แม่ร้องรอง ผบก.น.3 เร่งคดีคนขับรถ นร.ลวนลามลูก

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.-“ปวีณา หงสกุล” พา 3 แม่ผู้เสียหาย ร้องรอง ผบก.น.3 เร่งเอาผิดคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนลวนลามลูก แจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คืบหน้าเพียงคดีเดียว แถมผู้ก่อเหตุกลับมาขับรับส่งนักเรียนอีก ล่าสุด สน.ฉลองกรุง​ เพิกถอนประกันคนขับรถตู้แล้ว พร้อมออกหมายฝากขัง


ช่วงสายวันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เดินทางพร้อมกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่เด็กหญิง 3 ราย อายุ 8 ขวบ 9 ขวบ และ 11 ขวบ ไปที่ สน.ฉลองกรุง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายเอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 56 ปี คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน (ส่วนบุคคล) รายหนึ่ง หลังเยาวชน ที่เป็นบุตรของตนเองถูกคนขับรถตู้โรงเรียนลวนลาม เหตุเกิดช่วงเดือนมิถุนายน 2564

นางปวีณา หงสกุล ระบุว่าส่วนตัวได้รับการประสานร้องทุกข์ในช่วงค่ำวานนี้ ว่าบุตรหลานของผู้เสียหายทั้งสามรายถูกคนขับรถตู้เอกชนของโรงเรียน แห่งหนึ่งก่อเหตุลวนลาม และคดีแจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มีความคืบหน้าแค่เพียง 1 คดี ล่าสุดตัวคนขับรถตู้ก็กลับมาขับรับส่งนักเรียน จึงประสานมาที่ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 เพื่อสอบถามความคืบหน้า และพาผู้เสียหายเข้าพบเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีในวันนี้


แม่เยาวชนอายุ 8 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองได้รับการบอกเล่าจากลูกสาวว่าถูกคนขับรถตู้โรงเรียนลวนลาม โดยขับรถเลยเข้าไปจอดที่บริเวณท้ายหมู่บ้านและก่อเหตุก่อนจะนำมาส่งที่บ้าน ซึ่งนอกจากตนเอง ยังเคยเห็นว่ามีเพื่อนอายุ 9 ขวบ และรุ่นพี่อายุ 11 ขวบ โดนด้วยเช่นกัน เมื่อได้รับข้อมูลจากทางลูกสาว จึงติดต่อผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนตามที่ลูกเล่า จึงทำให้มีการสอบถาม จนทราบว่าทั้งสามถูกชายคนดังกล่าวกระทำการลวมลามจริง จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ฉลองกรุง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 และติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอด

ก่อนที่ล่าสุดจะทราบว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 พนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อหากับชายคนดังกล่าวเพียง 1 คดี คือคดีลูกสาวตนเอง แต่คดีของ เพื่อนวัย 9 ขวบ และรุ่นพี่วัย 11 ขวบ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด ทั้งที่มีการแจ้งความไว้ในใบแจ้งความเดียวกัน เมื่อมีการพยายามสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กลับได้รับคำตอบว่าพนักงานสอบสวนมีคดีรับผิดชอบอยู่หลายคดี ทำให้อีกสองคดีต้องล่าช้า

นอกจากนี้ ตัวผู้ต้องหายังได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และออกมาใช้ชีวิต รวมถึงขับรถรับส่งตามปกติ ทำให้บุตรหลานของตนทั้งสามคนกลับมาหวาดกลัวอีกครั้ง หลังเปิดภาคเรียนการศึกษาที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน และพบเห็นรถตู้คันดังกล่าวมารับส่งนักเรียนคนอื่นที่โรงเรียนหรือขับผ่านบริเวณหน้าบ้าน


นอกจากนี้ ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวยังเดินทางมาที่บ้านพักของตนเอง เพื่อขอเจรจายอมความ โดยเสนอว่าจะชดใช้ให้เป็นค่าทำขวัญแต่ไม่ได้มีการระบุตัวเลขชัดเจน แต่ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องบุตรหลาน รวมถึงเพื่อนเพื่อนและรุ่นพี่ที่ ถูกกระทำ ซึ่งจากการหาข้อมูลของตนเอง ทราบว่านอกจากเคสของตนเอง 3 ราย ยังมีอีก 5-6 ราย ที่เคยถูกก่อเหตุจากชายคนนี้ แต่ผู้ปกครองไม่มีการดำเนินการทางคดี อาจเป็นเงื่อนไขส่วนตัว ซึ่งตนเองไม่ทราบ จึงอยากให้ตำรวจจัดการทางคดีให้ถึงที่สุด

