ตั้งศูนย์ Hotline รับแจ้งความรวมคดี “ดารุมะ ซูชิ”

กทม. 23 มิ.ย.-ผบ.ตร. สั่ง บก.ปคบ. ระดมพนักงานสอบสวน ตั้งศูนย์ Hotline รับแจ้งความรวมคดี “ดารุมะ ซูชิ” ทั่วประเทศ

เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เรียกประชุม พนักงานสอบสวน บช.น.,ภ.1-9, บก.ปคบ. เพื่อกำหนดช่องทางรับคำร้องทุกข์ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจาก กรณี บริษัท ดารุมะ ซูจิ จำกัด หลอกขายคูปอง และแฟรนไชส์บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น พบผู้เสียหายแล้วกว่า 1,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับ บริษัท ดารุมะ ซูซิ จำกัด กับพวก กรณีหลอกลวงให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อ “ซื้อคูปอง ในราคา 199 บาท/คน เพื่อใช้รับประทานซูซิแซลมอนแบบบุฟเฟต์ที่ร้านดารุมะ ซูซิ จำนวน 27 สาขา ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 1,000 ราย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และหลอกลวงให้ผู้เสียหายซื้อแฟรนไชส์ ของบริษัทฯ ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “ดารุมะ (daruma) โดยเสนอแบ่งกำไรให้ 10% ของยอดจำหน่าย เมื่อผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อจ่ายเงินให้กับบริษัทฯ ปรากฏว่าไม่สามารถใช้คูปองได้เนื่องจากบริษัทฯ ปิดกิจการไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 และผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว

ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. เข้าจับกุมตัว นายเมธา ชลิงสุข ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวของ บริษัท ดารุมะ ซูซิ จำกัด ได้ที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในขณะที่เดินทางกลับจากไต้หวัน หลังหลบหนีไปกบดานอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่าคดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เห็นว่า มีประชาชนซื้อคูปองไป 33,000 กว่าราย กระจายอยู่หลายพื้นที่ และพบว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ผ่านระบบการแจ้งความออนไลน์ https://www.thaipoliceonline.com แล้วกว่า 1,000 ราย เป็นการกระทำผิดที่มีรูปแบบยุ่งยากสลับซับซ้อน เกี่ยวเนื่องกันหลายพื้นที่ และมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่อเนื่องรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหาย จึงสั่งการให้ บช.ก. โดย บก.ปคบ. เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินคดีทั้งหมด มอบหมาย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ควบคุม กำกับ ดูแล โดยให้ทุกกองบัญชาการทำการสอบสวน รวบรวมเอกสารและส่งสำนวนไปยัง บก.ปคบ.

ทั้งนี้ กรณีที่ผู้เสียหายที่ไปแจ้งความไว้แล้วกับตำรวจท้องที่ พนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนปากคำ จัดทำเอกสาร และส่งสำนวนมายัง บก.ปคบ. ส่วนผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ แอดมินจะส่งเรื่องไปยังตำรวจท้องที่ เพื่อทำการสอบสวนปากคำจัดทำเอกสาร และส่งสำนวนไปยัง บก.ปคบ. อีกเช่นกัน ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ดำเนินการภายในวันที่ 10 ก.ค.65 เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ บก.ปคบ. ให้ทันส่งสำนวนไปยังอัยการ

นอกจากนี้ ยังมีการเปิด ศูนย์ Hotline 065-9651135 เพื่อรับแจ้งเบาะแสหรือขอคำปรึกษา โดยจะมีเจ้าหน้าที่รับสายตลอด 24 ชม. และมีการตั้งกลุ่ม Line Open Chat “ผู้เสียหาย ดารุมะ ซูซิ” เพื่อให้ข้อมูลในการเตรียมเอกสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้เสียหาย
ส่วนหลักฐานที่ผู้เสียหายจะต้องนำมาให้กับพนักงานสอบสวน มีดังนี้


  1. หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปโอนเงิน สเตทเมนท์ หรือหลักฐานการหักชำระด้วยบัตรเครดิตของผู้เสียหายเอง (สำคัญ)
  2. สำเนาบัตรประชาชนผู้เสียหาย หรือหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ ผู้รับมอบติดอากรแสตมป์ลงนามให้เรียบร้อย
  3. หลักฐานการซื้อคูปองผ่านแอปพลิเคชั่น ดารุมะ ซูซิ ผ่านที่ตั้งสาขาใด (เน้นให้ปรากฎข้อมูลคูปองที่สั่งซื้อ, ประวัติการจอง, การชำระเงิน)
  4. หลักฐานการสนทนากับผู้ขาย (ถ้ามี)
  5. หลักฐานที่ผู้เสียหายพบโฆษณาขายคูปองผ่านทางช่องทางใด เช่น เฟซบุ๊ก หรือ IG เป็นต้น
  6. หลักฐานการปฏิเสธการใช้คูปอง (ถ้ามี)​ หรือหากยังไม่ได้ใช้คูปอง อาจหาหลักฐานจากข่าวว่าร้านที่ใช้บริการปิดไม่สามารถใช้บริการได้ เป็นต้น

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การปราบปราบอาชญากรรมทางออนไลน์ เป็นนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามและหาแนวทางป้องกันอย่างจริงจัง จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า อย่าหลงเป็นเหยื่อมิจฉาชีพง่ายๆ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือให้ดีก่อน ทั้งนี้หากพบเบาะแสหรือขอคำปรึกษา สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 หรือ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย