“ทนายตั้ม” เผยกรณี “ส.ส.เต้-อัจฉริยะ” แพแตกเร็วกว่าที่คิด

15 มิ.ย. – “ทนายตั้ม” พา “จิน” รับทราบข้อหาหมิ่นประมาท หลังถูก “กระติก” แจ้งความ เจ้าตัวมั่นใจไม่กังวลเรื่องคดี ส่วนกรณีคณะทำงานของ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ และ “อัจฉริยะ” แพแตก “ทนายตั้ม” บอกคิดไว้อยู่แล้วจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ถือว่าแตกเร็วกว่าที่คิด


นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของหนิง ปณิตา นักแสดงชื่อดัง พร้อมทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.มีนบุรี เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ให้ดำเนินคดีกับ “จิน”ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณี “กระติก” ถ่ายรูปกับแซนในรถตู้ โพสต์ลงอินสตาแกรมในวันที่พนักงานสอบสวนนำตัว 6 ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของแตงโม ไปส่งอัยการจังหวัดนนทบุรี และ “จิน” เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวด้วยข้อความเปรียบเทียบว่าเป็นตัวเงินตัวทอง

ทนายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้พานายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ มารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และยังมีอีกคดีที่ สน.ท่าข้าม ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องจากเหตุเดียวกัน จึงเตรียมทำเรื่องไปถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้รวม 2 สำนวนเป็นคดีเดียวกัน แต่ต้องขอดูรายละเอียดของสำนวนทั้ง 2 คดีก่อน


ส่วนคดีนี้ ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร จินก็แสดงเจตนาสุจริตชัดเจน เชื่อว่าพฤติการณ์คงไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท แต่อาจจะเข้าข่ายการดูหมิ่นเท่านั้น ซึ่งวันนี้ไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัว เพราะเป็นคดีที่อัตราโทษน้อย และก็มาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมายอยู่แล้ว

ทนายษิทรา ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานของ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ และนายอัจฉริยะ แพแตก คิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ถือว่าแพแตกเร็วกว่าที่คิดไว้ มันไวมาก ซึ่งก็น่าตกใจ จะเป็นเวรกรรมหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ทุกการกระทำต้องมีผลทางกฎหมาย ให้รอดู

ส่วนกรณีการถอนฟ้องก็ต้องรอดูต่อไป เพราะทราบมาว่าหนังสือมอบอำนาจจากแม่ มอบให้ตั้งนานแล้ว พอมีการทวงถามขอคืน กลับไม่คืน เอาไปฟ้องตรง ต้องรอดูข้อกฎหมายว่า การฟ้องแล้วถอน จะเข้าข่ายฟ้องเท็จหรือไม่ ส่วนจะเป็นการตัดสิทธิ์ในการยื่นเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการหรือไม่ ต้องดูเจตนาของแม่ว่าแม่รับรู้หรือไม่


ทั้งนี้ การกระทำของ ส.ส.เต้ มองว่าจริงๆ แล้ว หน้าที่ของ ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ ส.ส.เต้ กำลังมาทำตัวเหมือนเป็นทนายความ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่เหมาะสมไหม เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนกรณีหลังจากอัยการมีคำสั่งฟ้องคดีแล้ว คนบนเรืออาจจะเดินหน้าดำเนินคดี ทนายษิทรา กล่าวว่า ในส่วนของจิน คงไม่โดนอะไรแล้ว เพราะไม่ได้ไปใส่ร้ายหรือพูดไม่จริง ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์โดยพูดความจริง ก็ไม่ต้องกลัว

ด้าน “จิน ธรรมวัฒนะ” เปิดเผยว่า ไม่มีความกังวลใจเกี่ยวกับคดีนี้เลย และทุกอย่างที่ทนายษิทราดูแลให้ก็สบายใจ ถ้าอีกฝ่ายต้องการจะเจรจาไกล่เกลี่ย ขอให้มาคุยกับทนายษิทราเท่านั้น ฝ่ายตนจะไม่เสนอตัวขอไกล่เกลี่ยก่อนอยู่แล้วด้วย ส่วนที่โพสต์แสดงความคิดเห็นไป ยืนยันว่าไม่ได้คิดอะไร อีกฝ่ายเขียนไว้ว่าเชิญคอมเมนต์ได้ ตนก็เลยโพสต์ไป ส่วนที่ตัดผม ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องความกังวลหรืออะไร แค่อยากตัดเฉยๆ

ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความของกระติก เปิดเผยว่า คดีที่ สน.มีนบุรี กระติกแจ้งความจิน เพียงคนเดียว เพราะยังไม่พบว่า หนิง มีพฤติการณ์เข้าข่ายการหมิ่นประมาท และยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจายอมความ ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ กระติก ยังไม่อยากจะออกมาพูดอะไรด้วยตัวเอง แต่หลังจากวันที่ 23 มิ.ย. ไปแล้ว คนบนเรือพร้อมที่จะออกมาเปิดเผยทุกเรื่อง นอกจากนี้ กระติกยังปรึกษากับตนด้วยว่า อาจจะแจ้งความนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ทำให้กระติกเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่

ขณะที่ในช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. ทนายษิทรา แจ้งว่าจะพา “จิน” ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ท่าข้าม ในคดีที่ “แซน วิศาพัช” ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ให้ดำเนินคดีกับจิน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีเดียวกันนี้ด้วย

ทั้งนี้ ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม แซน วิศาพัช เกี่ยวกับคดีที่แจ้งความที่ สน.ท่าข้าม โดย แซน ระบุว่า ที่แจ้งความจิน ไว้เพียงคนเดียว เพราะยังไม่มั่นใจว่า หนิง มีความเกี่ยวข้องกับการหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งก่อน และยืนยันว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยเจรจายอมความ ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายอยู่ระหว่างการปรึกษากับทนายความ และแซน ยังเปิดเผยด้วยว่า หลังวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ที่อัยการจะมีคำสั่งฟ้อง จะมีมหกรรมอย่างแน่นอน แต่จะเป็นอะไร ยังไม่ขอเปิดเผย ขอให้รอติดตาม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์-ผลประชุม GBC กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]