กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.-“ปวีณา หงสกุล” พา 3 แม่ผู้เสียหาย ร้องรอง ผบก.น.3 เร่งเอาผิดคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนลวนลามลูก แจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คืบหน้าเพียงคดีเดียว แถมผู้ก่อเหตุกลับมาขับรับส่งนักเรียนอีก ล่าสุด สน.ฉลองกรุง เพิกถอนประกันคนขับรถตู้แล้ว พร้อมออกหมายฝากขัง
ช่วงสายวันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เดินทางพร้อมกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่เด็กหญิง 3 ราย อายุ 8 ขวบ 9 ขวบ และ 11 ขวบ ไปที่ สน.ฉลองกรุง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายเอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 56 ปี คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน (ส่วนบุคคล) รายหนึ่ง หลังเยาวชน ที่เป็นบุตรของตนเองถูกคนขับรถตู้โรงเรียนลวนลาม เหตุเกิดช่วงเดือนมิถุนายน 2564
นางปวีณา หงสกุล ระบุว่าส่วนตัวได้รับการประสานร้องทุกข์ในช่วงค่ำวานนี้ ว่าบุตรหลานของผู้เสียหายทั้งสามรายถูกคนขับรถตู้เอกชนของโรงเรียน แห่งหนึ่งก่อเหตุลวนลาม และคดีแจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มีความคืบหน้าแค่เพียง 1 คดี ล่าสุดตัวคนขับรถตู้ก็กลับมาขับรับส่งนักเรียน จึงประสานมาที่ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 เพื่อสอบถามความคืบหน้า และพาผู้เสียหายเข้าพบเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีในวันนี้
แม่เยาวชนอายุ 8 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองได้รับการบอกเล่าจากลูกสาวว่าถูกคนขับรถตู้โรงเรียนลวนลาม โดยขับรถเลยเข้าไปจอดที่บริเวณท้ายหมู่บ้านและก่อเหตุก่อนจะนำมาส่งที่บ้าน ซึ่งนอกจากตนเอง ยังเคยเห็นว่ามีเพื่อนอายุ 9 ขวบ และรุ่นพี่อายุ 11 ขวบ โดนด้วยเช่นกัน เมื่อได้รับข้อมูลจากทางลูกสาว จึงติดต่อผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนตามที่ลูกเล่า จึงทำให้มีการสอบถาม จนทราบว่าทั้งสามถูกชายคนดังกล่าวกระทำการลวมลามจริง จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ฉลองกรุง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 และติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอด
ก่อนที่ล่าสุดจะทราบว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 พนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อหากับชายคนดังกล่าวเพียง 1 คดี คือคดีลูกสาวตนเอง แต่คดีของ เพื่อนวัย 9 ขวบ และรุ่นพี่วัย 11 ขวบ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด ทั้งที่มีการแจ้งความไว้ในใบแจ้งความเดียวกัน เมื่อมีการพยายามสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กลับได้รับคำตอบว่าพนักงานสอบสวนมีคดีรับผิดชอบอยู่หลายคดี ทำให้อีกสองคดีต้องล่าช้า
นอกจากนี้ ตัวผู้ต้องหายังได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และออกมาใช้ชีวิต รวมถึงขับรถรับส่งตามปกติ ทำให้บุตรหลานของตนทั้งสามคนกลับมาหวาดกลัวอีกครั้ง หลังเปิดภาคเรียนการศึกษาที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน และพบเห็นรถตู้คันดังกล่าวมารับส่งนักเรียนคนอื่นที่โรงเรียนหรือขับผ่านบริเวณหน้าบ้าน
นอกจากนี้ ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวยังเดินทางมาที่บ้านพักของตนเอง เพื่อขอเจรจายอมความ โดยเสนอว่าจะชดใช้ให้เป็นค่าทำขวัญแต่ไม่ได้มีการระบุตัวเลขชัดเจน แต่ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องบุตรหลาน รวมถึงเพื่อนเพื่อนและรุ่นพี่ที่ ถูกกระทำ ซึ่งจากการหาข้อมูลของตนเอง ทราบว่านอกจากเคสของตนเอง 3 ราย ยังมีอีก 5-6 ราย ที่เคยถูกก่อเหตุจากชายคนนี้ แต่ผู้ปกครองไม่มีการดำเนินการทางคดี อาจเป็นเงื่อนไขส่วนตัว ซึ่งตนเองไม่ทราบ จึงอยากให้ตำรวจจัดการทางคดีให้ถึงที่สุด
ในส่วนของโรงเรียนที่ตนเองพยามติดต่อสอบถามถึงการดำเนินการต่อตัวผู้ขับขี่รถตู้รายนี้ ได้รับคำตอบว่าเป็นบุคลากรนอก ไม่ใช่พนักงานของโรงเรียน จึงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ทั้งที่ในตอนแรกทางโรงเรียนเป็นคนแนะนำให้ตนเองและครอบครัวอื่น ๆ ใช้บริการกับชายคนนี้ ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไว้ใจใช้บริการกับชายคนดังกล่าว แต่เมื่อเกิดเรื่องโรงเรียนกลับบอกว่าไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ซึ่งในส่วนของตัวชายคนนี้พฤติการณ์จะมีการรับนักเรียนจากบ้านและไปส่งที่โรงเรียนสองแห่งในเขตพื้นที่ ซึ่งยังมีผู้ปกครองอีกหลายรายที่ยังไม่ทราบถึงพฤติการณ์
ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ระบุว่าในวันนี้หลังทราบเรื่องจึงนัดหมายให้ผู้เสียหายเข้ามาพบ เพื่อสอบถามรายละเอียดทางคดี และจะตรวจสอบถึงสาเหตุของการดำเนินคดีที่ล่าช้าในส่วนอีกสองคดี แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ฉลองกรุง 2 คดี ส่วนอีกหนึ่งคดีอยู่ในอำนาจการสอบสวนของ สน.ลำผักชี ซึ่งตนเองยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่มีการดำเนินการทางคดีล่าช้ามาจากสาเหตุใด
ส่วนที่ผู้เสียหาย ระบุพนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีในความรับผิดชอบเยอะ ตนเองมองว่าไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชน และไม่ควรพูดกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในลักษณะคำพูดแบบนี้ แต่ยอมรับว่าในส่วนของ สน.ฉลองกรุง มีอัตรากำลังตำรวจที่ทำงานด้านการสอบสวนน้อย บางวันมีเพียง 1 นาย ที่ต้องทำงานทั้งวัน แต่ต่อจากนี้ตนเองขอรับหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามคดีนี้ ซึ่งหากยังเกิดความล่าช้าขึ้นอีกในอนาคต จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับตัวผู้ต้องหาที่กลุ่มผู้ปกครองยังรู้สึกไม่สบายใจ ตนเองมีแนวทางปฏิบัติไว้ในใจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงว่าตัวผู้ต้องหาจะรู้ตัวก่อน ซึ่งคาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะสามารถดำเนินการได้ ซึ่งเบื้องต้นวันนี้จะให้ สน.ฉลองกรุง เร่งรัดอีกหนึ่งคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบที่ยังไม่ดำเนินการให้รับดำเนินการทันที ส่วนทาง สน.ลำผักชี สั่งการให้เตรียมรับคดีทันทีเช่นกัน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการทางคดีได้ในไม่ช้า
ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนต้องแยกคดีทั้งหมดออกเป็นสามคดีทั้งที่เป็นพฤติการณ์เดียวกัน และผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน รวมถึงยังได้แจ้งความในวันเดียวกัน เนื่องจากลักษณะของคดีต้องแยกออกเป็นต่างกรรมต่างวาระ เพื่อดำเนินการเอาผิด รวมถึงลงโทษแยกกัน จึงทำให้ไม่สามารถรวบรวมเป็นคดีรับผิดชอบเดียวได้ รวมถึงยังมี 1 คดี ที่อยู่นอกอำนาจสอบสวนของ สน.ฉลองกรุง ด้วย และคดีนี้ยังเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับเยาวชน จึงทำให้ต้องมีการประสานหน่วยงานอื่นและสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบด้วย
ล่าสุด ตำรวจ สน.ฉลองกรุง เพิกถอนประกันคนขับรถตู้แล้ว พร้อมออกหมายฝากขัง ส่วนสาเหตุเนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย