แม่ยัน “บังแจ็ค” เป็นคนดี บอกทำให้รู้ว่า “แตงโม” ตายบนบกไม่ใช่ในน้ำ

ปทุมธานี 28 พ.ค.-แม่ยัน “บังแจ็ค” เป็นคนดี อ้างช่วยตรวจสอบหลักฐาน​ในโทรศัพท์ จนพบแตงโมตายบนบกไม่ใช่ในน้ำ ด้าน ส.ส.เต้ พร้อมพาบังแจ็คกลับไทย และให้การคุ้มครองในฐานะพยานผู้ตรวจสอบหลักฐานทางคดี​ ก่อนฝากถึงคนบนเรือ ไม่ต้องมาเคลียร์​คดีกับตนเอง หากมีถึง 5,000 ล้านค่อยคุยกัน

เวลา 13.30 น. วันที่ (28 พ.ค.65) นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน เเม่ของเเตงโม พร้อมด้วย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เเละ น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคฯ ผู้ถูกเเต่งตั้งให้ดูเเลเเม่เเตงโม เดินทางถึงคริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลองสี่ จังหวัดปทุมธานี เพื่อทำพิธีเก็บ-บรรจุอัฐิ “เเตงโม ภัทรธิดา”


โดยทันทีที่มาถึง สื่อมวลชนที่ปักหลักเฝ้ารอ พยายามสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของงานในวันนี้ คุณเเม่บอกเพียงสั้นๆ ว่าขอเข้าไปทำพิธีก่อน เเล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากเสร็จพิธี ส่วนภาชนะบรรจุอัฐิ เเละป้ายหินอ่อนติดรูปภาพ-สลักชื่อ ที่จะใช้ปิดหน้าช่องบรรจุอัฐิ ทางทีมงานของคริสตจักร ได้จัดเตรียมไว้ให้เเล้ว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ทักทายคุณเเม่ ว่าหน้าตาดูสดใสขึ้น คุณเเม่ตอบว่าอาจจะเป็นเพราะสีเสื้อที่สวมใส่มาวันนี้ ซึ่งคุณเเม่สวมเสื้อสีฟ้า

ขณะเดียวกันก่อนที่แม่แตงโม จะเข้าไปทำพิธีภายในอาคาร มีแฟนคลับแตงโมที่เดินมาจาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เช้าตรู่ นำพานดอกไม้ ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวต้มมัด และเงิน 1,000 บาท มอบให้กับแม่แตงโม เพื่อเป็นการช่วยงาน ซึ่งแม่แตงโมก็กล่าวขอบคุณพร้อมบอกว่า ของกินที่นำมาให้เป็นของโปรดของแตงโมทุกอย่างเลย


จากนั้นแฟนคลับรายนี้ ได้นำนิตยสารที่มีรูปแตงโม มาเปิดเทียบกับคุณแม่ พร้อมบอกว่า “ ไม่คิดว่าคนนี้เป็นแม่ เพราะแตงโมสวย ไม่เหมือนคุณแม่เลย” ก่อนสวมกอดให้กำลังใจ และพูดกับแม่แตงโมทั้งน้ำตาว่า “อยากจะบอกให้เธอทำใจ ซักวันหนึ่งเราก็ต้องไป ทุกอย่างมันเป็นเรื่องดินน้ำลมไฟ ตัวตนไม่ใช่ตัวตน ไม่ต้องว่าใครอะไรทั้งสิ้น เดี๋ยวทุกคนก็ต้องไปเหมือนกัน”

สำหรับอัฐิของแตงโม เจ้าหน้าที่เก็บไว้ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จากนั้นนำไปเก็บภายในห้องเก็บอัฐิก่อน แล้วจัดแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยให้เเม่ 1 ส่วน พี่ชาย 1 ส่วน เเละเก็บไว้ที่คริสตจักร 1 ส่วน

สำหรับการทำพิธีวันนี้ ทำโดยอาจารย์สุรชัย พาชื่นใจ ศิษยาภิบาลคริสตจักรเมธอดิสท์ ตลับอัฐิมีไม้กางเขนอยู่บนตลับ เจ้าหน้าที่จะนำอัฐิใส่และนำไปใส่ในช่องเก็บอัฐิ และเขียนรายละเอียดวันเดือนปีเกิด และวันที่เสียชีวิต จากไปอยู่กับพระเจ้าและมีข้อพระคัมภีร์ บันทึกไว้ในแผ่นศิลา และมีรูปของคุณแตงโม


ทั้งนี้ในส่วนของบรรยากาศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีถูกจัดเเบบเรียบง่าย เเละจัดเป็นการส่วนตัวของญาติฝ่ายพ่อเเละญาติฝ่ายเเม่ ซึ่งทยอยเดินทางกันมาตั้งเเต่ช่วงบ่าย อาทิ ต่อย ดายศ พี่ชายเเตงโม, พี่สา , เเละญาติๆ ฝ่ายพ่อโส

ภายหลังพิธีเสร็จ​สิ้น นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน เเม่ของเเตงโม กล่าวว่า วันนี้ได้ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ เพื่อบรรจุอัฐิของลูกสาวเรียบร้อยเเล้ว โดยอัฐิจะเเบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยจะเอาไว้ที่คริสตจักรเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้คนที่คิดถึงได้เข้ามาเยี่ยมเเตงโม ขณะที่อัฐิอีก 2 ส่วน จะเก็บไว้กับตนเองส่วนหนึ่ง เเละให้เบิร์ดอีกส่วน เพราะเจ้าตัวขอไว้ สำหรับเบิร์ดวันนี้ไม่ได้มาร่วมพิธี เเต่เเอบเอาดอกไม้มาให้เเตงโมตั้งเเต่เมื่อวาน

ส่วนกรณีโทรศัพท์มือถือของเเตงโม ที่อยู่กับบังเเจ็ค ซึ่งได้ติดต่อกับบังเเจ็คเมื่อตอนตี 4 ที่ผ่านมา โดยบังเเจ็ครับปากว่าจะส่งโทรศัพท์กลับมาให้ เเต่ไม่ได้ส่งมาให้เเม่ ส่วนจะส่งไปให้ใครขอเก็บเป็นความลับ เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี หากเก็บไว้ที่เเม่ก็เกรงว่าจะสูญหาย อีกทั้งในโทรศัพท์ดังกล่าว ยังมีหลักฐานสำคัญทั้งรูปภาพเเละวิดีโอที่ถูกลบไป ซึ่งบังเเจ็คสามารถกู้คืนกลับมาได้ 100% เเล้ว ซึ่งตนเองได้เห็นหลักฐานบางอย่าง จนพบว่าเเตงโมเสียชีวิตบนบก ไม่ใช่ในน้ำ เเละหลักฐานดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะพลิกคดี จากอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรม

เมื่อถามถึงความว่า ทำไมคุณเเม่จึงเชื่อใจบังเเจ็ค โดยเเม่ได้ถามกลับนักข่าวว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีใครเคยคุยกับบังเเจ็ค หรือมีใครเคยเจอบังเเจ็คบ้างหรือไม่ ดังนั้นอย่าเพิ่งตัดสินใครถ้ายังไม่ได้สัมผัสกับตัว เเม่เองตอนเเรกก็ยังไม่เชื่อ จนมีนักข่าวคนหนึ่งเเนะนำให้ลองคุยดู เพราะบังเเจ็คมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยมาระยะหนึ่ง โดยระหว่างการพูดคุย บังเเจ็คได้เสนอช่วยเหลือทางด้านการเงินกับเเม่ พร้อมเสนอที่ดินจำนวน 6 ไร่ ย่านสนามบินดอนเมืองให้กับเเม่ เนื่องจากเห็นใจ เเต่เเม่ก็ได้ปฏิเสธไป ซึ่งจากการที่ตนเองได้สัมผัส เชื่อว่าบังเเจ็คเป็นคนดี

ส่วนวีรกรรมต่างๆ ที่ผ่านมา ตนเองก็เคยรับทราบมาบ้าง เเต่ก็เกิดขึ้นมา 5-6 ปีเเล้ว จึงไม่อยากนำเรื่องในอดีตมารวมกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าตนเองตัดสินใจถูกต้องเเล้ว ที่ส่งโทรศัพท์มือถือไปให้กับบังเเจ็ค

นางภนิดา กล่าวถึงเรื่องคดี ว่าหลังจากนี้จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยจะให้ความร่วมมือกับทีมงานของ ส.ส.เต้ เเละนายอัจฉริยะ ส่วนตัวมีความสบายใจขึ้น เพราะทีมงานนี้มีการทำงานเป็นทีม เชื่อว่ามาถูกทางเเล้ว อีกทั้งยังมีผู้นำทีมที่ดี มีความฉลาด อารมณ์ดี มีความเป็นผู้นำสูง ไม่พูดมาก ซึ่งเเม่ไม่เคยเจอคนเเบบนี้มาก่อน จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเหลือทางคดีได้

ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องโพสต์เตือนหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บังเเจ็ค ตนอยากเตือนว่าก่อนจะว่าคนอื่นเป็นมิจฉาชีพ มองตัวเองหรือยัง เพราะต้องถือว่าบังเเจ็คเป็นคนกล้ากู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ เเต่ตนจำเป็นต้องออกมาพูด เพราะต้องปกป้อง เพราะถือว่าบังเเจ็ค เป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้ากู้ข้อมูลให้เเม่ เเม่จึงมั่นใจส่งมือถือให้บังเเจ็ค อีกทั้งจะให้ความคุ้มครองบังเเจ็ค ในฐานะเป็นพยานในชั้นศาล หากบังเเจ็คเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็จะดูเเล รวมถึงประกันตัวในคดีที่บังเเจ็คเเจ้งความดำเนินคดี จนกว่าจะพ้นการเป็นพยานในชั้นศาลของคดีเเตงโม

สำหรับสิ่งที่ตนโพสต์ในวันนี้ เป็นลักษณะเหมือนโพสต์เตือน หวังว่าพฤติกรรมของทนายความบางคน ที่ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับคดีของเเตงโม หากยังทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ ก็จะไม่ปล่อยผ่าน ส่วนสาเหตุที่ลบโพสต์ไป เนื่องจากเป็นเพียงการโพสต์เตือนเท่านั้น เเละได้ปรึกษากับนายอัจฉริยะ เนื่องจากเนื้อหามีการพาดพิงถึงสื่อ ยืนยันจะไม่มีการฟ้องสื่อ เพราะสื่อถือเป็นกลาง เเละเป็นพยานได้

นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับ “หนุ่ม กรรชัย” เเล้ว ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เเละจะไม่ฟ้องร้อง เเละตนยังมีความสามารถเคลียร์คดีให้ “หนุ่ม กรรชัย” ได้ด้วย

ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ อ้างว่า ก่อนหน้านี้ช่วงที่ตนลงพื้นที่สืบหาพยานหลักฐานในคดีเเตงโม มีคนสนิทของหนึ่งในเเก๊งเรือสปีดโบ๊ท ติดต่อตนมา โดยบอกว่าจะนำเงินมาวางไว้ให้ที่หน้าบ้านจำนวน 15 ล้านบาท ตนมองว่าน้อยเกินไป มีไม่ถึง 5 พันล้านบาท ไม่ต้องมาคุยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]