ในส่วนของโรงเรียนที่ตนเองพยามติดต่อสอบถามถึงการดำเนินการต่อตัวผู้ขับขี่รถตู้รายนี้ ได้รับคำตอบว่าเป็นบุคลากรนอก ไม่ใช่พนักงานของโรงเรียน จึงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ทั้งที่ในตอนแรกทางโรงเรียนเป็นคนแนะนำให้ตนเองและครอบครัวอื่น ๆ ใช้บริการกับชายคนนี้ ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไว้ใจใช้บริการกับชายคนดังกล่าว แต่เมื่อเกิดเรื่องโรงเรียนกลับบอกว่าไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ซึ่งในส่วนของตัวชายคนนี้พฤติการณ์จะมีการรับนักเรียนจากบ้านและไปส่งที่โรงเรียนสองแห่งในเขตพื้นที่ ซึ่งยังมีผู้ปกครองอีกหลายรายที่ยังไม่ทราบถึงพฤติการณ์

ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ระบุว่าในวันนี้หลังทราบเรื่องจึงนัดหมายให้ผู้เสียหายเข้ามาพบ เพื่อสอบถามรายละเอียดทางคดี และจะตรวจสอบถึงสาเหตุของการดำเนินคดีที่ล่าช้าในส่วนอีกสองคดี แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ฉลองกรุง 2 คดี ส่วนอีกหนึ่งคดีอยู่ในอำนาจการสอบสวนของ สน.ลำผักชี ซึ่งตนเองยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่มีการดำเนินการทางคดีล่าช้ามาจากสาเหตุใด

ส่วนที่ผู้เสียหาย ระบุพนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีในความรับผิดชอบเยอะ ตนเองมองว่าไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชน และไม่ควรพูดกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในลักษณะคำพูดแบบนี้ แต่ยอมรับว่าในส่วนของ สน.ฉลองกรุง มีอัตรากำลังตำรวจที่ทำงานด้านการสอบสวนน้อย บางวันมีเพียง 1 นาย ที่ต้องทำงานทั้งวัน แต่ต่อจากนี้ตนเองขอรับหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามคดีนี้ ซึ่งหากยังเกิดความล่าช้าขึ้นอีกในอนาคต จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับตัวผู้ต้องหาที่กลุ่มผู้ปกครองยังรู้สึกไม่สบายใจ ตนเองมีแนวทางปฏิบัติไว้ในใจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงว่าตัวผู้ต้องหาจะรู้ตัวก่อน ซึ่งคาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะสามารถดำเนินการได้ ซึ่งเบื้องต้นวันนี้จะให้ สน.ฉลองกรุง เร่งรัดอีกหนึ่งคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบที่ยังไม่ดำเนินการให้รับดำเนินการทันที ส่วนทาง สน.ลำผักชี สั่งการให้เตรียมรับคดีทันทีเช่นกัน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการทางคดีได้ในไม่ช้า

ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนต้องแยกคดีทั้งหมดออกเป็นสามคดีทั้งที่เป็นพฤติการณ์เดียวกัน และผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน รวมถึงยังได้แจ้งความในวันเดียวกัน เนื่องจากลักษณะของคดีต้องแยกออกเป็นต่างกรรมต่างวาระ เพื่อดำเนินการเอาผิด รวมถึงลงโทษแยกกัน จึงทำให้ไม่สามารถรวบรวมเป็นคดีรับผิดชอบเดียวได้ รวมถึงยังมี 1 คดี ที่อยู่นอกอำนาจสอบสวนของ สน.ฉลองกรุง ด้วย และคดีนี้ยังเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับเยาวชน จึงทำให้ต้องมีการประสานหน่วยงานอื่นและสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบด้วย

ล่าสุด ตำรวจ สน.ฉลองกรุง​ เพิกถอนประกันคนขับรถตู้แล้ว พร้อมออกหมายฝากขัง ส่วนสาเหตุเนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิง​กับพยานหลักฐาน​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“ฟิล์ม-ดีเจแมน” ไกล่เกลี่ยได้ ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท

