กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – “อัจฉริยะ” ร้อง ตร.ปปป. ให้ตรวจสอบคณะพนักงานสอบสวนคดี “แตงโม” มีการแจ้งดำเนินคดีกับ “แซน-กระติก” หรือไม่ หลังไม่ส่งโทรศัพท์มือถือให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบตามคำสั่งของอัยการ
เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ พนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อยื่นเรื่องขอให้มีการตรวจสอบว่า คณะพนักงานสอบสวนในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีการดำเนินคดี กับ “แซน” วิศาพัศ มโนมัยรัตน์ และ “กระติก” อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ในความผิดตามมาตรา 169 ผู้ใดขัดขืนคำบังคับตามกฎหมายของพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดีหรือพนักงานสอบสวน ซึ่งให้ส่งหรือจัดการส่งทรัพย์หรือเอกสารใด ให้สาบาน ให้ปฏิญาณ หรือให้ถ้อยคำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือไม่
หลังจากก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการนนทบุรี และคณะพนักงานอธิบดีอัยการ ภาค 1 มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน นำโทรศัพท์มือถือของ “แซน-กระติก” ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ เพื่อคลายข้อสงสัยในคดีดังกล่าว แต่พบว่ายังไม่มีการส่งโทรศัพท์ให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบตามคำสั่งของอัยการ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มายื่นเรื่องให้พนักงาน สอบสวน ปปป. ตรวจสอบว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีแตงโม มีการดำเนินคดีกับแซนและกระติกหรือไม่ หลังอัยการสั่งพนักงานสอบสวนให้ผู้ต้องหาบนเรือนำโทรศัพท์มือถือส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มีหมายเรียกให้มาสอบเพิ่ม และขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ผู้ต้องหา ช่วงวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ ประเด็นนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กลับไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ เนื่องจากบอกว่าได้เคยส่งมอบโทรศัพท์ให้พนักงานสอบสวนนำไปตรวจสอบที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท.ไปแล้ว ทั้ง 2 คน ยืนยันว่าให้ไม่ได้ เป็นเรื่องขัดต่อรัฐธรรมนูญ สิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหา จึงขอใช้สิทธินี้ไม่ส่งมอบให้ จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง ที่ยินยอมให้ผู้ต้องหาไม่ส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้ ทั้งนี้ หากตำรวจไม่ดำเนินคดีกับ แซนและกระติก ก็ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 โดยจะมีการแจ้งดำเนินคดีกับคณะพนักงานสอบสวนรวม 20 คน ในภายหลัง
นายอัจฉริยะ ยังเห็นว่าเหตุที่อัยการจังหวัดนนทบุรี สั่งให้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาอีกครั้ง โดยให้ส่งไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม อัยการ อาจเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะกระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานกลาง หรืออาจมีแง่มุมทางคดีใด ๆ ที่มีความสำคัญ อัยการ ถึงแจ้งพนักงานสอบสวน ให้มีการส่งโทรศัพท์ของผู้ต้องหาไปตรวจสอบเพิ่มเติมถึง 2 ครั้ง ส่วนอุปกรณ์และขั้นตอนกระบวนการในการตรวจสอบ พบว่า ทั้งของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. เป็นอุปกรณ์และกระบวนการตรวจสอบแบบเดียวกัน แต่ความน่าเชื่อถือและความกระจ่างต่อสังคมในคดีนี้อาจต่างกัน ซึ่งหากยังไม่มีการส่งโทรศัพท์ ไปตรวจสอบอีกก็เชื่อว่า อัยการนนทบุรีจะเลื่อนการสั่งคดี 5 คน บนเรือออกไปอีก จากเดิมที่นัดหมายสั่งคดีในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.)
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าคดีนี้ นายอัจฉริยะตั้งทรงว่า เป็นคดีฆาตกรรมไม่ใช่ความประมาทหมายความว่าผู้ต้องหา 2 คนที่ไม่ยอมให้โทรศัพท์มือถือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ จะเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริงหรือไม่ นายอัจฉริยะปฏิเสธไม่ตอบคำถามดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องกลับมาในภายหลัง แต่ขอให้สังคมไปดูพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทุกคน รวมถึงรอคำสั่งฟ้องของอัยการและการพิพากษาในชั้นศาลทั้งคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำและคดีที่ตนเองได้ยื่นฟ้องไป
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้มีขบวนการข่มขู่อัยการ ในคดีดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วในทำนองว่า หากยังสอบไม่เลิก ให้ระมัดระวังอันตราย ซึ่งทราบข้อมูลว่า ขบวนการดังกล่าว เป็นกลุ่มคนที่ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา 5 คนบนเรือ ซึ่งตนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดและข้อมูลได้
ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ ไปยื่นฟ้องผู้ต้องหา 5 คนบนเรือ ในคดีฆาตกรรม ศาลจังหวัดนนทบุรี มีการนัดไต่สวนมูลฟ้อง ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเท่าที่ทราบข้อมูล จนถึงขณะนี้ แม่แตงโม ยังไม่มีการยื่นเพิกถอนแต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย