กทม. 12 มิ.ย.-ผบก.ตท. เผยได้รับการประสานจับกุมผู้ก่อเหตุฆ่า 2 สามีภรรยาลูกแฝดในท้องรวม 4 ศพ ยัดใส่ท้ายรถจอดทิ้งที่ลานจอดรถสถานีรถไฟในไต้หวันแล้ว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผย กรณีเกิดเหตุคนไทยฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง 4 ศพ ทิ้งท้ายรถเอสยูวี บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนในไต้หวัน โดยผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิท สันนิษฐานเกิดจากปมความขัดแย้งในเรื่องการกู้เงินและผลประโยชน์ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับจัดหาแรงงาน จนเป็นเหตุนําไปสู่คดีฆาตกรรม ได้หลบหนีกลับมาที่ประเทศไทย โดยเหตุที่เกิดขึ้นกำลังเป็นข่าวดังและสะเทือนขวัญที่สุดในไต้หวันขณะนี้ว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เกิดเหตุฆ่ากันโดยคนไทย 2 สัญชาติ ไทย-ไต้หวัน ก่อเหตุฆ่าคนไทย 2 สามีภรรยา ซึ่งการข่าวพบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทย โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันข่าวในเรื่องนี้จากเจ้าหน้าที่ที่เป็นทางการของไต้หวัน ทั้งนี้ต้องขอตรวจสอบก่อนว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร และจะตรวจสอบว่าทางการไต้หวันได้ประสานงานมายังทางการไทยหรือไม่ โดยเฉพาะตำรวจกับตำรวจ ถ้ามีการประสานงานมาจะต้องพิจารณาว่ามีความร่วมมือกับไต้หวันมากน้อยเพียงใดจะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) เปิดเผยว่าได้รับการประสานขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยได้พูดคุยเบื้องต้นกับผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจไต้หวันตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหนังสืออย่างเป็นทางการคาดว่าจะถึงในวันที่จันทร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตามตำรวจไทยและไต้หวันมีความร่วมมือที่ดีต่อกัน หากมีการร้องขอให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุก็จะมีการพิจารณาติดตามจับกุมให้ ในหลักต่างตอบแทน เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ผู้สื่อรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจจะต้องพิจารณาว่า ผู้ก่อเหตุได้สละสัญชาติไทยไปแล้วหรือไม่ เนื่องจากได้รับแจ้งข้อมูลว่าปัจจุบันผู้ก่อเหตุได้ถือสัญชาติไต้หวันด้วย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุยังคงถือหนังสือเดินทางของไทยอยู่.-สำนักข่าวไทย