ชายคลั่งขโมยแท็กซี่ขับมาจอดกลางสะพาน ก่อนดิ่งเจ้าพระยา-จนท.นำเรือช่วยทัน

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – ชายคลุ้มคลั่งทำร้ายเด็กรับรถร้านอาหารดังริมถนนพระราม 3 ก่อนชิงรถแท็กซี่ขับหนีมาจอดกลางสะพานพระราม 3 ร้องขอน้ำอัดลมดื่มได้ 2 อึก ดิ่งลงน้ำเจ้าพระยาทันที โชคดีเจ้าหน้าที่นำเรือช่วยทัน


เมื่อเวลา 20.30 น. (18 พ.ค.) มีเหตุชิงทรัพย์รถแท็กซี่ บนถนนพระราม 3 ปากซอย 60 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ตำรวจ สน.บางโพงพาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พบนายวิรัตน์ อายุ 62 ปี เจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้าสีเขียวเหลือง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตระหนก

ตำรวจแจ้งวิทยุสื่อสารขอกำลังเสริมเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักข้างเคียง เพื่อสกัดจับชายคลั่งคนดังกล่าว อีก 10 นาทีต่อมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางคอแหลม ให้ข้อมูลว่าพบชายคนดังกล่าวไปจอดรถอยู่กลางสะพานพระราม 3 ฝั่งมุ่งหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ โดยชายคนดังกล่าวยืนอยู่บนขอบปูนกลางสะพาน และมีอาการลุกลี้ลุกลน เดินไปมาอยู่ระหว่างหลังคารถและขอบปูนกลางสะพาน เจ้าหน้าที่จึงขอสนับสนุนเรือตรวจการณ์ของตำรวจ สน.บางคอแหลม และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ให้รุดมายังที่เกิดเหตุ เพื่อล้อมเชือกกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง และเฝ้าระวังผู้ก่อเหตุกระโดดน้ำ


ผ่านไปประมาณ 20 นาที การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและชายคนดังกล่าวไม่เป็นผล โดยชายคนดังกล่าวพยายามขอน้ำอัดลมตลอดเวลาและเร่งเร้า โดยข่มขู่จะกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่เป็นระยะๆ ทางอาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู จึงซื้อน้ำอัดลมมาให้ตามที่เจ้าตัวร้องขอ เมื่อชายคนดังกล่าวเดินมาหยิบดื่มได้เพียง 2 อึก ก็ตัดสินใจทิ้งตัวจากขอบปูนกลางสะพานลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในทันที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของไทยมุงที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก

ขณะที่เรือตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือนำชายคนดังกล่าวขึ้นฝั่ง บริเวณใต้สะพานกรุงเทพ ฝั่ง สน.วัดพระยาไกร ส่งต่อให้รถพยาบาลนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจร่างกาย และอายัดตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.ต.เอนก เต๊ะสมัน สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลของชายที่ก่อเหตุ เบื้องต้นพบข้อมูลว่าก่อนลงมือชิงรถแท็กซี่ เจ้าตัวบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายเด็กรับรถของร้านอาหารบุหลันดั้นเมฆ ริมถนนพระราม 3 ใกล้ซอย 60 แล้วถูกคนในร้านช่วยกันขับไล่ออกมา เนื่องจากก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย จากนั้นขับรถแท็กซี่ที่ได้จากการชิงทรัพย์ขึ้นไปบนสะพานพระราม 3 เบื้องต้นพบว่ารถแท็กซี่ของกลางมีร่องรอยการเฉี่ยวชนรอบคัน กระจกหน้าแตก หลังจากนี้หากมีผู้เสียหายรายใดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอให้เดินทางเข้ามาแจ้งความได้ที่ สน.บางโพงพาง


ทั้งนี้ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายปาน อายุ 39 ปี เบื้องต้นเจ้าตัวไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใดๆ แต่ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง

นายวิรัตน์ เจ้าของแท็กซี่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนำรถออกไปรับส่งผู้โดยสาร และกำลังจะเข้าบ้านพักผ่อน เมื่อขับผ่านมาถึงถนนพระราม 3 ปากซอย 60 ตนไเกิดปวดปัสสาวะจึงจอดเข้าข้างทางแวะทำธุระส่วนตัวในพงหญ้า ขณะนั้นลืมดับเครื่อง เมื่อตนปัสสาวะแล้วเสร็จกำลังเดินกลับไปที่รถ พบชายนิรนามอายุประมาณ 35-40 ปี ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว ไม่ใส่รองเท้า มีอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่ง เหมือนคนเมายาเสพติด วิ่งมาที่รถตน ก่อนเปิดประตูขับรถออกไปต่อหน้าต่อตา

ด้าน น.ส.สุพรรษา เจ้าของร้านบุหลันดั้นเมฆ เดินทางมาที่โรงพักบางโพงพาง ให้การว่า จู่ๆ ผู้ก่อเหตุซึ่งทราบว่าก่อนหน้านั้นนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ร้านลาบไม่ไกลกัน ได้เดินถือขวดเบียร์โซซัดโซเซ พยายามจะเข้ามาในร้านอาหารของตน นายนพดล อายุ 30 ปี เด็กรับรถของร้าน เห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปขัดขวาง ไม่อนุญาตให้เข้าไปในร้าน แต่ผู้ก่อเหตุกลับใช้ขวดเบียร์ที่ถือมาด้วยฟาดใส่นายนพดลจนศีรษะแตก จากนั้นวิ่งออกจากร้านไปชิงทรัพย์รถแท็กซี่ที่จอดอยู่ข้างถนน เด็กรับรถก็วิ่งตามไปเกาะบริเวณท้ายรถ กระทั่งระหว่างทางรถแท็กซี่ได้เฉี่ยวชน ทำให้นายนพดลตกจากรถ เบื้องต้นถูกพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลเลิดสิน ยืนยันไม่เคยเห็นหรือรู้จักผู้ก่อเหตุมาก่อน เชื่อว่าไม่เคยมาใช้บริการที่ร้าน ที่สำคัญไม่ได้เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครในร้านมาก่อนเลย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก