กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – ตำรวจ PCT จับเครือข่ายแฮกไลน์หลอกโอนเงินรายใหญ่ พบพัวพันเครือข่ายยาเสพติด มีผู้เสียหายถูกหลอกจำนวนมาก สูญเงินกว่า 44 ล้านบาท มีบุตรชาย “อนุทิน” รมว.สาธารณสุข ด้วย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือศูนย์ PCT แถลงผลการจับกุมคนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก แล้วใช้บัญชีแอปพลิเคชันไลน์หลอกยืมเงินเพื่อน สร้างความเสียหายจำนวนมาก ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมที่ผ่านมา ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกแฮกไลน์หลอกโอนเงินกว่า 900 คน สูญเงินรวมกว่า 50 ล้านบาท พฤติกรรมของคนร้าย จะส่งฟิชชิ่งไปในเว็บไซต์จองที่พัก, กลุ่มขายเสื้อผ้า กระเป๋า ที่ดิน ทำทีเป็นสนใจขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยแนบลิงก์ชื่อแปลก ๆ ให้ผู้ขายส่งรายละเอียดมา เมื่อผู้ขายต้องการติดต่อกลับ และกดลิงก์ดังกล่าว ก็จะเข้าสู่หน้าล็อกอินเฟซบุ๊กปลอมของคนร้าย เมื่อคนร้ายได้ข้อมูลไป ก็จะนำไปล็อกอินในแอปพลิเคชันไลน์ ผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก แล้วทักไปยืมเงินเพื่อนในไลน์ของผู้เสียหาย ซึ่งจะมีตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น
จากนั้นตำรวจ ปอท.ได้สืบสวนจนทราบว่า นายสมพร (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เป็นหัวหน้าขบวนการและแฮกเกอร์ จึงขอหมายจับต่อศาล และเข้าจับกุมได้พร้อมผู้ร่วมขบวนการอีก 6 คน ทำหน้าที่ผู้จัดหาบัญชี หรือจ้างเปิดบัญชีม้า และถอนเงินที่เหยื่อโอนเข้ามา นอกจากนี้ ยังพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 7 คน สำหรับนายสมพร ถูกจับคดีเคยแฮกไลน์ของผู้เสียหายรายหนึ่ง เพื่อยืมเงินบุตรชายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเพื่อน รวม 1.6 ล้านบาท ในข้อหาร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เมื่อตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 44 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่า นายสมพร เข้าไปพัวพันกับนายบัณฑิต อวยชัย ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ที่เพิ่งถูกจับกุมไป โดยมีการรวมตัวสร้างขบวนการแฮกไลน์ขึ้นมา พร้อมพัฒนาวิธีการเดินบัญชี ด้วยการใช้กลุ่มบัญชีม้าของผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มของนายบัณฑิต ช่วยเดินบัญชี และขยายเครือข่ายจัดหาบัญชีม้า ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจสามารถอายัดเงินในบัญชีของขบวนการนี้ไว้แล้ว 32 บัญชี พร้อมขยายผลเส้นทางบัญชีม้าอีกจำนวนมาก เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการนำคืนผู้เสียหายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตอท.) เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางป้องกัน เจ้าของบัญชีควรทำการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น เพื่อเข้าสู่บัญชีเฟซบุ๊ก หรือกลับไปดูการตั้งค่าที่ไลน์ว่ามีการเชื่อมต่อกับบัญชีเฟซบุ๊กหรือไม่ หากเจ้าของบัญชีไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ในการเข้าระบบ แนะนำให้ยกเลิกการเชื่อมต่อ โดยใช้วิธีการเข้าระบบด้วยอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์แทน นอกจากนี้ ในไลน์จะมีฟังก์ชันอนุญาตให้เข้าสู่ระบบจากเครื่องอื่นได้ แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าระบบผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ควรปิด ต่อมาหากพบว่าไลน์ในมือถือหลุดออกจากระบบ ให้สันนิษฐานไว้ว่าโดนแฮกไลน์แล้ว และหากมีเพื่อนในไลน์ส่งข้อความขอยืมเงิน ควรโทรศัพท์กลับไปตรวจสอบและยืนยันอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย