รวบ 2 สาวแสบหลอกขายรถยนต์มือสอง

14 พ.ค.- ชุดลาดตระเวนออนไลน์ PCT 5 และนักสืบ 5 G จับกุม 2 สาวแสบหลอกขายรถยนต์มือสอง เหยื่อไปรับรถไม่พบเต็นท์รถตามที่โพสต์ พบเพียงบ้านร้าง ผู้เสียหายจำนวนหลายราย


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้มีความพร้อมในการรับมืออาชญากรรม ที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายใต้ยุค 5G และให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 และนักสืบ 5 G สืบ ภาค 2ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนย่านดินแดง ได้ใช้เฟซบุ๊คค้นหารถยนต์กระบะมือสองเพื่อนำมาใช้ทำงานเสริมในช่วงโควิด-19 ระบาด พบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Zeemoto Thenocar” ได้โฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก แบบสาธารณะ ว่า“รับจัดหารถยนต์,ซื้อ,ขายรถมือสอง ราคาพ่อค้า ราคาส่งเต้น” พร้อมกับมีภาพรถยนต์ประกอบให้ดู เหยื่อสนใจรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ประกาศขายในราคา 140,000 บาท จึงติดต่อขอจ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 บาท และวันรับรถเดินทางไปที่เต้นท์รถยนต์ดังกล่าวที่โพลต์ไว้ ปรากฏว่าพบเป็นบ้านร้างไม่มีคนพักอาศัย แทบเป็นลม จึงรายงานให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ PCT ( ผอ.ศอปส.ตร.) ทราบได้สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 ดำเนินการสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยใช้งานนักสืบ 5 G ตามโครงการของ ผบ.ตร.เป็นตัวหลักในการสืบสวน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศอปส.ตร. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ รอง ผกก.1 บก.ปส.3 พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส. ภ.2 ร.ต.อ.ภัสส์กร เฉลียวบุญ ร.ต.อ.วุฒินันต์ คงดี, ร.ต.อ.ปรมา ปราณี ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการ 5 ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.ต.ประวิทย์ กองชุมพล สว.สส.สน.ดินแดง ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว


  1. น.ส.ปัทมา อายุ 26 ปี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 894/2565 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2565 จับกุมได้ที่บ้าน ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. พบของกลางโทรศัพท์และสมุดบัญชีธนาคารอีก 3 บัญชี
  2. นางสาวชยาภา 19 ปี อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 893/2565 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2565 จับกุมได้ที่ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด พบของกลางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.30 น. โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น.ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ที่โรงเรียนอาชีวะย่านดินแดง ได้ใช้เฟซบุ๊ก ค้นหารถยนต์กระบะมือสองเพื่อนำมาใช้งานพบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Zeemoto Thenocar” และไอดีไลน์ “tcar168” ได้โฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก แบบสาธารณะ ว่า“รับจัดหารถยนต์,ซื้อ,ขายรถมือสอง ราคาพ่อค้า ราคาส่งเต้น” พร้อมกับมีภาพรถยนต์ประกอบให้ดู ผู้เสียหายเห็น มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ทะเบียน มหาสารคาม ประกาศขายในราคา 140,000 บาท สนใจจึงติดต่อ ขอต่อรองราคาจนฝ่ายผู้ขายลดราคาให้คงเหลือ 110,000 บาท โดยฝ่ายผู้ขายให้จ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 บาท ที่เหลือ 100,000 บาท ให้จ่ายที่เต้นท์ในวันรับรถ ผู้เสียหายซึ่งได้แอดไลน์เป็นเพื่อนผ่านไอดีไลน์ดังกล่าวแล้ว โดยผู้ขายให้พิกัดที่ตั้งของเต้นท์ขายรถยนต์ดังกล่าวคือ 130/100 ซอยหมู่บ้านเคหะชุมชนระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จว.ระยอง โดยให้โอนเงินค่ามัดจำเข้าบัญชีธนาคารผู้เสียหายหลงเชื่อตามที่มีการโฆษณาขายรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 15.12 น.ของวันเดียวกัน จึงโอนเงินจำนวน 10,000 บาท จากบัญชีเงินฝาก ของผู้เสียหายผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายเข้าบัญชีดังกล่าว เมื่อโอนเงินเสร็จแล้วก็ส่งสลิปการโอนเงินให้กับฝ่ายผู้ขายทางไลน์ โดยผู้เสียหายได้แจ้งกับฝ่ายผู้ขายว่า จะไปรับรถยนต์คันดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ฝ่ายผู้ขายรับทราบ โดยให้ผู้เสียหายไปตามสถานที่ที่แชร์ที่ตั้งให้กับผู้เสียหายไว้ดังกล่าว ต่อมาวันที่ 6 มีนาคม 2565 ผู้เสียหายกับภรรยาได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปที่ จว.ระยอง เมื่อไปถึงบริเวณพิกัดที่ฝ่ายผู้ขายให้ไว้คือ 130/100 ซอยหมู่บ้านเคหะชุมชนระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จว.ระยอง ปรากฏว่า ไม่มีเต้นท์รถยนต์แต่อย่างใด เป็นห้องเช่าสภาพเก่า บ้านปิดไว้ มีใบไม้รกหน้าบ้าน ไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงโทรศัพท์หาฝ่ายผู้ขาย ปรากฏว่าโทรติด แต่ไม่มีผู้รับสาย จากนั้นฝ่ายผู้ขายก็ปิดเครื่องไป ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายได้สอบถามร้านขายของชำบริเวณดังกล่าว จึงทราบว่า บ้านดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัย ในวันเดียวกันนั้นได้มีผู้คนมาสอบถามเหมือนกันกับผู้เสียหายประมาณ 10 กว่าคน น่าจะถูกหลอกเหมือนกัน ผู้เสียหายกับภรรยาจึงทราบว่า ถูกหลอกให้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจนต้องสูญเงินไป 10,000 บาท จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง ซึ่งเป็นท้องที่ที่ผู้เสียหาย โอนเงินให้กับคนร้าย ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์และมอบคดีให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พร้อมขอความช่วยเหลือกับชุดลาดตะเวนออนไลน์สืบภาค 2 และ PCT 5

จากการสอบถามเบื้องต้นนางสาวปัทมาฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่น.ส.ปัทมาฯยอมรับว่าเป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการหลอกขายเอาเงินมัดจำจริง ส่วน น.ส.ชยาภาฯ ให้การยอมรับว่าได้ รับจ้างเปิดบัญชีจากบุคคลอื่นเพื่อนำไปทำธุรกรรมต่างๆ จริง ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จึงนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 /หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 กล่าวว่า “ช่วงนี้มีคดีหลอกขายสินค้าต่างๆ ผ่านทางออนไลน์ระบาดอย่างหนัก จึงระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางออนไลน์ให้สิ้นซาก และต้องอยู่ไม่เป็นสุขตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เพราะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และผมอยากฝากถึงผู้กระทำความผิดว่าไม่มีทางรอดจากการถูกจับกุม ยิ่งโกงเยอะเท่าไร ยิ่งติดคุกนานเท่านั้น” .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]