fbpx

ก.อ.เลือก “นารี ตัณฑเสถียร” เป็นอัยการสูงสุดคนใหม่

สำนักงานอัยการสูงสุด 8 มิ.ย.-ก.อ.มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้ “นารี ตัณฑเสถียร” อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่ และเป็นอัยการสูงสุดผู้หญิงคนแรก


ที่ประชุม ก.อ. มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน จะมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 นี้ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องพ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุดไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 สำหรับขั้นตอนต่อไป สำนักงานอัยการสูงสุดจะดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 10 โดยจะมีหนังสือกราบเรียนประธานวุฒิสภา เพื่อให้นำเข้าที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้วก็จะนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ต่อไป

น.ส.นารี ตัณฑเสถียร ว่าที่อัยการสูงสุด คนที่ 17 สําเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทด้านกฎหมายเปรียบเทียบ Howard University, Wash, DC USA ปริญญาโทด้านกฎหมายระหว่างประเทศ The American University Wash, DC USA และปริญญาโทด้านกฎหมายการให้ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ Vrije University of Brussel, Belgium (ทุนรัฐบาลเบลเยียม)


สำหรับประวัติการทำงานของ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร

เริ่มทำงานปี พ.ศ.2528 ในสำนักงานคดีอาญาธนบุรี สำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษากฎหมายแก่หน่วยงานภาครัฐ และเจรจา ตรวจร่างสัญญาภาครัฐ พ.ศ.2553 เป็นอาจารย์ (พิเศษ) คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ.2554 เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายตระกูล วินิจนัยภาค), เลขานุการอัยการสูงสุด และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีผลงานโดดเด่น อาทิ คดีเพชรซาอุฯ คดีฆ่าเจ้าหน้าที่การทูตซาอุฯ สัญญาเกี่ยวกับพลังงาน สัญญาเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สัญญาร่วมลงทุน สัญญาการจัดหาวัคซีนและยารักษาโรคระบาดโควิด-19 และได้รับเลือกเป็น ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ (ประเภทข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป) 2 สมัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ชาวเมียนมาหนีภัยข้ามมาฝั่งไทยต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เมียนมาใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกล พร้อมส่ง MiG-29 ถล่มฝ่ายต่อต้าน ทำประชาชนเมียนมาหนีภัย ข้ามมาฝั่งไทย ต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะวิกฤตพลังงาน

อกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยเป็นการประกาศเพราะวิกฤตพลังงานที่ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ต้องใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”