นำตัว “อาเสิง” ขึ้นเครื่องสอบต่อที่ กทม. ให้การภาคเสธ

17 มิ.ย. – อาเสิง มือฆ่า 2 ศพที่ไต้หวัน ยอมมอบตัวกับตำรวจกองปราบปรามและตำรวจภูธรภาค 5 ที่ชายแดนเชียงใหม่ คุมตัวขึ้นเครื่องไปสอบสวนที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นให้การภาคเสธ สารภาพเป็นผู้ล่อลวง น.ส.พจนีย์ ให้มาหาที่หอพัก อ้างตกลงเรื่องเงินและธุรกิจ และมีคนร้ายอีกกลุ่มเป็นผู้ลงมือสังหาร


นายสันติ หรือ อาเสิง วัย 35 ปี ผู้ต้องหาฆาตกรรมอำพรางศพนายประเสริฐ และนางสาวพจนีย์ แซ่หลี่ หรืออามี่ เพื่อนที่โตมาด้วยกันและกำลังท้องลูกแฝด 5 เดือน ก่อนหมกศพไว้ท้ายรถ และนำรถไปจอดทิ้งบริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงในไต้หวัน ก่อนขึ้นเครื่องหนีกลับมาไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน

อาเสิงนัดมอบตัวกับตำรวจกองปราบปรามและชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่บ้านอรุโณทัย ชายแดนไทย-เมียนมา อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตำรวจได้ควบคุมตัวอาเสิง ขึ้นรถเดินทางเข้าเชียงใหม่ทันที โดยนั่งรถตู้มายังกองบิน 41 เชียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มารอรับตัว ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอทำข่าว แต่ตำรวจและทหารไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ ก่อนที่รถตู้จำนำตัวเข้าไปภายในสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องมาสอบสวนที่กรุงเทพ


มีรายงานเบื้องต้น อาเสิงให้การภาคเสธ โดยรับสารภาพเป็นผู้ล่อลวง น.ส.พจนีย์ ให้มาหาที่หอพักในไต้หวัน อ้างว่าตกลงเรื่องเงินและธุรกิจและมีคนร้ายอีกกลุ่มเป็นผู้ลงมือสังหาร ส่วนอาเสิงรับหน้าที่ขับรถขนศพยัดท้ายรถไปจอดไว้เมื่อคืนวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน โดยหลบหนีไปบ้านพักที่บ้านใหม่หนองบัว อ.ไชยปราการ แงะออกจากบ้านไปวันที่ 10 มิ.ย. หลบหนีอยู่ตามแนวชายแดน ก่อนญาตประสานตำรวจนำอาเสิงเข้ามอบตัว

ขณะที่พี่ชายของอามี่ บอกว่าทราบข่าวการมอบตัวแล้ว และจะไปรอที่กองปราบปรามเพื่อถามอาเสิงว่าทำแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่สนิทสนมกันดูแลกันเหมือนพี่น้อง และยังทำคลิปใส่ร้ายคนตายด้วย เชื่อว่าเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากที่นายสันติถูกเจ้าหนี้ทวงเงิน 8-9 ล้านบาท ติดตามขนาดจะเอาชีวิตกัน เมื่อมาขอความช่วยเหลือจากน้องสาวตน แล้วถูกปฏิเสธด้วยถ้อยคำรุนแรง เพราะน้องสาวเคยเล่าว่าให้เงินนายสันติไป 8 แสนบาท พร้อมกับทองรูปพรรณ 15 บาท ทุกอย่างก็หายไป นายสันติอ้างว่าถูกคนงานขโมยไป ก็ยังไม่ได้ใช้คืน ไม่รวมเงินอีก 2-3 ล้านบาท ที่ยืมน้องสาวไปปล่อยกู้อีก น้องสาวคงใช้คำพูดรุนแรงจนนายสันติโกรธแค้นลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง