“ทนายตั้ม” เผยกรณี “ส.ส.เต้-อัจฉริยะ” แพแตกเร็วกว่าที่คิด

15 มิ.ย. – “ทนายตั้ม” พา “จิน” รับทราบข้อหาหมิ่นประมาท หลังถูก “กระติก” แจ้งความ เจ้าตัวมั่นใจไม่กังวลเรื่องคดี ส่วนกรณีคณะทำงานของ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ และ “อัจฉริยะ” แพแตก “ทนายตั้ม” บอกคิดไว้อยู่แล้วจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ถือว่าแตกเร็วกว่าที่คิด


นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของหนิง ปณิตา นักแสดงชื่อดัง พร้อมทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.มีนบุรี เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ให้ดำเนินคดีกับ “จิน”ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณี “กระติก” ถ่ายรูปกับแซนในรถตู้ โพสต์ลงอินสตาแกรมในวันที่พนักงานสอบสวนนำตัว 6 ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของแตงโม ไปส่งอัยการจังหวัดนนทบุรี และ “จิน” เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวด้วยข้อความเปรียบเทียบว่าเป็นตัวเงินตัวทอง

ทนายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้พานายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และยังมีอีกคดีที่ สน.ท่าข้าม ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องจากเหตุเดียวกัน จึงเตรียมทำเรื่องไปถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้รวม 2 สำนวนเป็นคดีเดียวกัน แต่ต้องขอดูรายละเอียดของสำนวนทั้ง 2 คดีก่อน


ส่วนคดีนี้ ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร จินก็แสดงเจตนาสุจริตชัดเจน เชื่อว่าพฤติการณ์คงไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท แต่อาจจะเข้าข่ายการดูหมิ่นเท่านั้น ซึ่งวันนี้ไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว เพราะเป็นคดีที่อัตราโทษน้อย และก็มาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมายอยู่แล้ว

ทนายษิทรา ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานของ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ และนายอัจฉริยะ แพแตก คิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ถือว่าแพแตกเร็วกว่าที่คิดไว้ มันไวมาก ซึ่งก็น่าตกใจ จะเป็นเวรกรรมหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ทุกการกระทำต้องมีผลทางกฎหมาย ให้รอดู

ส่วนกรณีการถอนฟ้องก็ต้องรอดูต่อไป เพราะทราบมาว่าหนังสือมอบอำนาจจากแม่ มอบให้ตั้งนานแล้ว พอมีการทวงถามขอคืน กลับไม่คืน เอาไปฟ้องตรง ต้องรอดูข้อกฎหมายว่า การฟ้องแล้วถอน จะเข้าข่ายฟ้องเท็จหรือไม่ ส่วนจะเป็นการตัดสิทธิ์ในการยื่นเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการหรือไม่ ต้องดูเจตนาของแม่ว่าแม่รับรู้หรือไม่


ทั้งนี้ การกระทำของ ส.ส.เต้ มองว่าจริงๆ แล้ว หน้าที่ของ ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ ส.ส.เต้ กำลังมาทำตัวเหมือนเป็นทนายความ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่เหมาะสมไหม เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนกรณีหลังจากอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีแล้ว คนบนเรืออาจจะเดินหน้าดำเนินคดี ทนายษิทรา กล่าวว่า ในส่วนของจิน คงไม่โดนอะไรแล้ว เพราะไม่ได้ไปใส่ร้ายหรือพูดไม่จริง ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์โดยพูดความจริง ก็ไม่ต้องกลัว

ด้าน “จิน ธรรมวัฒนะ” เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวลใจเกี่ยวกับคดีนี้เลย และทุกอย่างที่ทนายษิทราดูแลให้ก็สบายใจ ถ้าอีกฝ่ายต้องการจะเจรจาไกล่เกลี่ย ขอให้มาคุยกับทนายษิทราเท่านั้น ฝ่ายตนจะไม่เสนอตัวขอไกล่เกลี่ยก่อนอยู่แล้วด้วย ส่วนที่โพสต์แสดงความคิดเห็นไป ยืนยันว่าไม่ได้คิดอะไร อีกฝ่ายเขียนไว้ว่าเชิญคอมเมนต์ได้ ตนก็เลยโพสต์ไป ส่วนที่ตัดผม ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องความกังวลหรืออะไร แค่อยากตัดเฉยๆ

ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความของกระติก เปิดเผยว่า คดีที่ สน.มีนบุรี กระติกแจ้งความจิน เพียงคนเดียว เพราะยังไม่พบว่า หนิง มีพฤติการณ์เข้าข่ายการหมิ่นประมาท และยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจายอมความ ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ กระติก ยังไม่อยากจะออกมาพูดอะไรด้วยตัวเอง แต่หลังจากวันที่ 23 มิ.ย. ไปแล้ว คนบนเรือพร้อมที่จะออกมาเปิดเผยทุกเรื่อง นอกจากนี้ กระติกยังปรึกษากับตนด้วยว่า อาจจะแจ้งความนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ทำให้กระติกเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่

ขณะที่ในช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. ทนายษิทรา แจ้งว่าจะพา “จิน” ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ท่าข้าม ในคดีที่ “แซน วิศาพัช” ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ให้ดำเนินคดีกับจิน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีเดียวกันนี้ด้วย

ทั้งนี้ ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม แซน วิศาพัช เกี่ยวกับคดีที่แจ้งความที่ สน.ท่าข้าม โดย แซน ระบุว่า ที่แจ้งความจิน ไว้เพียงคนเดียว เพราะยังไม่มั่นใจว่า หนิง มีความเกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งก่อน และยืนยันว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยเจรจายอมความ ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายอยู่ระหว่างการปรึกษากับทนายความ และแซน ยังเปิดเผยด้วยว่า หลังวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ที่อัยการจะมีคำสั่งฟ้อง จะมีมหกรรมอย่างแน่นอน แต่จะเป็นอะไร ยังไม่ขอเปิดเผย ขอให้รอติดตาม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย