รวบ 2 สาวแสบหลอกขายรถยนต์มือสอง

14 พ.ค.- ชุดลาดตระเวนออนไลน์ PCT 5 และนักสืบ 5 G จับกุม 2 สาวแสบหลอกขายรถยนต์มือสอง เหยื่อไปรับรถไม่พบเต็นท์รถตามที่โพสต์ พบเพียงบ้านร้าง ผู้เสียหายจำนวนหลายราย


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้มีความพร้อมในการรับมืออาชญากรรม ที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายใต้ยุค 5G และให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 และนักสืบ 5 G สืบ ภาค 2ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนย่านดินแดง ได้ใช้เฟซบุ๊คค้นหารถยนต์กระบะมือสองเพื่อนำมาใช้ทำงานเสริมในช่วงโควิด-19 ระบาด พบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Zeemoto Thenocar” ได้โฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก แบบสาธารณะ ว่า“รับจัดหารถยนต์,ซื้อ,ขายรถมือสอง ราคาพ่อค้า ราคาส่งเต้น” พร้อมกับมีภาพรถยนต์ประกอบให้ดู เหยื่อสนใจรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ประกาศขายในราคา 140,000 บาท จึงติดต่อขอจ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 บาท และวันรับรถเดินทางไปที่เต้นท์รถยนต์ดังกล่าวที่โพลต์ไว้ ปรากฏว่าพบเป็นบ้านร้างไม่มีคนพักอาศัย แทบเป็นลม จึงรายงานให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ PCT ( ผอ.ศอปส.ตร.) ทราบได้สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 ดำเนินการสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยใช้งานนักสืบ 5 G ตามโครงการของ ผบ.ตร.เป็นตัวหลักในการสืบสวน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศอปส.ตร. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ รอง ผกก.1 บก.ปส.3 พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส. ภ.2 ร.ต.อ.ภัสส์กร เฉลียวบุญ ร.ต.อ.วุฒินันต์ คงดี, ร.ต.อ.ปรมา ปราณี ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการ 5 ศปอส.ตร. และ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.ต.ประวิทย์ กองชุมพล สว.สส.สน.ดินแดง ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว


  1. น.ส.ปัทมา อายุ 26 ปี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 894/2565 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2565 จับกุมได้ที่บ้าน ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. พบของกลางโทรศัพท์และสมุดบัญชีธนาคารอีก 3 บัญชี
  2. นางสาวชยาภา 19 ปี อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 893/2565 ลงวันที่ 9 พ.ค. 2565 จับกุมได้ที่ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด พบของกลางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.30 น. โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น.ขณะที่ผู้เสียหายอยู่ที่โรงเรียนอาชีวะย่านดินแดง ได้ใช้เฟซบุ๊ก ค้นหารถยนต์กระบะมือสองเพื่อนำมาใช้งานพบว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Zeemoto Thenocar” และไอดีไลน์ “tcar168” ได้โฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก แบบสาธารณะ ว่า“รับจัดหารถยนต์,ซื้อ,ขายรถมือสอง ราคาพ่อค้า ราคาส่งเต้น” พร้อมกับมีภาพรถยนต์ประกอบให้ดู ผู้เสียหายเห็น มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ทะเบียน มหาสารคาม ประกาศขายในราคา 140,000 บาท สนใจจึงติดต่อ ขอต่อรองราคาจนฝ่ายผู้ขายลดราคาให้คงเหลือ 110,000 บาท โดยฝ่ายผู้ขายให้จ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 บาท ที่เหลือ 100,000 บาท ให้จ่ายที่เต้นท์ในวันรับรถ ผู้เสียหายซึ่งได้แอดไลน์เป็นเพื่อนผ่านไอดีไลน์ดังกล่าวแล้ว โดยผู้ขายให้พิกัดที่ตั้งของเต้นท์ขายรถยนต์ดังกล่าวคือ 130/100 ซอยหมู่บ้านเคหะชุมชนระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จว.ระยอง โดยให้โอนเงินค่ามัดจำเข้าบัญชีธนาคารผู้เสียหายหลงเชื่อตามที่มีการโฆษณาขายรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 15.12 น.ของวันเดียวกัน จึงโอนเงินจำนวน 10,000 บาท จากบัญชีเงินฝาก ของผู้เสียหายผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารจากโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายเข้าบัญชีดังกล่าว เมื่อโอนเงินเสร็จแล้วก็ส่งสลิปการโอนเงินให้กับฝ่ายผู้ขายทางไลน์ โดยผู้เสียหายได้แจ้งกับฝ่ายผู้ขายว่า จะไปรับรถยนต์คันดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ฝ่ายผู้ขายรับทราบ โดยให้ผู้เสียหายไปตามสถานที่ที่แชร์ที่ตั้งให้กับผู้เสียหายไว้ดังกล่าว ต่อมาวันที่ 6 มีนาคม 2565 ผู้เสียหายกับภรรยาได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปที่ จว.ระยอง เมื่อไปถึงบริเวณพิกัดที่ฝ่ายผู้ขายให้ไว้คือ 130/100 ซอยหมู่บ้านเคหะชุมชนระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จว.ระยอง ปรากฏว่า ไม่มีเต้นท์รถยนต์แต่อย่างใด เป็นห้องเช่าสภาพเก่า บ้านปิดไว้ มีใบไม้รกหน้าบ้าน ไม่มีผู้อยู่อาศัย จึงโทรศัพท์หาฝ่ายผู้ขาย ปรากฏว่าโทรติด แต่ไม่มีผู้รับสาย จากนั้นฝ่ายผู้ขายก็ปิดเครื่องไป ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายได้สอบถามร้านขายของชำบริเวณดังกล่าว จึงทราบว่า บ้านดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัย ในวันเดียวกันนั้นได้มีผู้คนมาสอบถามเหมือนกันกับผู้เสียหายประมาณ 10 กว่าคน น่าจะถูกหลอกเหมือนกัน ผู้เสียหายกับภรรยาจึงทราบว่า ถูกหลอกให้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจนต้องสูญเงินไป 10,000 บาท จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง ซึ่งเป็นท้องที่ที่ผู้เสียหาย โอนเงินให้กับคนร้าย ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์และมอบคดีให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พร้อมขอความช่วยเหลือกับชุดลาดตะเวนออนไลน์สืบภาค 2 และ PCT 5

จากการสอบถามเบื้องต้นนางสาวปัทมาฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่น.ส.ปัทมาฯยอมรับว่าเป็นผู้ใช้บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการหลอกขายเอาเงินมัดจำจริง ส่วน น.ส.ชยาภาฯ ให้การยอมรับว่าได้ รับจ้างเปิดบัญชีจากบุคคลอื่นเพื่อนำไปทำธุรกรรมต่างๆ จริง ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ จึงนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 /หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 กล่าวว่า “ช่วงนี้มีคดีหลอกขายสินค้าต่างๆ ผ่านทางออนไลน์ระบาดอย่างหนัก จึงระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางออนไลน์ให้สิ้นซาก และต้องอยู่ไม่เป็นสุขตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เพราะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และผมอยากฝากถึงผู้กระทำความผิดว่าไม่มีทางรอดจากการถูกจับกุม ยิ่งโกงเยอะเท่าไร ยิ่งติดคุกนานเท่านั้น” .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]