สิ้นข้อสงสัย ที่แท้ “แม่” ส่งมือถือแตงโมให้ “บังแจ็ค”

25 พ.ค. – ในที่สุดสังคมสิ้นข้อสงสัยว่าใครเป็นคนนำข้อมูลภาพ-คลิปโพสต์ในโซเชียล ในเฟซบุ๊กของแตงโมแล้ว หลังทนายเดชายอมรับว่า แม่เป็นคนส่งมือถือแตงโมให้บังแจ็คที่อเมริกา เพราะแม่ต้องการกู้ภาพหลักฐานถูกฆาตกรรม ด้านทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กหลังทราบเรื่องดังกล่าว


นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่แตงโม ภัทรธิดา แถลงข่าวด่วนประเด็นโทรศัพท์มือถือแตงโมอยู่ที่ใคร? โดยเปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายได้โทรศัพท์พูดคุยกับนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่ของแตงโม ซึ่งแม่แตงโมยอมรับแล้วว่าได้ส่งโทรศัพท์มือถือให้กับ “บังแจ็ค” ผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ไปที่สหรัฐ โดยเสียค่าใช้จ่ายในการส่ง 2,500 บาท ส่งมือถือไปช่วงก่อนวันที่ 21 พฤษภาคม ก่อนจะพบว่ามีการเริ่มโพสต์ภาพในเพจเฟซบุ๊กที่อ้างว่าเป็นของแตงโมหลายเพจ

สาเหตุที่แม่ส่งไปเพราะไว้ใจ “บังแจ็ค” หลังบังแจ็คโทรศัพท์มาคุยหลายรอบ และก็พูดคุยปรับทุกข์หลังจากเกิดเหตุ จนล่าสุดบังแจ็คได้กล่าวอ้างว่าในมือถือของแตงโมมีรูปภาพ และคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโมที่เป็นการฆาตกรรม และต้องการโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ ด้วยความไว้ใจและต้องการทราบความจริง แม่แตงโมจึงยอมส่งโทรศัพท์มือถือไปให้ หลังจากที่ได้คืนมาจากพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม


ส่วนแม่ของแตงโมจะได้รับค่าตอบแทนจากบังแจ็คหรือไม่ ทนายเดชาบอกว่า ไม่ทราบและเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม่ของแตงโมจะแถลงด้วยตัวเองอีกครั้งหลังจากนี้อีก 2 วัน ซึ่งแม่บอกเป็นสิทธิ์ของแม่ที่จะพูดคุยกับใครก็ได้

ล่าสุดนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์เฟซบุ๊กแทนอารมณ์คนไทย หลังทราบเรื่องดังกล่าวว่า “แม่แบบไหนกันครับ ที่สามารถขายมือถือของลูกสาวให้กับมิจฉาชีพที่มีคดีมากมายในไทย โดยให้เครดิตคนๆ นั้น บอกสังคมว่าอย่าไปว่าเลย แม่เห็นเขาเป็นคนดีเพราะเขาพูดเพราะ จนทำให้ข้อมูลส่วนตัว ของลูกสาวที่เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมแสนเศร้า ต้องหลุดออกไปอย่างไม่น่าให้อภัย ชาตินี้ก็พอนะครับ อย่าขอไปถึงชาติหน้าเลย สงสารน้องแตงโม”

ย้อนไปฟังสิ่งที่แม่กล่าวอาลัยก่อนพิธีฌาปนกิจด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ยังคิดถึงลูกทุกวัน เหมือนคนบ้าที่นั่งร้องไห้กับรูปของลูก และหากชาติหน้ามีจริงขอให้ได้เกิดเป็นแม่ลูกกันอีก ขอให้อภัยให้แม่ด้วย”


ขณะที่ทนายเดชา ยืนยันว่าภาพที่ถูกโพสต์ในเพจของแตงโม และในเฟซบุ๊กที่อ้างตัวว่าเป็นแตงโม รวมทั้งไลน์ ส่วนตัวก็เชื่อว่า บังแจ็คเป็นคนทำเองทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานกับเพื่อนที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยประสานกับตำรวจ FBI ให้ติดตามตัวบังแจ็คมาดำเนินคดีแล้ว เนื่องจากมีการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมมาที่หลายบุคคล ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นในไทย ใครที่เป็นผู้เสียหายก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม วันนี้ยังคงเดินหน้าตามหาหลักฐานการเสียชีวิตของแตงโม เป็นคดีฆาตกรรม โดยระบุว่ามีหลักฐานสำคัญบางอย่าง ที่จะยืนยันได้ว่ามีการทำร้ายร่างกายกันบนเรือจริง โดยมีพลเมืองดีส่งให้ เเต่หลักฐานดังกล่าวจะขอเปิดเผยภายหลังจากที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษเเล้วเท่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเกลี้ยกล่อมเจ้าของหลักฐานให้มาเป็นพยานให้ เนื่องจากเจ้าของหลักฐานยังหวาดกลัวว่าจะได้รับอันตราย

โดยระหว่างที่นายอัจฉริยะ ไปออกรายการดัง มีช่วงหนึ่งได้นำภาพชายหญิง ยืนด้วยกันที่หัวเรือ เวลา 22.07 น. มาเปิดในรายการ พร้อมโต้ตอบกับกระติก ว่าบุคคลในภาพเป็นใคร กระติกตอบว่า เป็นภาพแตงโมยืนพิงกับปอ และเป็นจังหวะที่แตงโมด่าปอ ว่า “มึงเป็น…อะไรของมึง พร้อมกับสบถคำด่าออกมา” ทำให้ชาวเน็ตเกิดข้อสงสัยว่า แตงโมด่าปอ เพราะปอกำลังทำอะไรแตงโม

นายอัจฉริยะ ยังกล่าวอีกว่า ยังคาใจเรื่องกล้องวงจรปิดของอู่เรือ NBC ซึ่งมีอยู่ 8 ตัว ที่จะสามารถตอบคำถามได้ว่ามีใครทำอะไรกับเรือหลังเกิดเหตุหรือไม่ เเต่ทางอู่เรือกลับบอกว่ากล้องเสีย ซึ่งตัวเเปรสำคัญของเรื่องนี้คือเจ้าของอู่เรือตัวจริง หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า “เฮียเซียะ” ส่วนนายบอล เป็นเพียง “โบ๊ทเเมน” หรือคนที่ทำหน้าที่เอาเรือขึ้นลงเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของอู่เรือ จึงอยากขอให้ตำรวจเรียกเฮียเซียะมาสอบปากคำ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามีการทำลายพยานหลักฐานหรือไม่

ส่วนโทรศัพท์ รวมถึงเรืองการปล่อยภาพลับของเเตงโม ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ช่วงเวลา 10.00 น. จะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อยื่นร้องขอความเป็นธรรม ประเด็นสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อขอให้อัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน ทพการสอบสวนคดีนี้เพิ่มเติม จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม เเจ้งความเอาผิดกระติก ฐานให้การเท็จ จากกรณีเรื่องภาพถ่าย เพื่อให้ตำรวจสืบหาข้อเท็จจริง ส่วนวันศุกร์ จะเดินทางไปที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) เพื่อเเจ้งความเอาผิดผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี ข้อหาเเจ้งความเท็จด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก