สามีภรรยาถูกตร.ค้นยามวิกาล ร้องช่วยตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. สองสามีภรรยาชาวประจวบคีรีขันธ์ แจ้งความตำรวจตรวจค้นรถยามวิกาลทำให้ตกใจกลัว แต่คดีไม่คืบ เข้ากรุงเทพฯ ร้องทนายตั้ม ให้ช่วยเหลือ


จากกรณีที่มีผู้ใช้งาน TikTok รายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 1 นาที 20 วินาที ระบุว่าโดนไล่ยิงขณะขับรถกลางดึก ซึ่งในรถมีเด็ก 2 คน เป็นเด็กชาย อายุ 1 ขวบ 3 เดือน และเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ อยู่ด้วย ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้โพสต์คลิปเพิ่มเติม มีความยาว 4 นาที เป็นช่วงเวลาที่ขับรถหนีการไล่ล่าของรถยนต์ปริศนา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามประกบไม่ห่างและ มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด เหตุเกิดคืนวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา

นางสาววาเศรษฐี ส่งเสียง และนายธนยศ ทองมี สองสามีภรรยา ผู้เสียหายกรณีดังกล่าวได้ เข้าปรึกษา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โดย เล่าว่า วันเกิดเหตุมีอยู่ด้วยกัน 5 คน คือ เป็นผู้ใหญ่ 3 คน และเด็ก 2 คน เหตุเกิดขณะขับรถตู้กลับจากขายมันสำปะหลังที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อกลับบ้านที่อำเภอปราณบุรี ระหว่างทางเมื่อถึงอำเภอสามร้อยยอด มีชาย 4 คน ขับรถยนต์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ได้จอดรถแล้วนำไฟฉายมาส่องรถของตนเองเพื่อให้จอดรถ แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นที่เปลี่ยวและมืด เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงขับรถหนี จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าว ก็ได้ขับรถไล่ตามปาดหน้าและใช้อาวุธปืนยิงใส่ประมาณ 6 นัด จึงพยายามขับรถหนีสุดชีวิต ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่ป้อมตำรวจสายตรวจในอำเภอปราณบุรี แต่ไม่มีตำรวจอยู่ กลุ่มชายดังกล่าวก็ยังขับรถตามมาจนถึงป้อมดังกล่าว แล้วหยิบอาวุธปืนลงมาข่มขู่อ้างว่าเป็นตำรวจ และถามว่าตนเองหนีทำไม ด้วยความกลัวจึงบอกให้ชายกลุ่มนั้นไปพบกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. นาห้วย แต่ไม่ยอมขับตามไป จึงฉวยโอกาสขับรถหนี จนไปเฉี่ยวชนรถของกลุ่มชายดังกล่าว ก่อนไปที่ปั๊มน้ำมัน จากนั้นจึงได้แจ้งตำรวจ สภ.ปราณบุรี ให้มาตรวจสอบ เพราะเกรงว่ากลุ่มชายอาจเป็นมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตำรวจ เพื่อก่อเหตุกับผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว


จากการไปตรวจสอบของตำรวจ สภ.ปราณบุรี พบชิ้นส่วนรถของกลุ่มชายดังกล่าวตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และไปแจ้งความทันทีหลังจากเกิดเหตุ แต่จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า

ต่อมาหนึ่งในผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นตำรวจยศจ่าสิบตำรวจ สังกัด สภ.สามร้อยยอด ได้ติดต่อมาเข้าพบผู้เสียหายเพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าในวันเกิดเหตุได้ร่วมกับอาสาฯ เพื่อขอตรวจค้นแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบุตรสาว อายุ 7 ขวบ ที่ยังหวาดผวาเวลาได้ยินเสียงแตรรถ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงยืนยันจะเอาผิดให้ถึงที่สุด


ด้านนายษิทรา ระบุว่า จากการสอบถามข้อเท็จจริงพบว่า ทางผู้เสียหายไม่ได้มีพฤติการณ์อันน่าสงสัยที่จะต้องขอตรวจค้น หรือแม้ว่าตำรวจจะขอตรวจค้น ก็ไม่ควรใช้วิธีการเช่นนี้ ที่ทำให้เกิดความตกใจกลัว ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนและใช้อำนาจโดยมิชอบ และหน่วงเหนี่ยวกักขัง โดยจากนี้จะพาผู้เสียหายไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งรัดคดีที่ไม่มีความคืบหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”