กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – “ปอ” ยอมรับใช้ยา “อัลปราโซแลม” อ้างแก้เครียดหลังแตงโมตกน้ำ ด้าน “อัจฉริยะ” เดินหน้าร้อง ปปป. เอาผิดคณะแพทย์สร้างข้อความเท็จ
จากกรณีนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ยื่นเรื่องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและแสวงหาข้อเท็จจริง เกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของแตงโม กรณีใช้ดุลพินิจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและเลือกปฏิบัติในการตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกายของคนบนเรือจำนวน 3 คน แต่ไม่ตรวจร่างกายอีก 2 คน ซึ่งเป็นคดีเดียวกัน และอยู่ในสถานที่เกิดเหตุเดียวกัน
ต่อมาได้รับหนังสือผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สรุปได้ว่าเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 65 พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ได้ประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เก็บตัวอย่างเลือดจากพยานบุคคล (สถานะในเวลานั้น) ที่อยู่ในเรือลำเกิดเหตุ จำนวน 3 คน ในระหว่างเวลา 12.07 น. ถึงเวลา 13.30 น. ต่อมาวันที่ 9 มีนาคม 65 พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวอย่างเลือดดังกล่าวไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อตรวจหรือทดสอบหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด และตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย โดยวิธี Gas Chromatography ปรากฏว่าตรวจไม่พบแอลกอฮอล์แต่อย่างใด แต่ตรวจพบสารกลุ่มเบนโซไดอาซิปินส์ชนิด “อัลปราโซแลม” (Alprazolam) ในร่างกาย 1 คนที่อยู่บนเรือ
ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเรื่องนี้กับ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี โดยทาง ผกก.ปฏิเสธให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว อ้างว่าข้อมูลทั้งหมดอยู่ในสำนวนการสอบสวน ซึ่งได้ส่งมอบให้อัยการไปหมดแล้ว
ตร.ชี้ Alprazolam เป็นส่วนประกอบยาคลายเครียด
เมื่อสอบถามไปทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ให้คำตอบว่าการตรวจร่างกายชาย 3 คนบนเรือที่เป็นผู้ต้องหา พบว่า 1 ใน 3 คน พบสาร Alprazolam ซึ่งเป็นส่วนประกอบของยาคลายเครียดที่ผสมอยู่ในยานอนหลับ แต่ไม่ได้ระบุว่าสารดังกล่าวเป็นยาเสียสาวแต่อย่างใด ยืนยันว่าผลการตรวจร่างกายผู้ชายทั้ง 3 คนบนเรือ ไม่พบทั้งสารเสพติดและยาเสียสาว โดยสารดังกล่าวพบในร่างกายของ ปอ-ตนุภัทร ซึ่งจากการสอบสวนนายปอได้ยอมรับตั้งแต่ในชั้นสอบสวนแล้วว่าตนเองกินยาคลายเครียด ซึ่งเป็นยานอนหลับ เนื่องจากหลังเกิดเหตุการณ์ทำให้นอนไม่หลับ จึงต้องใช้ยาดังกล่าว
ส่วนกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินต้องการคำชี้แจงจากตำรวจภูธรภาค 1 นั้น พร้อมให้ความร่วมมือ และไม่รู้สึกหนักใจอะไร เพราะทุกอย่างสามารถชี้แจงได้ และมีผลตรวจจากแพทย์ยืนยันอยู่แล้ว หากได้รับการประสานก็พร้อมชี้แจงทันที
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า กลุ่มยานี้เป็นกลุ่มยาคลายเครียดและยานอนหลับ ส่วนจะเป็นกลุ่มยาเสียสาวหรือไม่ มีคุณสมบัติอย่างไร มีการใช้ก่อนหรือหลังเกิดเหตุ ข้อมูลนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวนอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและตรวจสอบพยานทั้งหมด แต่ไม่ได้ชี้แจงต่อสาธารณชน เพราะเกรงว่าจะมีผลต่อการต่อสู้คดีระหว่างคู่ความ แต่เมื่อมีผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงเท่าที่เปิดเผยได้ ส่วนบุคคลที่นำออกมาเผยแพร่จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ต้องดูเจตนาเป็นหลัก
ยาอัลปราโซแลม มีชื่อทางการค้าหลายชื่อ เช่น โซแลม (Zolam) หรือซาแน็ก (Xanax) ใช้รักษาอาการในกลุ่มโรควิตกกังวล และตื่นตระหนก รวมถึงภาวะนอนไม่หลับ คลายกล้ามเนื้อ ระงับอาการชัก ภาวะซึมเศร้า ติดสุราเรื้อรัง
