fbpx

จับ “เบล ร้อยกระบอก” ใช้เอกสารคนอื่นสวมสิทธิ์ซื้อปืน

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – ตำรวจกองปราบจับ “เบล ร้อยกระบอก” พร้อมเครือข่ายยึดปืนได้ 100 กระบอก จับผู้เกี่ยวข้อง 16 คน มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมด้วย พบมีการนำเอกสารส่วนตัวของบุคคลอื่นไปสวมสิทธิ์ซื้อปืน


ปืนสงคราม ปืนพก รวม 100 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนกว่า 1 หมื่นนัด เป็นของกลางที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามยึดได้จากนายดนุพล หรือ เบล ร้อยกระบอก และเครือข่ายรวม 16 คน

โดยคดีนี้ตำรวจสืบสวนพบว่านายดนุพล มีพฤติการณ์นำเอกสารของผู้อื่นไปสวมสิทธิ์ในการขออนุญาตซื้ออาวุธปืน จนเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ตำรวจ ตชด. และทหารได้ร่วมกันจับขบวนการค้าอาวุธสงคราม ทั้งปืน และระเบิด ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าซื้อหาอาวุธปืนมาจากนายดนุพล เพื่อไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน จึงเข้าไปจับตัวนายดนุพลได้ และพบอาวุธปืนในบ้านจำนวนมาก และยังพบพยานหลักฐานสำคัญที่ขบวนการนี้ใช้ชื่อบุคคลอื่นมาขอใบอนุญาตซื้ออาวุธปืนมากกว่า 2,000 ใบ โดยอ้างว่าขอมาใช้เพื่อการกีฬา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระดับนายอำเภอทั้งในและเกษียณอายุราชการไปแล้ว ในอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดชลบุรี ที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตซึ่งเป็นเอกสารเท็จให้ เมื่อได้ใบอนุญาตเท็จแล้ว ก็จะไปซื้อปืนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และขายในตลาดมืด


การตรวจสอบยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะได้กำไรจากการขายอาวุธปืนกระบอกละ 30,000-50,000 บาท เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบเงินหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท และยึดทรัพย์สินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท

สำหรับเช้าวันนี้ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมเข้าตรวจค้น 21 จุด ทั่วประเทศ จับผู้ต้องหาได้ 16 คน โดยมีผู้ต้องหาทั้งนายทุน กลุ่มนายดนุพล กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มร้านปืน ส่วนนายดนุพล ยังให้การปฏิเสธ ไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน ส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีทั้งนายอำเภอแห่งหนึ่ง และราชการที่เกษียณไปแล้วมาเกี่ยวข้อง ส่วนปืนที่พบมีบางส่วนเป็นปืนสวัสดิการของตำรวจ ที่พบว่าถูกขายต่อให้กับเครือข่ายนี้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่ขายให้ต่อไป

ตำรวจยังเตือนประชาชนระมัดระวังการให้เอกสารสิทธิ์กับบุคคลอื่น โดยกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาจนำเอกสารไปสวมสิทธิ์ไปกระทำผิดกฎหมาย และหากพบว่ามีการกระทำผิดโดยยินยอม หรือรู้เห็น จะถือว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด มีโทษ 2 ใน 3 ของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่นเดียวกับการรับจ้างเปิดบัญชี ถือว่าจะมีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง