ตร.ปรับแผนป้องกันอาชญากรรม เข้มดูแลนักเรียน

กทม. 30 มิ.ย.- ตำรวจปรับแผนป้องกันอาชญากรรม วางกำลังดูแลความปลอดภัยแก่นักเรียนมัธยม หลังเกิดเหตุชิงทรัพย์เด็กนักเรียนบ่อยครั้ง


พลตำรวจตรีนิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีช่วงที่ผ่านมามีอาชญากรรมที่เกิดกับนักเรียนบ่อยครั้ง ทั้งคดีชิงทรัพย์นักเรียนโรงเรียนหอวัง หรือกรณีนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา โดนวัยรุ่นตบเข็มตราโรงเรียน โดยระบุว่า กรณีของนักเรียนบดินทรเดชานั้น ที่ผ่านมาเข็มโรงเรียนนี้ไม่เคยเป็นเป้าหมายของสถาบันอื่น เหมือนกลุ่มนักเรียนอาชีวะ ซึ่งคนร้ายมักจะเลือกนักเรียนเป็นเหยื่อ เพราะเด็กนักเรียนจะไม่ต่อสู้โต้ตอบเหมือนผู้ใหญ่ และจะเลือกจากโรงเรียนที่ค่อนข้างมีฐานะและสะดวกต่อการหลบหนี ซึ่งจะทำให้การก่อเหตุแต่ละครั้ง จะได้ทรัพย์สินไปแน่นอน โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ เงินสด หูฟัง หรือนาฬิกา ส่วนช่วงเวลามักจะเป็นช่วงก่อนเข้าเรียนหรือหลังเลิกเรียน ที่นักเรียนจะน้อย มีเฉพาะนักเรียนบางส่วนที่มาโรงเรียนแต่เช้า

ดังนั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จึงกำชับให้ตำรวจทั้ง 88 สน. ปรับแผนป้องกันอาชญากรรม ปรับห้วงเวลาการออกตรวจตราของสายตรวจให้ถี่ยิ่งขึ้นในห้วงเวลาดังกล่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ ว่ามีจุดใดบ้างที่เป็นมุมอับกล้อง หรือมีต้นไม้บดบัง ให้ประสานกรุงเทพมหานคร เข้าตัดต้นไม้ให้เรียบร้อย และหากพื้นที่เสี่ยงจุดใดที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ก็ให้ประสานขอติดตั้งกล้องเพิ่มเติม เพราะกล้องวงจรปิดเป็นส่วนสำคัญที่บันทึกภาพคนร้ายนำไปสู่การจับกุม


นอกจากนี้ ยังให้ตำรวจทุกพื้นที่คอยเฝ้าระวัง ทำข้อมูลบุคคลที่พ้นโทษในพื้นที่ เนื่องจากร้อยละ 80 ของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น มักจะเป็นการก่อเหตุซ้ำจากบุคคลที่เคยต้องโทษมาก่อน

ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังขอให้นักเรียนที่เดินกลับบ้านตามลำพัง หลีกเลี่ยงการใส่หูฟัง การเล่นหรือคุยโทรศัพท์มือถือระหว่างกลับบ้าน เพราะจะเป็นการลดการระมัดระวังตัว หากมีคนร้ายมาจากด้านหลัง ก็จะไม่ทราบ แต่หากเหตุการณ์จวนตัว และคนร้ายไม่ได้มีอาวุธ ก็ขอให้ถ่ายคลิปวิดีโอ หรือไลฟ์สดเหตุการณ์ไว้ เพราะคนร้ายยุคนี้จะกลัวกล้อง แต่หากคนร้ายมีอาวุธ ก็ขอให้ระวังและเอาความปลอดภัยของตัวเองเป็นที่ตั้ง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย