ขสมก. ชี้ระบบห้ามล้อขัดข้อง ทำไฟไหม้รถเมล์ 522 เสียหายทั้งคัน

กทม. 24 พ.ค. – จากเหตุระทึกกลางดึก ไฟไหม้รถเมล์ ปรับอากาศ สาย 522 ทำเอาผู้โดยสารกว่า 30 คน หนีตายวุ่น ล่าสุด ขสมก.ออกมาชี้แจงแล้ว ยอมรับสาเหตุมาจากระบบห้ามล้อขัดข้อง ทำให้เบรกติด วงล้อเกิดความร้อน ส่งผลให้ยางระเบิด เป็นเพลิงลุกไหม้ขึ้นมา


เหตุการณ์นี้เปิดขึ้นเมื่อช่วง 3 ทุ่ม วานนี้ (23 พ.ค.) รถเมล์สาย ปอ.522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกิดไฟไหม้ทั้งคัน บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ถนนงามวงศ์วานขาเข้า มุ่งหน้าแยกพงษ์เพชร อ.เมืองนนทบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำฉีดสกัดกว่า 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่รถก็เสียหายทั้งคัน เบื้องต้นมีผู้โดยสารเป็นหญิงบาดเจ็บถูกไฟลวกที่แขน 1 คน ไฟยังไหม้ลามไปติดสายไฟฟ้าและสายสื่อสาร เสียหายยาวกว่า 50 เมตร จนใช้งานไม่ได้ชั่วคราว

ขณะที่พนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารบอกว่า ขับรถมาตามปกติ จนมาถึงตรงจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง ผู้โดยสารในรถต่างตกใจส่งเสียงร้อง จากนั้นก็เกิดไฟลุกไหม้ จึงรีบให้ผู้โดยสารลงจากรถ นำถังดับเพลิงมาฉีดแต่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือ


ด้าน ขสมก.ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้รถครั้งนี้ นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. ได้เรียกประชุมผู้บริหาร และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้น จากการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถโดยสารคันดังกล่าว พบว่าสาเหตุมาจากระบบห้ามล้อขัดข้อง ทำให้เบรกติด วงล้อเกิดความร้อน ส่งผลให้ยางระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ลุกลามทั้งคัน

ขณะที่ผู้บริหารบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า มีการซ่อมบำรุงรถโดยสารคันดังกล่าว โดยเปลี่ยนผ้าเบรกทุกระยะทาง 60,000 กิโลเมตร แต่เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน พื้นที่หลายแห่งมีน้ำท่วมขัง เมื่อจานเบรกถูกน้ำ ทำให้เกิดสนิม ส่งผลให้รถโดยสารมีอาการเบรกติด ซึ่ง ขสมก. ขอความร่วมมือบริษัท เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบระบบเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ส่วนควบ ระบบไฟฟ้า การทำงานของระบบห้ามล้อ รวมถึงเปลี่ยนผ้าเบรกก่อนรอบระยะเวลาในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันรถโดยสารเบรกติด จนเกิดเพลิงไหม้ ซ้ำรอยขึ้นมาอีก

สำหรับรถเมล์ปรับอากาศสาย 522 คันดังกล่าว เป็นรถประจำทางวิ่งในเส้นทางรังสิต ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิง NGV เป็นรถที่จัดซื้อในลอตที่เป็นรถเมล์ NGV ทั้งหมด 489 คัน มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปีเท่านั้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย