ฉาวอีก! พระหลอกเงินลูกศิษย์กว่า 18 ล้าน

กรุงเทพฯ 6 พ.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก! ลูกศิษย์กล่าวหาพระศูนย์วิปัสสนาฯ ย่านมีนบุรี หลอกเงินลูกศิษย์ รวมกว่า 18 ล้านบาท


ที่มาที่ไปเรื่องนี้ มีผู้เสียหายแจ้งความกล่าวหาว่า ถูกพระสงฆ์ผู้ก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี พร้อมพวก ร่วมกันหลอกเงินลูกศิษย์ จำนวน 3 คน รวมเป็นเงินกว่า 18 ล้านบาท โดยหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกหลอก เกิดขึ้นช่วงวันที่ 26 มกราคม – 7 มีนาคม 2565 มีทรัพย์สินถูกหลอกไป รวมกว่า 10 ล้านบาท พฤติการณ์พระรูปนี้จะชักชวนให้ผู้เสียหายที่รู้จักกันไปช่วยเหลือลูกศิษย์อีกคน อ้างว่ามีเรื่องฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาล และคดีชนะแล้ว แต่ไม่มีเงินวางประกัน ทำให้ไม่สามารถนำเงินสดและทรัพย์สินออกมาได้ จึงขอให้ช่วยนำเงินไปวางในชั้นศาล เมื่อได้เงินมาแล้วจะแบ่งให้ โดยอ้างว่าให้ค่าตอบแทนสูง ถ้าช่วยเงิน 1 แสนบาท จะคืนเงินตอบแทนให้ 10 ล้านบาท และทุกครั้งจะทำสัญญากู้ยืม เพื่อให้เชื่อใจ

โดยวันนี้ (6 พ.ค.) หนึ่งในผู้เสียหายได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่ สน.มีนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าและให้ปากคำเพิ่มเติม หลังสูญเงินกว่า 3 แสนบาท แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายโทรศัพท์บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คู่กรณีแจ้งมาว่าเตรียมส่งทนายเข้าพบตำรวจ เพื่อเจรจาคืนเงินที่หลอกไป โดยจะชดใช้ให้ประมาณวันที่ 10-12 พฤษภาคมนี้ และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่หลงเชื่อ จึงไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ ขอรอความชัดเจนก่อน แต่ยืนยันว่าได้โอนเงินไปจริง ซึ่งพระไม่น่าใช้ความศรัทธาของคนมาหลอกกันเลย

พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รองผู้กำกับการสืบสวน สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีพระรูปดังกล่าวแล้ว จะให้หญิงสาวฝาแฝดที่ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัว โอนเงินกระจายไปบัญชีต่างๆ ในเครือญาติ และบัญชีม้า รวม 6 บัญชี ซึ่งตอนนี้ได้อายัดไว้ตรวจสอบแล้ว รวมถึงบัญชีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวม 10 บัญชี

จากการตรวจสอบยังพบว่า เงินส่วนใหญ่ถูกโอนต่อไปยังผู้หญิงชาวไทยคนหนึ่ง ทำหน้าที่บัญชีอยู่ในบ่อนการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจจึงทำการสอบสวนหญิงคนดังกล่าว ให้การว่า เงินที่เข้ามาในบัญชี มักจะเป็นเงินที่โอนมาเพื่อแลกชิปเล่นพนันออนไลน์ ส่วนใหญ่ใช้ชื่อว่า นิพนธ์ และชื่อพระรูปดังกล่าว ทั้งยังพบความผิดปกติ มีการโอนเงินเข้า-ออกบัญชีส่วนตัวของพระรูปดังกล่าวหลายครั้ง ทุกวัน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักแสนบาท ส่วนการติดตามตัวพระรูปดังกล่าวมาดำเนินคดี ล่าสุดชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตามบ้านญาติ และสำนักสงฆ์ต่างๆ ในจังหวัดใกล้เคียง แต่ยังไม่พบตัว คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ และเตรียมออกหมายจับคนสนิทเพิ่มอีก 2 คน


ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังศูนย์วิปัสสนาฯ ซึ่งก่อสร้างมานานกว่า 10 ปี พบมีบริเวณไม่ต่ำกว่า 20 ไร่ ทางเข้าเต็มไปด้วยต้นอินทผลัม ซึ่งเจ้าของเดิมมีสวนอินผลัม บริจาคที่ดินให้ แต่ไม่พบพระรูปดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาฯ มีเพียงพระลูกวัด 6 รูป ตั้งแต่ช่วงโควิดก็ปิดให้บริการและล็อกกุญแจ มีเพียงลูกศิษย์ผู้ปฏิบัติธรรมมาเฝ้าดูแล โดยเล่าว่า พระรูปดังกล่าวออกจากวัดไปตั้งแต่ 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าเดินทางไปจำวัดที่ใด พระรูปดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก เป็นพระสายปฏิบัติ ไม่เชื่อว่าจะหลอกเอาเงินลูกศิษย์ตามที่ถูกกล่าวอ้าง เชื่อว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพทำกันเป็นขบวนการ มาหลอกลวงพระ โดยทำทีทักแชทมาหาพระ ขอความช่วยเหลือต้องการเงินไปวางประกัน นำทรัพย์สินมรดกหลายล้านบาทออกมา เมื่อได้เงินแล้วจะมาบริจาคสร้างศูนย์วิปัสสนาฯ พระจึงหลงเชื่อ นำข้อความดังกล่าวให้ลูกศิษย์ดู และขอเรี่ยไรเงินเพื่อช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยาก นอกจากนี้ มีการส่งกระเช้าดอกไม้มาตลอด พร้อมนามบัตรชื่อจากหน่วยงานต่างๆ ของศาล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ไม่เคยปรากฏตัวที่ศูนย์ฯ จนเมื่อแชทคุยกันหลายครั้ง พระหลงเชื่อโอนเงินให้ไป และทวงถามความคืบหน้า แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงตลอด เชื่อว่าพระน่าจะเครียด จึงออกจากวัดไปโดยไม่บอกกล่าวใคร อยากให้ท่านกลับมาเปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้รับรู้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย