ตร.เตือนเข้าถึงบัญชีออนไลน์ผู้อื่นโดยมิชอบ-แพร่ข้อมูลเท็จ เสี่ยงคุก

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนเข้าถึงบัญชีออนไลน์ผู้อื่นโดยมิชอบ เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย มีโทษตามกฎหมายทั้งจำและปรับ ชี้หากมีหลักฐานที่มีประโยชน์ต่อรูปคดี ตำรวจยินดีรับฟัง และพร้อมให้ความธรรมกับผู้เสียชีวิต


วันที่ 23 พ.ค.65 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ประชาชนให้ความสนใจ กรณีมีบุคคลได้เข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Happy Melon Patcharaveerapong” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ น.ส.ภัทธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม แล้วเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยอ้างว่าตนเองเป็นแตงโม พร้อมโพสต์ข้อความในลักษณะที่เป็นการกล่าวอ้างใส่ความบุคคลอื่น อ้างว่ามีพยานหลักฐานสำคัญ ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความสับสนในวงกว้าง จนเกิดคำถามและข้อสงสัยในสังคมว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถกระทำได้หรือไม่ และถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย หรือไม่นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่าการกระทำของบุคคลดังกล่าว มีประเด็นพิจารณาเป็น 2 กรณี คือ 1.การเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ผู้อื่น เป็นการเข้าถึงโดยชอบหรือไม่ ถ้าเป็นการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 7 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


2.กรณีเผยแพร่ข้อมูลที่มีลักษณะเป็นการใส่ความผู้อื่นและเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท

3.กรณีเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ในลักษณะที่อาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย แต่ไม่ได้เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท จะเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.หากมีการโพสต์หรือเผยแพร่ข้อมูลอื่นอันมีลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมายในฐานความผิดอื่น ก็จะมีความผิดตามฐานความผิดที่ได้กระทำ


ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนไปยังบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวหรือพี่น้องประชาชน หากมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์ต่อรูปคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีรับฟัง และพร้อมจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความธรรมกับผู้เสียชีวิตในทุกประเด็น

และหากพี่น้องประชาชนท่านใด ได้รับความเสียหายจากการถูกเข้าถึงบัญชีออนไลน์โดยมิชอบ หรือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

เลือกตั้ง อบจ.

กกต.เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

กกต.จัดกิจกรรม kick off เปิดตัว “หมูเด้ง” เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง” ด้าน “อิทธพร” ให้ความมั่นใจพร้อมจัดการเลือกตั้งอย่างสุจริต

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน