“อัจฉริยะ” ลงเรือจำลองภาพถ่าย “กระติก-แตงโม”

กรุงเทพฯ 24 พ.ค.-“อัจฉริยะ” ลงเรือจำลองภาพถ่าย “กระติก-แตงโม” พิสูจน์แล้วไม่​ตัดต่อ แต่อาจแก้ไขเวลา เตรียมโดรนใต้น้ำดำหามีดสัปดาห์​หน้า งอนดีเอสไอไม่ใส่ใจจะทำคดี ตัดสินใจไม่ยื่นให้ดีเอสไออีกต่อไป แต่ยังเดินหน้าต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้ “แตงโม”


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมผู้เชี่ยวชาญของชมรมฯ ลงเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือเทเวศร์ ไปยังใต้สะพานพระราม 8 เพื่อทดสอบถ่ายภาพเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายของ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก และดาราสาว “แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ที่ถ่ายในวันเกิดเหตุก่อนแตงโมตกเรือ ทั้งรูปที่ถ่ายเดี่ยวและรูปที่ถ่ายคู่กัน หลังตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการแก้ไขตัดต่อรูปหรือไม่

เริ่มต้นการทดสอบจุดแรก บริเวณกลางแม่น้ำใกล้สะพานพระราม 8 และวนอยู่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ซึ่งมีนายอัจฉริยะ นั่งหัวเรือ และให้ผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบ ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที


นายอัจฉริยะ เปิดเผยภายหลังไปทดสอบถ่ายรูปว่า มีรูป 3 รูปที่ต้องพิสูจน์ คือ รูปกระติก แตงโม และนักข่าวช่องหนึ่ง ซึ่งฉากหลังมีต้นไม้กับป้ายโฆษณา ดังนั้น จึงลองทดสอบว่าความสูงของป้ายกับต้นไม้สัมพันธ์กันหรือไม่ ซึ่งก็พบว่าสัมพันธ์กัน ไม่พบสิ่งผิดปกติ ส่วนจะเป็นรูปตัดต่อหรือไม่นั้น ทีมงานก็พิสูจน์มาแล้วว่าไม่ง่ายที่จะตัดต่อ แต่สิ่งที่อาจเป็นไปได้คือการแก้ไขเวลาถ่ายภาพในรูปเดี่ยวกระติก เพราะเมื่อเทียบไทม์ไลน์จีพีเอสเรือ เป็นไปไม่ได้ที่จะย้อนกลับมาถ่ายรูปดังกล่าวได้

ส่วนที่ตำรวจแถลงข่าวไปนั้น ตำรวจเพียงยืนยันว่าตรวจสอบแล้วภาพไม่ได้ตัดต่อ แต่ไม่ได้พูดถึงกรณีแก้ไขเวลา ซึ่งตัวแทนผู้เชี่ยวชาญยังยืนยันว่า นอกจากวันเวลาถ่ายรูปแล้ว หากนำรูปไปเข้าซอฟต์แวร์ในคอมพิวเตอร์ ก็สามารถแก้ไขได้ยันตำแหน่งจีพีเอสที่ถ่ายรูปได้เช่นกัน

นายอัจฉริยะ ยังระบุอีกว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการใช้โดรนใต้น้ำสแกนหาอาวุธมีด ที่เชื่อว่าอาจเป็นอาวุธที่กรีดขาแตงโม โดยจะไล่หาตั้งแต่สะพานซังฮี้ ถึงสะพานพระราม 8 แบบสแกนเรียงหน้ากระดาน คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน โดยจะหาอาวุธให้พบ และนำไปตรวจหาดีเอ็นเอต่อไป พร้อมยืนยันยังคงมุ่งเป้าไปที่การฆาตกรรมเช่นเดิม เพราะตนเองมีหลักฐานเป็นคลิปทำร้ายร่างกายกันบนเรือ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ


ส่วนกรณีที่ยกเลิกนำพยาน 2 ปาก เข้าให้ปากคำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เนื่องจากตนเองรู้สึกว่าดีเอสไอไม่อยากทำคดีนี้แล้ว เพราะหากอยากทำจะต้องเป็นฝ่ายติดต่อมาทางชมรมเพื่อขอให้นัดพยานให้ แต่ที่ผ่านมาดีเอสไอไม่เคยติดต่อมาเลย มีแต่ทางชมรมติดต่อไป แต่ดีเอสไอก็ไม่เคยรับสาย ดังนั้น จึงตัดสินใจไม่ยื่นให้ดีเอสไออีกต่อไป แต่ตนเองยังคงเดินหน้าต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม

ส่วนกรณีที่กระติก จะฟ้องดำเนินคดีกับตนเอง ก็ขอให้รีบฟ้อง ตนเองรออยู่ อย่าคิดว่ามีนักการเมืองหนุนหลังแล้วจะซ่าได้

ด้านกรณีที่มีคนใช้เฟซบุ๊กแตงโมเผยแพร่ภาพในมือถือของแตงโมนั้น แม้แม่แตงโมระบุเองว่า มีคนรู้บัญชีและรหัสไอคลาวด์ของแตงโมเพียง 3 คนเท่านั้น คือ กระติก แอนนา และบุคคลอีกคน แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนที่เล่นเฟซบุ๊กแตงโม อาจไม่ใช่ 3 คนนี้ก็ได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีบัญชีและรหัสผ่านตอนที่มีการกู้ข้อมูลมือถือแตงโม และต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย