โชเฟอร์แท็กซี่ถือมีดไล่แทงไรเดอร์เข้ามอบตัว

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – โชเฟอร์แท็กซี่เข้ามอบตัว รับทราบข้อหาพกพาอาวุธมีดขู่หนุ่มไรเดอร์ ปรับ 500 บาท ส่วนคู่กรณีไม่ยอมความพร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย


ตำรวจ สน.พญาไท คุมตัวนายสมศักดิ์ คงสมกัน อายุ 72 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ที่ถือมีดไล่ไรเดอร์ มาสอบสวนที่ สน.พญาไท หลังตำรวจได้ไปติดตามที่อู่รถแท็กซี่ ย่านบางแวก ภาษีเจริญ และประสานให้เข้าพบตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยนายสมศักดิ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาจะนำมีดมาไล่แทงคู่กรณี แต่อ้างว่าผู้เสียหายจะเอาหมวกกันน็อคเข้ามาทำร้าย จึงหยิบมีดปอกผลไม้ที่อยู่ในรถออกมาเพื่อป้องกันตัว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเฉี่ยวชนรถผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ยอมรับเรื่องที่นำอาวุธมีดลงมา

ในเวลาเดียวกัน ผู้เสียหาย คือ นายสุภกิณห์ คนหลัก อายุ 24 ปี และนางสาวปภาดา นิธิปุญญะวรรธนะ อายุ 20 ปี ก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.พญาไท เนื่องจากต้องการให้คู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหาย แต่คู่กรณีปฏิเสธจะพูดคุยด้วย และรีบเดินออกจากสถานีตำรวจไปทันที


โดยนายสุภกิณห์ ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนเองกับแฟนสาวกำลังขับแกร๊บเสร็จจากการส่งอาหารในบ้านพักรถไฟ ออกจากซอยกำลังรอเลี้ยวเข้าถนนพระราม 6 โดยรถจักรยานยนต์ของตนเองออกมาอยู่กลางถนนแล้วครึ่งคันแล้ว และรถทางตรงคันอื่นก็เบี่ยงหลบให้ แต่เมื่อมาถึงแท็กซี่สีชมพู ทะเบียน ทษ5138 คู่กรณีกลับเบี่ยงเข้ามาชนเข้าบริเวณล้อหน้าของรถ เหมือนเจตนาชน จนล้อหน้าเบี้ยวผิดรูป ก่อนที่รถแท็กซี่คันดังกล่าวจะพยายามขับหลบหนี ตนเองจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปใช้มือทุบกระจกรถแท็กซี่ เพื่อเรียกให้จอดลงมาเจรจา แต่เมื่อโชเฟอร์แท็กซี่ลงจากรถมา ก็ถืออาวุธมีดลงมาด้วย และพุ่งตรงเข้ามาหาตนเอง ในลักษณะจะไล่แทง ตนเองจึงถอยหนี ซึ่งหากไม่หนีตนเองอาจจะถูกแทงไปแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปทำร้ายคู่กรณีก่อน เพียงถอดหมวกกันน็อคออกเพื่อที่จะพูดคุยเท่านั้น

ขณะที่แฟนสาวของผู้เสียหาย ก็ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุตนเองได้เรียกให้คนเข้ามาช่วย เมื่อคนเริ่มมามุงเยอะ โชเฟอร์แท็กซี่ก็กลับไปเก็บมีดที่รถ ก่อนจะกลับมาโต้เถียงกันอีกครั้ง โดยท้าทายให้เรียกตำรวจ อีกทั้งยังผลักตนเองอย่างแรงจนเซ แต่เมื่อพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยห้ามและบอกให้ไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ แต่โชเฟอร์แท็กซี่กลับขึ้นรถแล้วขับหนีไปเลย ทั้งนี้ ผู้เสียหายยืนยันว่าต้องการให้คู่กรณีชดใช้ค่าซ่อมรถ ซึ่งปัจจุบันนี้รถจักรยานยนต์แผงคอคด ล้อคด และโช้คเบี้ยว อยู่ระหว่างเข้าซ่อมที่อู่รถ

ด้านพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาโชเฟอร์แท็กซี่ฐานพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และถูกปรับเป็นเงิน 500 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ขนส่งได้นำตัวโชเฟอร์แท็กซี่ไปเข้าโครงการอบรมพฤติกรรม และพิจารณาตัดแต้มการกระทำผิดจราจรทางบก ส่วนคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความ ก็จะมีการนัดไกล่เกลี่ยเจรจาค่าเสียหายกันภายหลัง. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย