสำแดงเท็จ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงให้ตัวแทนกรมศุลกากรเข้าแจ้งความและประสานให้ สภ.สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่เกิดเหตุ พิจารณาออกหมายเรียกนักธุรกิจคนดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนี้ โดยขอให้ตำรวจดำเนินคดีทั้งตัวนักธุรกิจในฐานะที่เป็นผู้สั่งซื้อ และดำเนินคดีกับบริษัทนำส่งสินค้า ที่ทราบว่ามีต้นทางมาจากสหรัฐอเมริกา ส่วนที่ว่าเจ้าตัวจะให้การอย่างไร ก็ให้เป็นเรื่องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม

และมีรายงานว่า การตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง พบว่านักธุรกิจคนดังกล่าวเคยสั่งซื้อสินค้าให้นำเข้าโดยการสำแดงเท็จมาแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก พบว่าสินค้าที่สำแดงกับด่านศุลกากร แจ้งว่าเป็นของตกแต่งคริสต์มาส และพื้นยาง ก่อนที่ครั้งที่ 3 จะสำแดงเป็นสินค้าเหล็ก ซึ่งครั้งนี้มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน สามารถเอาผิดได้ ส่วนใน 2 ครั้งแรก จะส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวนไปพิจารณานำสืบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