กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – ตำรวจเตือนกลลวงใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็น DSI หลอกให้โหลดแอปฯ ป้องกันโกง
วันที่ 2 ก.ค.65 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น
ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์พยายามพัฒนารูปแบบการหลอกลวง พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาหลอกลวงประชาชนอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าคนร้ายมีรูปแบบในการหลอกลวงรูปแบบใหม่ โดยการแอบอ้างเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แจ้งข้อมูลผ่านระบบเสียงอัตโนมัติแนะนำแอปพลิเคชันป้องกันการถูกโกง ซึ่งมีการอ้างว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถป้องกันการโกงได้ทุกรูปแบบ โดยให้เหยื่อติดตั้งในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งหากเหยื่อหลงเชื่อติดตั้งแอปพลิเคชันตามที่คนร้ายบอก อาจถูกเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ เช่น ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ ข้อมูลรหัสผ่าน ข้อมูลบัญชีธนาคาร ทำให้ได้รับความเสียหาย หรือคนร้ายอาจหลอกให้ติดตั้งโปรแกรม Remote Desktop ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของเหยื่อถูกมิจฉาชีพควบคุมได้ และอาจเห็นข้อมูลส่วนตัว รูปถ่าย หรือไฟล์ข้อมูลสำคัญที่อยู่ในโทรศัพท์ หรืออาจเข้าใช้งานโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน เช่น สั่งให้ถอนเงิน หรือโอนเงินได้อีกด้วย
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้ประสานไปยัง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวเป็นการนำชื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไปใช้แอบอ้าง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในการติดตั้งแอปพลิเคชันลงในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของตน เพราะหากเป็นแอปพลิเคชันที่คนร้ายทำขึ้นและหลอกลวงให้ติดตั้งในอุปกรณ์โทรศัพท์ อาจทำให้พี่น้องประชาชนมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อและได้รับความเสียหายจากกลลวงดังกล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันกลโกงของคนร้าย และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นหมายเลขโทรศัพท์ใดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วนศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทร และ SMS มิจฉาชีพ 1185 (AIS), 9777 (TRUE), 1678 (DTAC) และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง. – สำนักข่าวไทย