จ่อขอหมายจับเจ้าของ “ดารุมะซูชิ” สคบ.ชงดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ

กทม. 21 มิ.ย. – ตำรวจเตรียมขอหมายจับเจ้าของ “ดารุมะ ซูชิ” ฐานเจตนาฉ้อโกง ยอมรับเบื้องต้นอายัดเงินได้เพียงไม่กี่แสน แต่ความเสียหาย 100 ล้าน ขณะที่ สคบ.เสนอดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ หลังพบทั้งจำนวนผู้เสียหายและวงเงินเข้าเกณฑ์ทั้งหมด


กรณีร้านดารุมะ ซูชิ บุฟเฟต์แซลมอนชื่อดัง เปิดขาย voucher ราคา 199 บาท จาก 499 บาท ทำให้มีผู้บริโภคแห่ไปจองซื้อสิทธิ์จำนวนมาก แต่สุดท้ายเจ้าของแบรนด์ล่องหน ทั้งแฟรนไชส์ พนักงาน และคนที่ซื้อ voucher ต่างถูกลอยแพ เข้าร้อง สคบ.ให้ช่วยเหลือ ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจร้านสาขาดารุมะ ซูชิ และบริษัทดารุมะ ซูชิ ที่รามอินทรา ของ สคบ. เมื่อวาน พบว่าบริษัทปิดเงียบไม่มีคนอยู่ ส่วนการเข้าหารือกับกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือผู้บริโภค ได้ข้อสรุปว่า สคบ.จะดูแลเรื่องกฎหมายสัญญา โฆษณา และการขายตรง ส่วนดีเอสไอจะช่วยเรื่องคดีพิเศษ เพราะตามเกณฑ์ในการที่ดีเอสไอจะรับเข้าเป็นคดีพิเศษ ต้องมีผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งกรณีดารุมะ ซูชิ เข้าเกณฑ์ทั้งหมด โดยเมื่อวานนี้มีผู้บริโภคร้องเข้ามาที่ สคบ.แล้วมากกว่า 400 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาท คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสอบข้อมูลทั้งประเด็นการทำธุรกิจและเส้นทางการเงิน การทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงประสาน ตม. ตรวจสอบการเดินทางเข้าออกประเทศ ส่วนการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภควันนี้ ซึ่งมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน สคบ.จะรายงานความคืบหน้าต่างๆ ให้ที่ประชุมรับทราบ และหารือถึงแนวทางต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

ประสาน ตม.หาตัว “เมธา” ดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน
ด้านนายอนุชา นาคาศัย ให้ข้อมูลเพิ่มกับทีมข่าวว่า แม้ สคบ.จะไม่มีหน้าที่ดำเนินการในคดีโดยตรง แต่ได้สั่ง สคบ.ให้รับเรื่องร้องทุกข์ และให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือดีเอสไอ เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ศึกษาข้อมูลว่าผู้ประกอบการมีความสามารถดำเนินธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงสั่ง สคบ. ให้ทำงานเชิงรุกตรวจสอบผู้ประกอบการ หากโฆษณาเกินจริงหรือขายราคาถูกเกินไป ต้องรีบเข้าไปดำเนินการ


ตร.จ่อออกหมายจับ “เมธา” เจตนาฉ้อโกง
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยมีการสอบปากคำผู้เสียหายหลายราย ยอมรับว่าเคสดารุมะซูชิ น่าจะมีผู้เสียหายหลักหมื่น จึงอยากให้คนที่ได้รับผลกระทบเข้าแจ้งความที่ บก.ปคบ. หรือลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก เพราะตอนนี้ได้รับข้อมูลว่า เจ้าของแบรนด์เดินทางออกนอกประเทศแล้วตั้งแต่กลางดึกวันที่ 16 มิถุนายน โดยปลายทาง ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเดินทางเพียงลำพัง ส่วนจุดหมายปลายเดินทางไปไหนต่อยังต้องสืบให้แน่ชัด อย่างไรก็ตามการไม่ส่งวัตถุดิบ ดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่ม ทำให้ร้านแฟรนไชส์ต้องปิดกิจการ เข้าข่ายเจตนาหลอกลวงประชาชน วันนี้จึงจะเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมคดีให้ บก.ปคบ. ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับให้เร็วที่สุด ยอมรับขณะนี้สามารถอายัดเงินได้เพียงไม่กี่แสนบาท แต่ความเสียหายสูงเป็นหลักร้อยล้านบาท

คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกด้วยว่าตำรวจแบ่งผู้เสียหายออกเป็น 3 ส่วน คือ ผู้ซื้อคูปองไปใช้เอง ผู้เสียหายที่ซื้อคูปองไปขายต่อ และผู้เสียหายที่เป็นแฟรนไชส์ ขณะที่ สคบ.แบ่งผู้เสียหายเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มซื้อคูปอง, กลุ่มพนักงานร้านที่ตกงานกะทันหัน, กลุ่มซื้อธุรกิจแฟรนไชส์, กลุ่มซัพพลายเออร์ที่ถูกสั่งวัตถุดิบและติดหนี้ และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มเจ้าของสถานที่ให้ร้านเช่า

เหยื่อ “ดารุมะ ซูชิ” พุ่งกว่า 400 คน เสียหายกว่า 100 ล้าน
ขณะที่ทนายรัชพล ศิริสาคร ที่เป็นผู้พากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อคูปองไปแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคบ.ให้ข้อมูลเพิ่มกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาขอคำปรึกษาทางกฎหมายแล้วกว่า 400 คน ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท


ด้านนายอัญพัชร์ หนึ่งในผู้จัดการสาขา วันนี้เตรียมเดินหน้าพาพนักงานที่ได้รับผลกระทบเข้าไปขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานประกันสังคม พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาเจ้าของแบรนด์จะเป็นคนบริหารการเงินของบริษัทเองทั้งหมด ผู้จัดการสาขามีหน้าที่เพียงรับพนักงานและตกลงอัตราค่าจ้าง รวมถึงสรุปรายละเอียดค่าแรงของพนักงานในแต่ละเดือน และปกติการจ่ายเงินเดือนไม่เคยมีปัญหา ส่วนเจ้าของแบรนด์จะเดินทางไปต่างประเทศทุก 2-3 เดือน ทำให้ไม่ได้รู้สึกผิดสังเกต มีรอบนี้เท่านั้นที่รู้สึกผิดสังเกต แต่ก็ก่อนเกิดเรื่องเพียง 2-3 วันเท่านั้น

สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลของนายเมธา ชลิงสุข หรือ บอลนี่ กรรมการบริหารบริษัท ดารุมะ ซูชิ พบว่าจดทะเบียนธุรกิจเมื่อมกราคม 2559 ทุนจดทะเบียน 5 ล้าน เน้นทำธุรกิจแฟรนไชส์ โดยเรียกค่าแฟรนไชส์ 2.5 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขสัญญา 5 ปี และต้องซื้อวัตถุดิบของทางร้านเท่านั้น โดยรับประกันผลตอบแทน 10% ของยอดขาย

ส่วนสาขาแรกที่นายเมธาเปิดคือที่อุดมสุข ซอย 50 ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท พร้อมสโลแกน “กินไม่อั้น ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม” และตั้งแต่เปิดดำเนินการในทุกสาขา ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีรายได้ตั้งแต่ 11 ล้าน ไปจนถึง 45 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกไหว้พ่อแม่ก่อนโหวตนายกฯ

รัฐสภา 4 ก.ย.- “อนุทิน” ปัดจัดโผ ครม. บอกยังไม่มี เผยตั้งใจไหว้พ่อ-แม่ เป็นสิริมงคลก่อนโหวตนายกฯ คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับเข้ามาที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง ช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ย.) โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงโผ “ครม.อนุทิน 1” ว่า มีการจัดเตรียมให้ใครนั่งตำแหน่งใดและนายอนุทิน จะควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ร้องหูย ก่อนจะบอกว่ายังไม่มี ข่าวก็ลงไปเรื่อย ยังไม่ได้จัดอะไร ขนาดหัวหน้ายังไม่ได้เลย ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรุ่งนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก่อนจะเข้าอาคารรัฐสภา จะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนเพื่อความเป็นสิริมงคลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไหว้พ่อไหว้แม่นี่แหละ เป็นสิริมงคลที่สุดแล้ว -สำนักข่าวไทย

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่นไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป กลับมา […]