ดีเอสไอ 18 พ.ค.-“อัจฉริยะ” ยื่นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 20 ชุด พร้อมรายชื่อพยานบุคคลกว่า 10 ปาก ขอให้ ดีเอสไอ รับคดีแตงโม เป็นคดีพิเศษ เหตุเกิดจากฆาตกรรมอำพราง
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำกระบอกทรายและโคลน 3 กระบอก ซึ่งเป็นหลักฐานที่นักประดาน้ำเก็บได้จากจุดตกเรือ จุดพบศพ และท่าเทียบเรือทราย พร้อมวัตถุพยานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์สำคัญรวม 20 ชุด และพยานบุคคลจำนวน 13 ปาก มายื่นต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นผู้รับ เพื่อขอให้ ดีเอสไอ รับคดีการเสียชีวิตของ แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นคดีพิเศษ หลังจากเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ พร้อมด้วยชุดประดาน้ำทีมกู้ภัยหมูป่า พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำลงพื้นที่บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 นนทบุรี เพื่อลงน้ำงมหาวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโม
พบว่าที่จุดตกเรือและจุดพบศพ ไม่มีโคลน มีแต่ทราย จุดแรกมีความลึกประมาณ 15-16 เมตร ส่วนจุดที่ 2 มีความลึกประมาณ 17-19 เมตร ซึ่งขัดแย้งกับผลนิติเวชที่บอกว่าแตงโมจมน้ำตื้น และมีโคลนในปอด จึงชัดเจนว่า แตงโมไม่ได้ตกเรือที่ 2จุดนี้แน่นอน
ส่วนจุดที่ 3 ที่ท่าเทียบเรือทรายซึ่งเป็นจุดที่สงสัย เนื่องจากมีภาพในกล้องวงจรปิด ว่ามีการนำเรือมาจอดแวะที่จุดนี้ในช่วงเวลาใกล้กับเวลาเกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่เคยพูดถึง ซึ่งจากการสำรวจของนักประดาน้ำ พบว่าใต้น้ำบริเวณนี้ มีแต่โคลน ไม่มีทราย โดยมีความลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งสอดคล้องกับผลนิติเวชที่พบโคลนในปอดของแตงโม จึงสงสัยว่าแตงโมน่าจะตกเรือที่ตรงจุดนี้มากกว่า เพราะทรายที่พบว่ากำอยู่ในมือ ก็มีลักษณะเหมือนทรายบนเรือขนทรายที่จอดตรงนั้น และระดับน้ำก็ไม่ลึกด้วย
อีกทั้งยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ พบเรือสปีดโบ๊ต จำนวน 2 ลำ ร่วมก่อเหตุในคดีแตงโม โดยนายอัจฉริยะ อ้างว่า เรืออีก 1 ลำ น่าจะถูกนำไปขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังอยู่ในประเทศ และเชื่อว่า ตำรวจน่าจะรู้ข้อมูลนี้ดี และยังเชื่อว่า แซน – วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ให้การเท็จ โดยมั่นใจว่า คดีนี้เป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยไม่มีการวางแผน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
ส่วนบาดแผลใหญ่ข้างขวาด้านใน ก็เชื่อว่า เกิดจากของมีคม ไม่ใช่ใบพัดเรือ ซึ่งหลักฐานทั้งหมดนี้มีทั้งพยานบุคคล ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และพยานหลักฐานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษประกอบการพิจารณารับคดีนี้
นายอัจฉริยะ ยังตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจ ได้สอบกรณี แตงโม มีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า และ ตำรวจ ได้พบยารักษาโรคซึมเศร้าในร่างของแตงโม ด้วยหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พบสารประเภทยานอนหลับในเลือดของผู้ต้องหาคนหนึ่งในคดีนี้ เพราะหากตำรวจ ไม่มีการสอบประเด็นนี้ นายอัจฉริยะ อ้างว่า อาจเป็นไปได้ว่า มีการวางยา แตงโม และการสร้างพยานหลักฐาน เพื่อนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมแตงโม ได้ ขณะที่ พันตำรวจตรี วรณัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นดีเอสไอ จะรวมรวบข้อเท็จจริงและสอบปากคำพยานบุคคลที่มีการอ้างมา แต่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ คงไม่สามารถก้าวล่วงความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษได้.-สำนักข่าวไทย