แม่ยัน “บังแจ็ค” เป็นคนดี บอกทำให้รู้ว่า “แตงโม” ตายบนบกไม่ใช่ในน้ำ

ปทุมธานี 28 พ.ค.-แม่ยัน “บังแจ็ค” เป็นคนดี อ้างช่วยตรวจสอบหลักฐาน​ในโทรศัพท์ จนพบแตงโมตายบนบกไม่ใช่ในน้ำ ด้าน ส.ส.เต้ พร้อมพาบังแจ็คกลับไทย และให้การคุ้มครองในฐานะพยานผู้ตรวจสอบหลักฐานทางคดี​ ก่อนฝากถึงคนบนเรือ ไม่ต้องมาเคลียร์​คดีกับตนเอง หากมีถึง 5,000 ล้านค่อยคุยกัน

เวลา 13.30 น. วันที่ (28 พ.ค.65) นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน เเม่ของเเตงโม พร้อมด้วย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เเละ น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคฯ ผู้ถูกเเต่งตั้งให้ดูเเลเเม่เเตงโม เดินทางถึงคริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลองสี่ จังหวัดปทุมธานี เพื่อทำพิธีเก็บ-บรรจุอัฐิ “เเตงโม ภัทรธิดา”


โดยทันทีที่มาถึง สื่อมวลชนที่ปักหลักเฝ้ารอ พยายามสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของงานในวันนี้ คุณเเม่บอกเพียงสั้นๆ ว่าขอเข้าไปทำพิธีก่อน เเล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากเสร็จพิธี ส่วนภาชนะบรรจุอัฐิ เเละป้ายหินอ่อนติดรูปภาพ-สลักชื่อ ที่จะใช้ปิดหน้าช่องบรรจุอัฐิ ทางทีมงานของคริสตจักร ได้จัดเตรียมไว้ให้เเล้ว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ทักทายคุณเเม่ ว่าหน้าตาดูสดใสขึ้น คุณเเม่ตอบว่าอาจจะเป็นเพราะสีเสื้อที่สวมใส่มาวันนี้ ซึ่งคุณเเม่สวมเสื้อสีฟ้า

ขณะเดียวกันก่อนที่แม่แตงโม จะเข้าไปทำพิธีภายในอาคาร มีแฟนคลับแตงโมที่เดินมาจาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เช้าตรู่ นำพานดอกไม้ ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวต้มมัด และเงิน 1,000 บาท มอบให้กับแม่แตงโม เพื่อเป็นการช่วยงาน ซึ่งแม่แตงโมก็กล่าวขอบคุณพร้อมบอกว่า ของกินที่นำมาให้เป็นของโปรดของแตงโมทุกอย่างเลย


จากนั้นแฟนคลับรายนี้ ได้นำนิตยสารที่มีรูปแตงโม มาเปิดเทียบกับคุณแม่ พร้อมบอกว่า “ ไม่คิดว่าคนนี้เป็นแม่ เพราะแตงโมสวย ไม่เหมือนคุณแม่เลย” ก่อนสวมกอดให้กำลังใจ และพูดกับแม่แตงโมทั้งน้ำตาว่า “อยากจะบอกให้เธอทำใจ ซักวันหนึ่งเราก็ต้องไป ทุกอย่างมันเป็นเรื่องดินน้ำลมไฟ ตัวตนไม่ใช่ตัวตน ไม่ต้องว่าใครอะไรทั้งสิ้น เดี๋ยวทุกคนก็ต้องไปเหมือนกัน”

สำหรับอัฐิของแตงโม เจ้าหน้าที่เก็บไว้ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จากนั้นนำไปเก็บภายในห้องเก็บอัฐิก่อน แล้วจัดแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยให้เเม่ 1 ส่วน พี่ชาย 1 ส่วน เเละเก็บไว้ที่คริสตจักร 1 ส่วน

สำหรับการทำพิธีวันนี้ ทำโดยอาจารย์สุรชัย พาชื่นใจ ศิษยาภิบาลคริสตจักรเมธอดิสท์ ตลับอัฐิมีไม้กางเขนอยู่บนตลับ เจ้าหน้าที่จะนำอัฐิใส่และนำไปใส่ในช่องเก็บอัฐิ และเขียนรายละเอียดวันเดือนปีเกิด และวันที่เสียชีวิต จากไปอยู่กับพระเจ้าและมีข้อพระคัมภีร์ บันทึกไว้ในแผ่นศิลา และมีรูปของคุณแตงโม


ทั้งนี้ในส่วนของบรรยากาศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีถูกจัดเเบบเรียบง่าย เเละจัดเป็นการส่วนตัวของญาติฝ่ายพ่อเเละญาติฝ่ายเเม่ ซึ่งทยอยเดินทางกันมาตั้งเเต่ช่วงบ่าย อาทิ ต่อย ดายศ พี่ชายเเตงโม, พี่สา , เเละญาติๆ ฝ่ายพ่อโส

ภายหลังพิธีเสร็จ​สิ้น นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน เเม่ของเเตงโม กล่าวว่า วันนี้ได้ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ เพื่อบรรจุอัฐิของลูกสาวเรียบร้อยเเล้ว โดยอัฐิจะเเบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยจะเอาไว้ที่คริสตจักรเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้คนที่คิดถึงได้เข้ามาเยี่ยมเเตงโม ขณะที่อัฐิอีก 2 ส่วน จะเก็บไว้กับตนเองส่วนหนึ่ง เเละให้เบิร์ดอีกส่วน เพราะเจ้าตัวขอไว้ สำหรับเบิร์ดวันนี้ไม่ได้มาร่วมพิธี เเต่เเอบเอาดอกไม้มาให้เเตงโมตั้งเเต่เมื่อวาน

ส่วนกรณีโทรศัพท์มือถือของเเตงโม ที่อยู่กับบังเเจ็ค ซึ่งได้ติดต่อกับบังเเจ็คเมื่อตอนตี 4 ที่ผ่านมา โดยบังเเจ็ครับปากว่าจะส่งโทรศัพท์กลับมาให้ เเต่ไม่ได้ส่งมาให้เเม่ ส่วนจะส่งไปให้ใครขอเก็บเป็นความลับ เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี หากเก็บไว้ที่เเม่ก็เกรงว่าจะสูญหาย อีกทั้งในโทรศัพท์ดังกล่าว ยังมีหลักฐานสำคัญทั้งรูปภาพเเละวิดีโอที่ถูกลบไป ซึ่งบังเเจ็คสามารถกู้คืนกลับมาได้ 100% เเล้ว ซึ่งตนเองได้เห็นหลักฐานบางอย่าง จนพบว่าเเตงโมเสียชีวิตบนบก ไม่ใช่ในน้ำ เเละหลักฐานดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะพลิกคดี จากอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรม

เมื่อถามถึงความว่า ทำไมคุณเเม่จึงเชื่อใจบังเเจ็ค โดยเเม่ได้ถามกลับนักข่าวว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีใครเคยคุยกับบังเเจ็ค หรือมีใครเคยเจอบังเเจ็คบ้างหรือไม่ ดังนั้นอย่าเพิ่งตัดสินใครถ้ายังไม่ได้สัมผัสกับตัว เเม่เองตอนเเรกก็ยังไม่เชื่อ จนมีนักข่าวคนหนึ่งเเนะนำให้ลองคุยดู เพราะบังเเจ็คมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยมาระยะหนึ่ง โดยระหว่างการพูดคุย บังเเจ็คได้เสนอช่วยเหลือทางด้านการเงินกับเเม่ พร้อมเสนอที่ดินจำนวน 6 ไร่ ย่านสนามบินดอนเมืองให้กับเเม่ เนื่องจากเห็นใจ เเต่เเม่ก็ได้ปฏิเสธไป ซึ่งจากการที่ตนเองได้สัมผัส เชื่อว่าบังเเจ็คเป็นคนดี

ส่วนวีรกรรมต่างๆ ที่ผ่านมา ตนเองก็เคยรับทราบมาบ้าง เเต่ก็เกิดขึ้นมา 5-6 ปีเเล้ว จึงไม่อยากนำเรื่องในอดีตมารวมกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าตนเองตัดสินใจถูกต้องเเล้ว ที่ส่งโทรศัพท์มือถือไปให้กับบังเเจ็ค

นางภนิดา กล่าวถึงเรื่องคดี ว่าหลังจากนี้จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยจะให้ความร่วมมือกับทีมงานของ ส.ส.เต้ เเละนายอัจฉริยะ ส่วนตัวมีความสบายใจขึ้น เพราะทีมงานนี้มีการทำงานเป็นทีม เชื่อว่ามาถูกทางเเล้ว อีกทั้งยังมีผู้นำทีมที่ดี มีความฉลาด อารมณ์ดี มีความเป็นผู้นำสูง ไม่พูดมาก ซึ่งเเม่ไม่เคยเจอคนเเบบนี้มาก่อน จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเหลือทางคดีได้

ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องโพสต์เตือนหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บังเเจ็ค ตนอยากเตือนว่าก่อนจะว่าคนอื่นเป็นมิจฉาชีพ มองตัวเองหรือยัง เพราะต้องถือว่าบังเเจ็คเป็นคนกล้ากู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ เเต่ตนจำเป็นต้องออกมาพูด เพราะต้องปกป้อง เพราะถือว่าบังเเจ็ค เป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้ากู้ข้อมูลให้เเม่ เเม่จึงมั่นใจส่งมือถือให้บังเเจ็ค อีกทั้งจะให้ความคุ้มครองบังเเจ็ค ในฐานะเป็นพยานในชั้นศาล หากบังเเจ็คเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็จะดูเเล รวมถึงประกันตัวในคดีที่บังเเจ็คเเจ้งความดำเนินคดี จนกว่าจะพ้นการเป็นพยานในชั้นศาลของคดีเเตงโม

สำหรับสิ่งที่ตนโพสต์ในวันนี้ เป็นลักษณะเหมือนโพสต์เตือน หวังว่าพฤติกรรมของทนายความบางคน ที่ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับคดีของเเตงโม หากยังทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ ก็จะไม่ปล่อยผ่าน ส่วนสาเหตุที่ลบโพสต์ไป เนื่องจากเป็นเพียงการโพสต์เตือนเท่านั้น เเละได้ปรึกษากับนายอัจฉริยะ เนื่องจากเนื้อหามีการพาดพิงถึงสื่อ ยืนยันจะไม่มีการฟ้องสื่อ เพราะสื่อถือเป็นกลาง เเละเป็นพยานได้

นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับ “หนุ่ม กรรชัย” เเล้ว ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เเละจะไม่ฟ้องร้อง เเละตนยังมีความสามารถเคลียร์คดีให้ “หนุ่ม กรรชัย” ได้ด้วย

ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ อ้างว่า ก่อนหน้านี้ช่วงที่ตนลงพื้นที่สืบหาพยานหลักฐานในคดีเเตงโม มีคนสนิทของหนึ่งในเเก๊งเรือสปีดโบ๊ท ติดต่อตนมา โดยบอกว่าจะนำเงินมาวางไว้ให้ที่หน้าบ้านจำนวน 15 ล้านบาท ตนมองว่าน้อยเกินไป มีไม่ถึง 5 พันล้านบาท ไม่ต้องมาคุยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]