แม่ร้องรอง ผบก.น.3 เร่งคดีคนขับรถ นร.ลวนลามลูก

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.-“ปวีณา หงสกุล” พา 3 แม่ผู้เสียหาย ร้องรอง ผบก.น.3 เร่งเอาผิดคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนลวนลามลูก แจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คืบหน้าเพียงคดีเดียว แถมผู้ก่อเหตุกลับมาขับรับส่งนักเรียนอีก ล่าสุด สน.ฉลองกรุง​ เพิกถอนประกันคนขับรถตู้แล้ว พร้อมออกหมายฝากขัง


ช่วงสายวันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เดินทางพร้อมกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่เด็กหญิง 3 ราย อายุ 8 ขวบ 9 ขวบ และ 11 ขวบ ไปที่ สน.ฉลองกรุง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายเอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 56 ปี คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน (ส่วนบุคคล) รายหนึ่ง หลังเยาวชน ที่เป็นบุตรของตนเองถูกคนขับรถตู้โรงเรียนลวนลาม เหตุเกิดช่วงเดือนมิถุนายน 2564

นางปวีณา หงสกุล ระบุว่าส่วนตัวได้รับการประสานร้องทุกข์ในช่วงค่ำวานนี้ ว่าบุตรหลานของผู้เสียหายทั้งสามรายถูกคนขับรถตู้เอกชนของโรงเรียน แห่งหนึ่งก่อเหตุลวนลาม และคดีแจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มีความคืบหน้าแค่เพียง 1 คดี ล่าสุดตัวคนขับรถตู้ก็กลับมาขับรับส่งนักเรียน จึงประสานมาที่ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 เพื่อสอบถามความคืบหน้า และพาผู้เสียหายเข้าพบเพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีในวันนี้


แม่เยาวชนอายุ 8 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองได้รับการบอกเล่าจากลูกสาวว่าถูกคนขับรถตู้โรงเรียนลวนลาม โดยขับรถเลยเข้าไปจอดที่บริเวณท้ายหมู่บ้านและก่อเหตุก่อนจะนำมาส่งที่บ้าน ซึ่งนอกจากตนเอง ยังเคยเห็นว่ามีเพื่อนอายุ 9 ขวบ และรุ่นพี่อายุ 11 ขวบ โดนด้วยเช่นกัน เมื่อได้รับข้อมูลจากทางลูกสาว จึงติดต่อผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนตามที่ลูกเล่า จึงทำให้มีการสอบถาม จนทราบว่าทั้งสามถูกชายคนดังกล่าวกระทำการลวมลามจริง จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ฉลองกรุง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 และติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอด

ก่อนที่ล่าสุดจะทราบว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 พนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อหากับชายคนดังกล่าวเพียง 1 คดี คือคดีลูกสาวตนเอง แต่คดีของ เพื่อนวัย 9 ขวบ และรุ่นพี่วัย 11 ขวบ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด ทั้งที่มีการแจ้งความไว้ในใบแจ้งความเดียวกัน เมื่อมีการพยายามสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กลับได้รับคำตอบว่าพนักงานสอบสวนมีคดีรับผิดชอบอยู่หลายคดี ทำให้อีกสองคดีต้องล่าช้า

นอกจากนี้ ตัวผู้ต้องหายังได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และออกมาใช้ชีวิต รวมถึงขับรถรับส่งตามปกติ ทำให้บุตรหลานของตนทั้งสามคนกลับมาหวาดกลัวอีกครั้ง หลังเปิดภาคเรียนการศึกษาที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน และพบเห็นรถตู้คันดังกล่าวมารับส่งนักเรียนคนอื่นที่โรงเรียนหรือขับผ่านบริเวณหน้าบ้าน


นอกจากนี้ ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวยังเดินทางมาที่บ้านพักของตนเอง เพื่อขอเจรจายอมความ โดยเสนอว่าจะชดใช้ให้เป็นค่าทำขวัญแต่ไม่ได้มีการระบุตัวเลขชัดเจน แต่ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องบุตรหลาน รวมถึงเพื่อนเพื่อนและรุ่นพี่ที่ ถูกกระทำ ซึ่งจากการหาข้อมูลของตนเอง ทราบว่านอกจากเคสของตนเอง 3 ราย ยังมีอีก 5-6 ราย ที่เคยถูกก่อเหตุจากชายคนนี้ แต่ผู้ปกครองไม่มีการดำเนินการทางคดี อาจเป็นเงื่อนไขส่วนตัว ซึ่งตนเองไม่ทราบ จึงอยากให้ตำรวจจัดการทางคดีให้ถึงที่สุด

ในส่วนของโรงเรียนที่ตนเองพยามติดต่อสอบถามถึงการดำเนินการต่อตัวผู้ขับขี่รถตู้รายนี้ ได้รับคำตอบว่าเป็นบุคลากรนอก ไม่ใช่พนักงานของโรงเรียน จึงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ทั้งที่ในตอนแรกทางโรงเรียนเป็นคนแนะนำให้ตนเองและครอบครัวอื่น ๆ ใช้บริการกับชายคนนี้ ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไว้ใจใช้บริการกับชายคนดังกล่าว แต่เมื่อเกิดเรื่องโรงเรียนกลับบอกว่าไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ซึ่งในส่วนของตัวชายคนนี้พฤติการณ์จะมีการรับนักเรียนจากบ้านและไปส่งที่โรงเรียนสองแห่งในเขตพื้นที่ ซึ่งยังมีผู้ปกครองอีกหลายรายที่ยังไม่ทราบถึงพฤติการณ์

ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ระบุว่าในวันนี้หลังทราบเรื่องจึงนัดหมายให้ผู้เสียหายเข้ามาพบ เพื่อสอบถามรายละเอียดทางคดี และจะตรวจสอบถึงสาเหตุของการดำเนินคดีที่ล่าช้าในส่วนอีกสองคดี แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ฉลองกรุง 2 คดี ส่วนอีกหนึ่งคดีอยู่ในอำนาจการสอบสวนของ สน.ลำผักชี ซึ่งตนเองยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่มีการดำเนินการทางคดีล่าช้ามาจากสาเหตุใด

ส่วนที่ผู้เสียหาย ระบุพนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีในความรับผิดชอบเยอะ ตนเองมองว่าไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชน และไม่ควรพูดกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในลักษณะคำพูดแบบนี้ แต่ยอมรับว่าในส่วนของ สน.ฉลองกรุง มีอัตรากำลังตำรวจที่ทำงานด้านการสอบสวนน้อย บางวันมีเพียง 1 นาย ที่ต้องทำงานทั้งวัน แต่ต่อจากนี้ตนเองขอรับหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามคดีนี้ ซึ่งหากยังเกิดความล่าช้าขึ้นอีกในอนาคต จะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับตัวผู้ต้องหาที่กลุ่มผู้ปกครองยังรู้สึกไม่สบายใจ ตนเองมีแนวทางปฏิบัติไว้ในใจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงว่าตัวผู้ต้องหาจะรู้ตัวก่อน ซึ่งคาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะสามารถดำเนินการได้ ซึ่งเบื้องต้นวันนี้จะให้ สน.ฉลองกรุง เร่งรัดอีกหนึ่งคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบที่ยังไม่ดำเนินการให้รับดำเนินการทันที ส่วนทาง สน.ลำผักชี สั่งการให้เตรียมรับคดีทันทีเช่นกัน เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการทางคดีได้ในไม่ช้า

ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนต้องแยกคดีทั้งหมดออกเป็นสามคดีทั้งที่เป็นพฤติการณ์เดียวกัน และผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน รวมถึงยังได้แจ้งความในวันเดียวกัน เนื่องจากลักษณะของคดีต้องแยกออกเป็นต่างกรรมต่างวาระ เพื่อดำเนินการเอาผิด รวมถึงลงโทษแยกกัน จึงทำให้ไม่สามารถรวบรวมเป็นคดีรับผิดชอบเดียวได้ รวมถึงยังมี 1 คดี ที่อยู่นอกอำนาจสอบสวนของ สน.ฉลองกรุง ด้วย และคดีนี้ยังเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับเยาวชน จึงทำให้ต้องมีการประสานหน่วยงานอื่นและสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบด้วย

ล่าสุด ตำรวจ สน.ฉลองกรุง​ เพิกถอนประกันคนขับรถตู้แล้ว พร้อมออกหมายฝากขัง ส่วนสาเหตุเนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิง​กับพยานหลักฐาน​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]

บ้านห้วยเต่าปะทะเดือด! ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

สงขลา 11 ก.ย.- ปะทะเดือด! เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ บ้านห้วยเต่า ขณะที่รถหุ้มเกราะทหารตกเหวขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ บาดเจ็บ 8 นาย เกิดเหตุปะทะที่บ้านห้วยเต่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะที่ชุดจรยุทธกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชุดของนายอุสมี ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่และหลบหนีเข้าไปในบ้านห้วยเต่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายของอำเภอสะบ้าย้อยและพื้นที่ใกล้เคียงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกว่า นายอุสมีน่าจะมีกำลังอยู่ประมาณ 4-5 คน และเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นหลัก ขณะที่รถหุ้มเกราะทหาร ร.5 พัน 3 ตกเหว ขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ มีทหารบาดเจ็บ 8 นาย นำตัวส่ง รพ. นาทวี แล้ว ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด พื้นที่บ้านห้วยเต่า แล้ว -สำนักข่าวไทย