ยาจะออกฤทธิ์เร็วหลังรับประทานประมาณ 20 นาที จะมีอาการง่วงซึม อาจมีอาการหลงลืม โดยจะจำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้หลังจากที่รับประทานยาไป
ยาตัวนี้จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 ไม่อนุญาตให้จำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป ต้องได้รับการจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น เนื่องจากมีฤทธิ์ต่อจิตและระบบประสาทส่วนกลางในสมอง
การใช้ยากลุ่มนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ปัจจุบันมีการควบคุมการใช้ยาอัลปราโซแลมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิด
สำหรับโทษเกี่ยวกับวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ขายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท ครอบครองหรือใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เสพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่เสพตามแพทย์สั่ง
“อัจฉริยะ” แจ้งความคณะแพทย์คดี “แตงโม”
วันนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. กล่าวโทษคณะแพทย์กับพวก กรณีมีการสร้างข้อความอันเป็นเท็จคดีการเสียชีวิตของแตงโม และส่งให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ทำคดีแตงโม จนนำไปสู่การแจ้งข้อหาและสรุปสำนวนส่งอัยการ
นายอัจฉริยะ บอกว่า ส่วนตัวมองว่าแผลข้างขวาด้านในซึ่งเป็นแผลทางยาว ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน ส่วนแผลเล็กแนวขวางไม่ติดใจ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การที่แพทย์ระบุชัดเจนว่าเกิดจากใบพัดเรือจึงเป็นการกระทำโดยมิชอบ
นายอัจฉริยะยังได้เปิดแชทหลุดอีกชุดที่เป็นบทสนทนาของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “วรชาติ/ไอยรา 4” สนทนากับบุคคลภายนอก ในลักษณะยอมรับว่าตำรวจได้ทดลองโยนหมูใส่ท้ายเรือ 10 ครั้ง มีเพียงครั้งเดียวที่โดนใบพัดเรือ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่าโอกาสน้อยมากที่ใบพัดเรือจะดูดร่างแตงโมเข้าไป
นายอัจฉริยะระบุอีกว่า คนที่ใช้ชื่อ “ไอยรา 4” กล่าวกับบุคคลภายนอกในลักษณะอึดอัดใจ ไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปว่าบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ และอึดอัดใจ เนื่องจากเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาของ พลตำรวจตรี ว. ซึ่งมีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เพราะเป็นสายตรงของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และส่วนตัวยังติดใจที่มีการสรุปว่าแตงโมตกจากท้ายเรือ รวมถึงการที่แตงโมจับขาแซน ทั้งที่ไม่มีหลักฐานอื่น นอกจากคำให้การของคนบนเรือ เพราะเวลาเรือแล่นอยู่ น้ำจะท่วมกาบเรือ อยู่ตรงนั้นไม่ได้ พร้อมยืนยันไม่ได้มีเจตนาทำลายความเชื่อมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสถาบันนิติเวช เพียงต้องการหาความจริงคดีแตงโม ส่วนประเด็นการตรวจพบยาเสียสาวในร่างกายของหนึ่งในคนบนเรือนั้น ส่วนตัวไม่ได้ติดใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าบางคนเครียด ต้องทานยาคลายเครียด แต่ติดใจเรื่องที่พลตำรวจตรี ว. ไม่ยอมตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ในร่างกายของแซนมากกว่า
นิติเวชยอมรับคลิป “อัจฉริยะ” นำมาแถลงของจริง
ส่วนเรื่องคลิปที่นายอัจฉริยะนำมาแถลงเมื่อวาน โดยระบุว่าเป็นร่างของแตงโม พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยอมรับคลิปวิดีโอที่นายอัจฉริยะนำมาแถลงเมื่อวานเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 65 ขณะที่ทีมแพทย์นิติเวชนำร่างของแตงโมจากห้องเย็นไปผ่าพิสูจน์ ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอให้มีการเปรียบเทียบร่องรอยบาดแผลของศพ กับใบพัดเรือของกลาง ว่าเข้ากันได้หรือไม่ โดยใช้สถานที่ 1 ใน 3 ห้องผ่าศพที่อยู่ในบริเวณสถาบันนิติเวช ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องสำรองไว้สำหรับฉีดยา บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ และมีการดำเนินการในวันเวลาราชการ ซึ่งขณะผ่าชันสูตรมีการบันทึกทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ จากทีมชันสูตร 4 คน ประกอบด้วย แพทย์เจ้าของคดี 1 คน ผู้ช่วยแพทย์ 1 คน และช่างภาพ 2 คน ไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
สำหรับขั้นตอนตั้งแต่สถาบันนิติเวชฯ รับศพแตงโม วันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีการแกะห่อศพ แล้วบันทึกภาพไปกว่า 200 ภาพ โดยพบว่าบนร่างของแตงโมมีบาดแผล 26 บาดแผล ก่อนนำไปผ่าชันสูตรอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พบว่ามีบาดแผลเพียง 22 บาดแผล ความคาดเคลื่อนดังกล่าวเป็นที่ยอมรับได้ในทางการแพทย์ เพราะระยะเวลาผ่าชันสูตรห่างกันถึง 19 วัน
ส่วนกรณีที่มีการนำคลิปไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มีการปกปิด เพราะเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ประกอบสำนวนคดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ออกจากสถาบันนิติเวช โดยข้อมูลนี้จะส่งต่อให้เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรับผิดชอบสำนวนคดีเท่านั้น ส่วนจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ต้องดูที่เจตนา แต่ยอมรับว่าเกิดความเสียหายกับองค์กร หากพบว่าเป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ ก็ต้องพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้ง และยอมรับว่าเสียกำลังใจ เพราะทุกคนทำงานตามมาตรฐาน ไม่ได้ปกปิดข้อมูล ที่ผ่านมาองค์กรไม่มีความขัดแย้ง โดยมีแนวทางและเจตนาเดียวกันที่จะทำให้คดีคลี่คลาย
ส่วนกรณีพบสารอัลปราโซแลมในร่างกายปอนั้น พล.ต.ต.สุพิไชย ยืนยันว่ายากลุ่มดังกล่าวมีฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยมีฤทธิ์คลายกังวลหรือคลายเครียด ใช้ในการรักษาโรคเครียด ลมชัก นอนไม่หลับ ไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นทางเพศ แต่หากใช้ในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ใช้ง่วงนอน ส่วนที่เรียกว่ายาเสียสาว เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด
ตำรวจเรียกเด็กอู่เรือสอบเพิ่ม
ขณะเดียวกันวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เรียกตัวนายนิกร โพธิ์ เด็กอู่จอดเรือ NBC ย่านบางศรีเมือง เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนคดีที่ทางอัยการจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งให้สอบเพิ่มในประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน โดยใช้เวลาในการสอบปากคำไม่นาน
นายนิกร บอกว่ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากวันนั้นตนเป็นคนที่ทำหน้าที่บริการนำเรือลำที่เกิดเหตุขึ้นและลงแม่น้ำ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้สอบถามในเรื่องที่พบเห็น เช่น แก้วไวน์ ขวดไวน์ และอุปกรณ์ที่กลุ่มคนบนเรือนำมาในวันเกิดเหตุ รวมทั้งจำนวนคนบนเรือ
สำหรับการสอบปากคำเพิ่มเติมครั้งนี้ เป็นการสอบตามที่อัยการจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งออกมาก่อนหน้านี้ให้มีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้รวบรวมสำนวนการสอบเพิ่มเติมทั้งหมด ส่งให้อัยการจังหวัดภายในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) เพื่อนำไปรวมกับสำนวนที่ส่งไปก่อนหน้านี้ ในการพิจาราณาสั่งฟ้องดำเนินคดีกับคนบนเรือทั้ง 5 คน รวมทั้งกุนซืออีก 1 คน
ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับคนบนเรือนั้น ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวยืนยันว่ายังไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับบุคคลใด.-สำนักข่าวไทย