แม่ยัน “บังแจ็ค” เป็นคนดี บอกทำให้รู้ว่า “แตงโม” ตายบนบกไม่ใช่ในน้ำ

ปทุมธานี 28 พ.ค.-แม่ยัน “บังแจ็ค” เป็นคนดี อ้างช่วยตรวจสอบหลักฐาน​ในโทรศัพท์ จนพบแตงโมตายบนบกไม่ใช่ในน้ำ ด้าน ส.ส.เต้ พร้อมพาบังแจ็คกลับไทย และให้การคุ้มครองในฐานะพยานผู้ตรวจสอบหลักฐานทางคดี​ ก่อนฝากถึงคนบนเรือ ไม่ต้องมาเคลียร์​คดีกับตนเอง หากมีถึง 5,000 ล้านค่อยคุยกัน

เวลา 13.30 น. วันที่ (28 พ.ค.65) นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน เเม่ของเเตงโม พร้อมด้วย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เเละ น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคฯ ผู้ถูกเเต่งตั้งให้ดูเเลเเม่เเตงโม เดินทางถึงคริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลองสี่ จังหวัดปทุมธานี เพื่อทำพิธีเก็บ-บรรจุอัฐิ “เเตงโม ภัทรธิดา”


โดยทันทีที่มาถึง สื่อมวลชนที่ปักหลักเฝ้ารอ พยายามสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของงานในวันนี้ คุณเเม่บอกเพียงสั้นๆ ว่าขอเข้าไปทำพิธีก่อน เเล้วจะออกมาให้สัมภาษณ์หลังจากเสร็จพิธี ส่วนภาชนะบรรจุอัฐิ เเละป้ายหินอ่อนติดรูปภาพ-สลักชื่อ ที่จะใช้ปิดหน้าช่องบรรจุอัฐิ ทางทีมงานของคริสตจักร ได้จัดเตรียมไว้ให้เเล้ว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ทักทายคุณเเม่ ว่าหน้าตาดูสดใสขึ้น คุณเเม่ตอบว่าอาจจะเป็นเพราะสีเสื้อที่สวมใส่มาวันนี้ ซึ่งคุณเเม่สวมเสื้อสีฟ้า

ขณะเดียวกันก่อนที่แม่แตงโม จะเข้าไปทำพิธีภายในอาคาร มีแฟนคลับแตงโมที่เดินมาจาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เช้าตรู่ นำพานดอกไม้ ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวต้มมัด และเงิน 1,000 บาท มอบให้กับแม่แตงโม เพื่อเป็นการช่วยงาน ซึ่งแม่แตงโมก็กล่าวขอบคุณพร้อมบอกว่า ของกินที่นำมาให้เป็นของโปรดของแตงโมทุกอย่างเลย


จากนั้นแฟนคลับรายนี้ ได้นำนิตยสารที่มีรูปแตงโม มาเปิดเทียบกับคุณแม่ พร้อมบอกว่า “ ไม่คิดว่าคนนี้เป็นแม่ เพราะแตงโมสวย ไม่เหมือนคุณแม่เลย” ก่อนสวมกอดให้กำลังใจ และพูดกับแม่แตงโมทั้งน้ำตาว่า “อยากจะบอกให้เธอทำใจ ซักวันหนึ่งเราก็ต้องไป ทุกอย่างมันเป็นเรื่องดินน้ำลมไฟ ตัวตนไม่ใช่ตัวตน ไม่ต้องว่าใครอะไรทั้งสิ้น เดี๋ยวทุกคนก็ต้องไปเหมือนกัน”

สำหรับอัฐิของแตงโม เจ้าหน้าที่เก็บไว้ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จากนั้นนำไปเก็บภายในห้องเก็บอัฐิก่อน แล้วจัดแบ่งเป็น 3 ส่วน โดยให้เเม่ 1 ส่วน พี่ชาย 1 ส่วน เเละเก็บไว้ที่คริสตจักร 1 ส่วน

สำหรับการทำพิธีวันนี้ ทำโดยอาจารย์สุรชัย พาชื่นใจ ศิษยาภิบาลคริสตจักรเมธอดิสท์ ตลับอัฐิมีไม้กางเขนอยู่บนตลับ เจ้าหน้าที่จะนำอัฐิใส่และนำไปใส่ในช่องเก็บอัฐิ และเขียนรายละเอียดวันเดือนปีเกิด และวันที่เสียชีวิต จากไปอยู่กับพระเจ้าและมีข้อพระคัมภีร์ บันทึกไว้ในแผ่นศิลา และมีรูปของคุณแตงโม


ทั้งนี้ในส่วนของบรรยากาศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีถูกจัดเเบบเรียบง่าย เเละจัดเป็นการส่วนตัวของญาติฝ่ายพ่อเเละญาติฝ่ายเเม่ ซึ่งทยอยเดินทางกันมาตั้งเเต่ช่วงบ่าย อาทิ ต่อย ดายศ พี่ชายเเตงโม, พี่สา , เเละญาติๆ ฝ่ายพ่อโส

ภายหลังพิธีเสร็จ​สิ้น นางภนิดา ศิรยุทธโยธิน เเม่ของเเตงโม กล่าวว่า วันนี้ได้ประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ เพื่อบรรจุอัฐิของลูกสาวเรียบร้อยเเล้ว โดยอัฐิจะเเบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยจะเอาไว้ที่คริสตจักรเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้คนที่คิดถึงได้เข้ามาเยี่ยมเเตงโม ขณะที่อัฐิอีก 2 ส่วน จะเก็บไว้กับตนเองส่วนหนึ่ง เเละให้เบิร์ดอีกส่วน เพราะเจ้าตัวขอไว้ สำหรับเบิร์ดวันนี้ไม่ได้มาร่วมพิธี เเต่เเอบเอาดอกไม้มาให้เเตงโมตั้งเเต่เมื่อวาน

ส่วนกรณีโทรศัพท์มือถือของเเตงโม ที่อยู่กับบังเเจ็ค ซึ่งได้ติดต่อกับบังเเจ็คเมื่อตอนตี 4 ที่ผ่านมา โดยบังเเจ็ครับปากว่าจะส่งโทรศัพท์กลับมาให้ เเต่ไม่ได้ส่งมาให้เเม่ ส่วนจะส่งไปให้ใครขอเก็บเป็นความลับ เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี หากเก็บไว้ที่เเม่ก็เกรงว่าจะสูญหาย อีกทั้งในโทรศัพท์ดังกล่าว ยังมีหลักฐานสำคัญทั้งรูปภาพเเละวิดีโอที่ถูกลบไป ซึ่งบังเเจ็คสามารถกู้คืนกลับมาได้ 100% เเล้ว ซึ่งตนเองได้เห็นหลักฐานบางอย่าง จนพบว่าเเตงโมเสียชีวิตบนบก ไม่ใช่ในน้ำ เเละหลักฐานดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะพลิกคดี จากอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรม

เมื่อถามถึงความว่า ทำไมคุณเเม่จึงเชื่อใจบังเเจ็ค โดยเเม่ได้ถามกลับนักข่าวว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีใครเคยคุยกับบังเเจ็ค หรือมีใครเคยเจอบังเเจ็คบ้างหรือไม่ ดังนั้นอย่าเพิ่งตัดสินใครถ้ายังไม่ได้สัมผัสกับตัว เเม่เองตอนเเรกก็ยังไม่เชื่อ จนมีนักข่าวคนหนึ่งเเนะนำให้ลองคุยดู เพราะบังเเจ็คมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยมาระยะหนึ่ง โดยระหว่างการพูดคุย บังเเจ็คได้เสนอช่วยเหลือทางด้านการเงินกับเเม่ พร้อมเสนอที่ดินจำนวน 6 ไร่ ย่านสนามบินดอนเมืองให้กับเเม่ เนื่องจากเห็นใจ เเต่เเม่ก็ได้ปฏิเสธไป ซึ่งจากการที่ตนเองได้สัมผัส เชื่อว่าบังเเจ็คเป็นคนดี

ส่วนวีรกรรมต่างๆ ที่ผ่านมา ตนเองก็เคยรับทราบมาบ้าง เเต่ก็เกิดขึ้นมา 5-6 ปีเเล้ว จึงไม่อยากนำเรื่องในอดีตมารวมกับเรื่องนี้ ยืนยันว่าตนเองตัดสินใจถูกต้องเเล้ว ที่ส่งโทรศัพท์มือถือไปให้กับบังเเจ็ค

นางภนิดา กล่าวถึงเรื่องคดี ว่าหลังจากนี้จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ โดยจะให้ความร่วมมือกับทีมงานของ ส.ส.เต้ เเละนายอัจฉริยะ ส่วนตัวมีความสบายใจขึ้น เพราะทีมงานนี้มีการทำงานเป็นทีม เชื่อว่ามาถูกทางเเล้ว อีกทั้งยังมีผู้นำทีมที่ดี มีความฉลาด อารมณ์ดี มีความเป็นผู้นำสูง ไม่พูดมาก ซึ่งเเม่ไม่เคยเจอคนเเบบนี้มาก่อน จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเหลือทางคดีได้

ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องโพสต์เตือนหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บังเเจ็ค ตนอยากเตือนว่าก่อนจะว่าคนอื่นเป็นมิจฉาชีพ มองตัวเองหรือยัง เพราะต้องถือว่าบังเเจ็คเป็นคนกล้ากู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ เเต่ตนจำเป็นต้องออกมาพูด เพราะต้องปกป้อง เพราะถือว่าบังเเจ็ค เป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้ากู้ข้อมูลให้เเม่ เเม่จึงมั่นใจส่งมือถือให้บังเเจ็ค อีกทั้งจะให้ความคุ้มครองบังเเจ็ค ในฐานะเป็นพยานในชั้นศาล หากบังเเจ็คเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็จะดูเเล รวมถึงประกันตัวในคดีที่บังเเจ็คเเจ้งความดำเนินคดี จนกว่าจะพ้นการเป็นพยานในชั้นศาลของคดีเเตงโม

สำหรับสิ่งที่ตนโพสต์ในวันนี้ เป็นลักษณะเหมือนโพสต์เตือน หวังว่าพฤติกรรมของทนายความบางคน ที่ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับคดีของเเตงโม หากยังทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ ก็จะไม่ปล่อยผ่าน ส่วนสาเหตุที่ลบโพสต์ไป เนื่องจากเป็นเพียงการโพสต์เตือนเท่านั้น เเละได้ปรึกษากับนายอัจฉริยะ เนื่องจากเนื้อหามีการพาดพิงถึงสื่อ ยืนยันจะไม่มีการฟ้องสื่อ เพราะสื่อถือเป็นกลาง เเละเป็นพยานได้

นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับ “หนุ่ม กรรชัย” เเล้ว ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เเละจะไม่ฟ้องร้อง เเละตนยังมีความสามารถเคลียร์คดีให้ “หนุ่ม กรรชัย” ได้ด้วย

ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ อ้างว่า ก่อนหน้านี้ช่วงที่ตนลงพื้นที่สืบหาพยานหลักฐานในคดีเเตงโม มีคนสนิทของหนึ่งในเเก๊งเรือสปีดโบ๊ท ติดต่อตนมา โดยบอกว่าจะนำเงินมาวางไว้ให้ที่หน้าบ้านจำนวน 15 ล้านบาท ตนมองว่าน้อยเกินไป มีไม่ถึง 5 พันล้านบาท ไม่ต้องมาคุยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]