เหยื่อเป็นสิบ โผล่แฉหมอจอมถูขณะรักษา 

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – ประเด็นอื้อฉาวสนั่นโซเชียล หลังมีหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวหาแพทย์เจ้าของคลินิกย่านรามคำแหง ลวนลามขณะทำการรักษา หลังจากนั้นปรากฏว่ามีผู้เสียหาย 8 คน ออกมาให้ข้อมูลว่าตกเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน


พนักงานขายเครื่องสำอางสาว อายุ 25 ปี เปิดใจกรณีโพสต์กล่าวหานายแพทย์อายุ 40-50 ปี เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง ก่อเหตุลวมลามขณะฉีดยารักษาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม จากนั้นได้เผยแพร่เรื่องราวผ่านโซเชียลฯ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ผู้เสียหายรายนี้ป่วยเป็นโรคต่อมทอนซิลอักเสบอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งจะไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่วันเกิดเหตุเจ็บคอมาก และที่โรงพยาบาลไม่มีแพทย์เข้าเวร จึงตัดสินใจไปรักษาที่คลินิก ซึ่งเคยไปใช้บริการแต่ไม่เคยรักษากับแพทย์คนดังกล่าว


ผู้เสียหายบอกว่า เดินทางไปพร้อมกับครอบครัวและถึงคลินิกเวลา 18.40 น. จากนั้นแพทย์ได้ซักถามอาการ  และตนเองได้ขอให้ฉีดยาเพื่อหายไวขึ้น แพทย์จึงให้ไปนอนรอบนเตียง พร้อมบอกให้หันหลัง ตะแคงข้าง และให้ถอดกางเกง โดยบอกว่าจะฉีดยาบริเวณสะโพก ขณะนั้นรู้สึกแปลกใจเพราะที่ผ่านมาเคยฉีดยาที่บริเวณข้อพับแขน  นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติอีกหลายอย่าง ทั้งการให้ถอดกางเกงลงเพื่อฉีดยา รวมถึงให้ขยับจุดที่นอนตะแคงจากบริเวณกลางเตียงไปที่บริเวณขอบเตียง 

หลังจากที่ผู้เสียหายให้แพทย์ฉีดยา รู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะเป้ากางเกงของแพทย์มาแนบที่บั้นท้าย แต่ขณะนั้นได้แต่นอนแข็งทื่อ กระทั่งแพทย์คนดังกล่าวฉีดยาเสร็จ ยังได้นวดเท้าเพื่อดูอาการแพ้จากมดกัด ทั้งที่ยังไม่ได้ใส่กางเกง อีกทั้งยังหาเรื่องนวดต่อไปอีก 5-7 นาที ก่อนกลับไปนั่งที่โต๊ะ และจ่ายยาตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผู้เสียหาย บอกว่า หลังจากรักษาเสร็จได้แจ้งพ่อแม่ทันที แต่ยอมรับว่าขณะนั้นไม่กล้าโวยวาย เพราะหลักฐานมีเพียงคลิปซึ่งถ่ายเก็บไว้ตอนฉีดยาช่วงแรก เนื่องจากตั้งใจจะส่งให้เพื่อนดูว่ามาฉีดยา แต่หลังจากได้โพสต์เรื่องราวลงโซเชียลมีเดีย มีผู้เสียหายอีก 8 คนติดต่อมาว่าเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน บางคนเคยถูกลวนลามขณะนวดกายภาพ บางคนเคยถูกลวนลามขณะเรียนมัธยมปลาย ส่วนรายที่หนักสุดให้ข้อมูลว่า ถูกเป้ากางเกงสัมผัสตามตัวและขึ้นมาใกล้ใบหน้า


อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้เสียหายยังอยู่ระหว่างหารือว่าจะเอาผิดกับแพทย์รายนี้ได้หรือไม่ แต่ทุกคนต่างสนับสนุนให้แจ้งความและพร้อมเป็นพยานให้ ซึ่งผู้เสียหายกำลังตัดสินใจว่าจะแจ้งความและร้องแพทยสภา เพราะต้องการให้ยุติอาชีพแพทย์

ผู้เสียหายอีกคน อายุ 32 ปี กล่าวทางโทรศัพท์ว่าเคยไปรักษาอาการปวดขากับแพทย์คนดังกล่าว และแพทย์รายนี้ให้ตัวเองนอนหงายชิดขอบเตียงและดัดขาขวาขึ้นมา ทำให้กระโปรงเปิด และแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยท่าทางที่ล่อแหลมนานกว่า 5 นาที ก่อนทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยอมรับว่าไม่มีหลักฐานมากพอที่จะแจ้งจับแพทย์รายนี้ดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปคลินิกที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง พยาบาลแจ้งว่าแพทย์คนดังกล่าวไม่อยู่ แต่ยืนยันว่าแพทย์คนดังกล่าวเป็นเจ้าของคลินิกเปิดมานานกว่า 30 ปี และที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องเสียหาย พร้อมแจ้งว่าแพทย์คนดังกล่าวจะเดินทางมาให้รายละเอียดด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เพื่อรอสอบถามความชัดเจนจากแพทย์คนดังกล่าว แต่ได้คำตอบจากพยาบาลว่าหลังจากที่โทรไปบอกเล่าเหตุการณ์ ปรากฏว่าแพทย์คนดังกล่าวตกใจมาก จึงขอตั้งสติก่อน

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามร้านค้าที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้ข้อมูลว่า แพทย์คนนี้จะเข้าคลินิกวันจันทร์ – วันศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะกลับบ้านที่ชลบุรี แต่เท่าที่รู้จักพบว่าเป็นคนธรรมะธัมโม อีกทั้งภรรยาดุมากด้วย รวมถึงแพทย์รายนี้อายุเกือบ 60 ปีแล้วจึงไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนแบบนั้น

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูลของนายแพทย์รายนี้ พบว่าจบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนในกรุงเทพฯ  จบปริญญาตรี 2 ใบ จากมหาวิทยาลัยทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในไทย ก่อนจะเปิดคลินิกเวชกรรมส่วนตัวตั้งแต่ปี 2536 ส่วนงานอดิเรกพบว่ามีการไปนั่งกรรมฐานวิปัสสนาที่สำนักสงฆ์ รวมถึงสนใจพระเครื่อง เหรียญโบราณ และของสะสมโบราณ รวมถึงเป็นเจ้าของเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับองค์ความรู้ด้านพระเครื่อง

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ที่แพทย์เป็นผู้จัดทำ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงรับ และปฏิเสธว่าไม่ใช่เบอร์นายแพทย์คนดังกล่าว ก่อนตัดสายไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]