ศาลอาญา 2 ก.ค. – “ฟิล์ม รัฐภูมิ” จับมือปรับความเข้าใจ “ดีเจแมน” ในศาล ไกล่เกลี่ยกันได้-ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท แต่คดีแจ้งความที่กองปราบฯ ยังเดินหน้าต่อ วันนี้ (2 ก.ค.68) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังการไกล่เกลี่ยกันระหว่างนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม นักร้อง นักแสดงชื่อดัง ที่เป็นโจทก์ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ฝ่าย ใช้เวลาในการเจรจากันนานเกือบ 3 ชั่วโมง นายฟิล์ม เปิดเผยหลังการเจรจากันว่า อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าทุกอย่างคุยกันได้ ตนก็พร้อมให้อภัยทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องไม่ได้มีเจตนาอะไร ก็อยากยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง เพราะผมไม่ใช่เป็นอย่างที่เขาพูด แล้วก็ไม่เคยไปตบทรัพย์ หรือไม่เคยไปทำอะไรที่ไม่ดี ซึ่งในห้องพิจารณาคดีที่ได้มีการคุยกัน […]

รวบเพิ่มอีก 1 แก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงิน 3.4 ล้าน

นนทบุรี 2 ก.ค. – สืบนครบาลบุกรวบเพิ่มอีก 1 คน แก๊ง “เสือปุ่น” ร่วมปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ระหว่างเข้าจับกุมพยายามปีนหลังคาหลบหนี สุดท้ายไม่รอด ตกลงมาบาดเจ็บ เร่งล่าอีก 4 รายที่ยังหลบหนี ภาพขณะตำรวจสืบนครบาล บุกรวบนายนนทวัฒน์ หรือสอง ที่บ้านพักย่านนนทบุรี หลังร่วมแก๊งนายวรวัฒน์ หรือ “เสือปุ่น” คนดังสายคุกในโซเชียล ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท ในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว โดยนายสอง พยายามหลบหนีด้วยการปีนหลังคาบ้านและตกลงมาถูกเศษกระจกบาดขาได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสอง ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน จากนั้นนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน โดยมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเข้ามาสอบปากคำนายสองด้วยตนเอง สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) 2 คน คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านเฟซบุ๊ก และ น.ส.นานา ซึ่งอ้างว่าถูกนายหนาวชักชวนมาก่อเหตุ ล่าสุดคือนายสอง ทำให้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนี […]

“พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ​ แม้ไร้​ รมว.กลาโหม

กลาโหม 2 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ ​แม้ไร้​ รมว.กลาโหม​ เผย​ชายแดนกัมพูชา​มีแนวโน้มดีขึ้น​ หลัง “เตีย​ เซ็ยฮา​” ยอมคุย​เปิดเวที​ GBC​ แต่อยู่ระหว่างต่อรอง​ ย้ำ​คำนึงถึงศักดิ์​ศรีของ​ 2 ประเทศ​ ขอบคุณนายกฯ เชื่อมั่น​ พร้อมระบุ​ กต.​เตรียมรับมือปม “ฮุน มา​เนต” นำ​ 3 ปราสาท​ -​ 1 พื้นที่สู่ศาลโลก พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังทรงอยู่ แต่เราได้ใช้กลไกในทุกระดับของกองทัพ ในการประสานงานกับกัมพูชา และพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุยแบบทวิภาคี​ สิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดหวัง คือกลไก​ GBC​ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ในขณะเดียวกันระดับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการพูดคุย​ ซึ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย คือทางกัมพูชาเริ่มคุยด้วยจากก่อนหน้านี้ที่ไม่คุยเลย แต่ยอมรับว่ายังมีการต่อรองกันอยู่ ซึ่งฝ่ายไทยยึดถือศักดิ์ศรีของ 2 ประเทศ […]

“สุริยะ” ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ รักษาราชการแทนนายกฯ วันแรก

ทำเนียบ 2 ก.ค.- “สุริยะ” ยิ้มรับสื่อฯ ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ปัดตอบตื่นเต้นหรือไม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าโดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนว่าตื่นเต้นหรือไม่ ในการทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก จากนั้นนายสุริยะ เป็นประธานในพิธีเนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ปีที่ 93 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นภารกิจแรกหลังทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย