“ทนายกฤษณะ” อดีตทนายแม่ จ่อฟ้องทนายดังแย่งทำคดี

31 พ.ค. – ทนายกฤษณะ อดีตทนายแม่ เตรียมยื่นคำร้องถอดถอนใบอนุญาตทนายความชื่อดัง หลังโดนแย่งคดี ขณะที่โฆษกอัยการโต้ยังไม่ได้สั่งฟ้องคดีแตงโม เพราะต้องพิจารณาสำนวนอย่างละเอียดรอบคอบ ด้าน “หมอพรทิพย์” ลั่นคดีแตงโมติดกระดุมเม็ดแรกผิด


ตามต่อกับคดีแตงโม หลังจากเมื่อวานนี้ 3 ทนายชื่อดังพาเหรดเข้าแจ้งความเอาผิด “ส.ส.เต้” กรณีพูดจาข่มขู่ เตือนคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกับคดีแตงโม นอกจากนี้ยังมีประเด็นอัยการสั่งฟ้อง 6 คนบนเรือในคดีแตงโมแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เลื่อนฟังคำสั่งเป็นปลายเดือนหน้า แต่สุดท้ายโอละพ่อ โฆษกอัยการสูงสุดออกมาโต้ไม่เป็นความจริง

กรณีวานนี้ นายธีระนนท์ ไหวดี อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการภาค 1 พร้อมคณะได้เดินทางไปประชุมและตรวจสำนวนคดีที่ค้าง รวมถึงคดีแตงโม ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี และภายหลังใช้เวลาประชุมกันนานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวได้พยายามขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องคดีแตงโม แต่อธิบดีอัยการภาค 1 และอัยการจังหวัดนนทบุรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ต่อมา พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี เป็นตัวแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เข้าพบ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อติดตามการสั่งฟ้อง 5 คนบนเรือ และกุนซือ 1 คน ซึ่งหลังใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า อัยการจังหวัดนนทบุรี ได้มีหนังสือตอบกลับ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว


โฆษกอัยการสูงสุดโต้ข่าวลือสั่งฟ้องคดีแตงโม
ประเด็นนี้ทำให้สื่อตีข่าวอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทันที แต่ให้หลังไม่นาน ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ติดต่อสอบถามประเด็นดังกล่าวไปยังนายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับการยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตอนนี้สำนวนยังอยู่ที่อธิบดีอัยการภาค 1 เพราะต้องพิจารณาสำนวนอย่างละเอียดรอบคอบ มั่นใจว่าความเห็นสั่งฟ้องยังไม่ออกในเร็วๆ นี้ อีกทั้งตามระเบียบของอัยการ จะไม่มีข่าวหลุดว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องออกไปก่อนวันนัดฟังคำสั่งแน่นอน เพราะอาจทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปก่อน


สอดคล้องกับอัยการจังหวัดนนทบุรี ที่ออกมาชี้แจงว่า แม้อัยการจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งเสร็จแล้ว แต่ตามระเบียบจะต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นให้อธิบดีอัยการภาค 1 ซึ่งได้ส่งไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม และสำนวนที่ส่งไปมีทั้งหมด 18 แฟ้ม รวมกว่า 100 หน้า ดังนั้นการพิจารณาต้องใช้ระยะเวลา ทำให้อัยการนัดผู้ต้องหาทั้งหมดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ย้ำว่าอัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่ง เพราะสำนวนยังอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาสำนักงานอัยการภาค 1 และอธิบดีอัยการภาค 1 กำลังพิจารณาอย่างละเอียด

“หมอพรทิพย์” ลั่นคดีแตงโมติดกระดุมเม็ดแรกผิด
ส่วนเมื่อวาน ส.ส.เต้ พาแม่ของแตงโม มารับและเปิดพยานหลักฐานคดีแตงโมที่สภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ ย้ำว่าคดีแตงโม จากคดีธรรมดากลายเป็นคดียืดเยื้อ เพราะติดกระดุมเม็ดแรกผิด ทำให้สังคมไม่เชื่อถือ ขอบคุณในความห่วงใยที่ถูกส่งมากรณีเจอคนกักขฬะที่แสดงตนชัดเจน รวมทั้งคนที่สังคมไม่วางใจที่เข้ามาเจอะเจอ หมอไม่ได้โอนอ่อนตามใคร แต่อยู่บนหน้าที่ที่พบหลักฐานเรื่องแผลก้างปลาและจุดตกหัวเรือ ส่วนจะฆาตกรรมหรือไม่ ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่ใช่หน้าที่ เมื่อมีผู้คนเข้ามาคุยหาความรู้ หาความเป็นธรรม ย่อมถูกดึงไปเข้าพวกเข้ากลุ่มเขาเป็นธรรมดา ขนาดมีคนเอาไปโฆษณาเท็จเรื่องยาก็มี เรื่องผ้าขาวถูกส่งมาก็นานเป็นเดือนแล้ว มีทนายออกมาเตือนว่าอาจมีการจัดฉากเอา DNA มาติดไว้ ฟังแล้วก็อยากจะฝากไว้ว่าความรู้เช่นนี้ดีมาก ควรเอาไว้ตรวจสอบเวลาทำงานให้ลูกความด้วย ที่สำคัญก่อนจะพูดอะไรก็ตรองให้ดีว่ามีข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนไหม อย่าเอามันเข้าว่า พูดให้เป็นประเด็นจนสังคมสับสน อีกด้านหมอระวังอยู่แล้วไม่ให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้านการเมืองแน่นอน ช่วงนี้คือช่วงเดินตามเส้นทางเขาเพื่ออุดมการณ์เรา
ศึกทนาย


ทนายดังแท็กทีมแจ้งความ “ส.ส.เต้” ข่มขู่ยุ่งคดีแตงโม
กรณี 2 ทนายความแท็กทีมเข้าแจ้งความเอาผิด ส.ส.เต้ กรณีพูดจาในลักษณะข่มขู่ เตือนทนายที่เข้ามายุ่งกับคดีแตงโม ระวังตัว และให้การวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายของแม่แตงโม ที่นำหลักฐานคลิปเสียงบทสนทนาที่ถูก ส.ส.เต้ ขู่กระทืบ เข้าแจ้งความกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับ ส.ส.เต้ ใน 2 ข้อหา คือ ความผิดต่อเสรีภาพ ตามมาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว แล้ว ยังมีทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ที่อุ้มสุนัขพันธุ์ชิสุเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด กรณีถูก ส.ส.เต้ ไลฟ์เฟซบุ๊กข่มขู่ กรณีที่นายรณรงค์ให้ความรู้คดีแตงโม ทนายรณณรงค์บอกว่า คำพูดข่มขู่ทำให้เขาหวาดกลัว ทำให้ต้องเข้าแจ้งความไว้ก่อน

แต่ล่าสุด อดีตทนายแม่อีกคน อย่างทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ออกมาเคลื่อนไหว โดยบอกว่า พรุ่งนี้เตรียมบุกสภาทนายความ เพื่อยื่นฟ้องถอดใบอนุญาตทนาย กรณีแย่งคดีความ ทำให้ชาวเน็ตแห่เดาว่าหมายถึงใคร ขณะที่ ส.ส.เต้ ได้แชร์โพสต์ของทนายกฤษณะ พร้อมเขียนข้อความว่า “ใครครับ พี่กฤษณะ” แต่สุดท้ายหลายคนก็คาดว่า ทนายดังที่ว่าน่าจะหมายถึงทนายเดชา ที่ก่อนหน้านี้เคยรับเป็นทนายให้แม่แตงโมต่อจากทนายกฤษณะ ซึ่งทนายเดชา ถึงกับเอ่ยปากยืนยันไม่เคยแย่งคดีแตงโมแต่อย่างใด หากมีการไปร้องเรียนเรื่องมรรยาททนายความ ตนจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนว่า เป็นการแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป ย้ำการใช้สิทธิ์ในการร้องเรียนหรือฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายต้องกระทำการโดยสุจริตถ้าเป็นความเท็จผู้ที่ร้องเรียนหรือผู้ที่แจ้งความก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ยิ่งเป็นทนายความต้องถูกลงโทษสถานหนัก. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน. นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้

ศาล รธน. 13 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ชะตา “แพทองธาร” คดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” 29 ส.ค.นี้ เปิดให้เจ้าตัวเข้าไต่สวนพร้อมเลขาฯ สมช. 21 ส.ค. ไม่มาถือว่าไม่ติดใจ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กรณีปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จฮุน เซน จริง แม้ น.ส.แพทองธาร ผู้ถูกร้อง แถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า น.ส.แพทองธาร แสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการ รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 […]

ทบ.แจงปมขอรับบริจาคลวดหนาม จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน

กองทัพบก 13 ส.ค.- โฆษก ทบ. แจงกองทัพภาค 2 ขอรับบริจาค “ลวดหนามหีบเพลง” เหตุจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยกำลังพล สกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ของทหารกัมพูชา ชี้หากรอกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ใช้เวลา 1 เดือน ย้ำรัฐบาล-กองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน และให้มาขอกับรัฐบาลว่า ยืนยันรัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน “การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญ กรณีลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาดต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบประมาณมีอย่างเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลา” โฆษก ทบ. กล่าวและว่า […]

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]