จับแล้วสาวขโมยเก้าอี้ศึกแดงเดือด อ้างชื่นชอบเป็นการส่วนตัว

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – จับแล้วสาวขโมยเก้าอี้นักฟุตบอลศึกแดงเดือด พบทำลายหลักฐานด้วยการกรีดเบาะเก้าอี้ อ้างชื่นชอบเป็นการส่วนตัว


ความคืบหน้าหลังจากผู้จัดการแข่งขันฟุตบอล THE MATCH Bangkok century cup 2022 เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.หัวหมาก ว่ามีคนร้ายเข้าไปขโมยที่นั่งนักฟุตบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เหตุเกิดช่วงเช้าของวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างรอการขนย้าย มีเก้าอี้ทีมลิเวอร์พูล และทีมแมนฯ ยูไนเต็ด 4 ตัว มูลค่ารวม 400,000 บาท ธง Beach flag พร้อมฐาน 2 อัน มูลค่า 5,000 บาท และภาพพื้นหลัง หรือ BACKDROP ของศิลปิน “แจ็คสัน หวัง” 1 กล่อง มูลค่า 8,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 413,000 บาท

พลตำรวจตรีพรชัย ขจรกลิ่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า เบื้องต้นตำรวจเชิญตัวผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชายตามภาพในกล้องวงจรปิดมาสอบปากคำ ให้การว่าเป็นบุคคลตามกล้องวงปิดจริง แต่ไม่ได้รู้เห็นกับฝ่ายหญิง เพียงแค่รับหน้าที่ขนย้ายเก้าอี้เท่านั้น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดฯ


ส่วนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นหญิงสาวในภาพกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบจนสามารถระบุตัวบุคคลได้ และขออนุมัติศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ออกหมายจับ ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

จากแนวทางการสืบสวนพฤติการณ์เชื่อได้ว่าทั้งคู่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุ เนื่องจากมีการมาขนของด้วยกันที่สนาม กระทั่งไปส่งของที่ปลายทาง และย้อนกลับเข้ามาที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ส่วนราคาของเก้าอี้ตัวดังกล่าวในวงการฟุตบอล จากการสอบถามผู้เสียหาย เปิดเผยว่ากำลังจะนำไปทำการประมูลเพื่อการกุศล ราคาจึงขึ้นอยู่กับการประมูลนั้นๆ

จับแล้วสาวขโมยเก้าอี้ศึกแดงเดือด
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พลตำรวจตรีพรชัย ขจรกลิ่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พร้อมด้วยพันตำรวจเอกสิทธิศักดิ์ นาคามาศ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 และนายวินิจ เลิศรัตนชัย ผู้จัดการแข่งขันศึกแดงเดือดในประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวสาววัย 34 ปี ผู้ต้องหาลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยจับกุมได้ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ พร้อมยึดของกลางเป็นเก้าอี้นั่งทีมแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล รวม 4 ตัว ได้แล้ว สภาพถูกทำลายได้รับความเสียหาย พร้อมด้วยเก้าอี้นั่งเชียร์ 13 ตัว ป้ายไวนิลรูปแจ็คสัน หวัง ขนาดความยาว 2 เมตร รวมทั้งผ้าคลุมเก้าอี้ ทั้งแมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล รวม 100 ผืน


สืบเนื่องจากนายวินิจ ในฐานะผู้จัดการแข่งขันศึกแดงเดือด ตรวจสอบพบว่าเก้าอี้นั่งและอุปกรณ์บางส่วนหายไปหลังจบการแข่งขัน จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พบว่าหญิงสาวรายดังกล่าวและผู้ชายอีกคนเข้ามาขนเก้าอี้และอุปกรณ์ต่างๆ ออกไปจากสนาม จึงเข้าแจ้งความที่ สน.หัวหมาก และสามารถติดตามจับกุมตัวได้วันนี้

ตำรวจชุดจับกุม เปิดเผยว่า จากการสืบสวน ผู้ต้องหาให้การอ้างว่ามีอาการป่วยทางจิตเวช และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ส่วนตัวมีความชื่นชอบที่จะเก็บสิ่งของต่างๆ ไว้ ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปชมการแข่งขันศึกแดงเดือด โดยซื้อบัตรเข้าไปเอง และเฝ้าสังเกตการณ์ ก่อนจะวางแผนขโมยเก้าอี้และอุปกรณ์ต่างๆ ออกมา

นายวินิจไม่เชื่อว่าหญิงสาวรายนี้จะก่อเหตุเพียงเพราะความชื่นชอบ เนื่องจากตรวจสอบโปรไฟล์แล้วพบว่าจบการศึกษาในระดับสูง และเคยมีหน้าที่การงานที่ดี แต่จะมีใบสั่งจากใครหรือไม่นั้น ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสืบสวนขยายผล เบื้องต้นพบว่ามูลค่าความเสียหายจากการถูกขโมยทรัพย์สินครั้งนี้รวมแล้วประมาณกว่า 400,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]