คุมสอบเครียด 3 เยาวชนยกพวกถล่มอริ ซัดทอดเพื่อนร่วมแก๊ง

กทม. 4 พ.ค.- ตำรวจบางเขนคุมตัว 3 เยาวชนยกพวกถล่มอริ สอบสวนเครียด ให้การซัดทอดเพื่อนร่วมขบวนการ เร่งออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา


พลตำรวจตรีอรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14 และ 17 ปี ได้ถูกคุมตัวมาสอบปากคำ พร้อมรับสารภาพว่าอยู่ในช่วงเกิดเหตุ และให้การพาดพิงไปยังพรรคพวกที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14 – 18 ปี โดยฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนได้ไปติดตามยึดเสื้อยืดสีน้ำเงิน และหมวกกันน็อกสีเทาคาดขาวแบบเต็มใบ ที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยนำตัวเยาวชนที่ควบคุมตัวได้ 1 ใน 2 คน ไปตรวจยึดมาไว้เป็นหลักฐานทางคดี ซึ่งตรงกับเสื้อผ้าและหมวกกันน็อกของ 1 ใน 8 คนที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดขณะเดินเข้าไปก่อเหตุภายในบ้านของผู้เสียหาย นอกจากนี้ ชุดสืบสวนได้นำรถจักรยานยนต์สีดำคาดเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของ 1 ในผู้ก่อเหตุมาตรวจสอบ


พันตำรวจโทสราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการสอบสวน สน.บางเขน กล่าวว่า จากการสอบปากคำบุตรชายเจ้าของบ้าน อายุ 17 ปี พบประเด็นความขัดแย้งเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อสมัยเรียน ม.1 ตอนนั้น ผู้เสียหายอายุเพียง 13 ปี แต่ถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากว่าเวลาผ่านมาแล้วหลายปี และช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่มีประเด็นขัดแย้งเพิ่มเติม จึงอยู่ระหว่างการสอบปากคำประกอบกับให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่สอบปากคำพยานโดยรอบเพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริง

สำหรับผู้ก่อเหตุ ใครที่พิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลได้ จะออกหมายเรียกและให้ผู้ปกครองพามารับทราบข้อกล่าวหาเพราะเป็นเยาวชนไม่สามารถออกเป็นหมายจับได้ ซึ่งคาดว่าในส่วนของการยืนยันตัวบุคคลจะสามารถยืนยันได้ทั้งหมดเร็ว ๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจคุมตัวเยาวชน 2 คนมาสอบสวน ต่อมาบริเวณหน้าห้องฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน มีนางเอ (นามสมมุติ) เดินทางมาเพื่อขอพบกับบุตรชาย หลังทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่า ตำรวจพาตัวมาสอบปากคำ จากนั้น นางเอ บอกกับนักข่าวว่าจากการเข้าพูดคุยกับบุตรชายคร่าว ๆ ทราบว่า ตำรวจให้บุตรชาย บอกข้อมูลของผู้ที่ร่วมก่อเหตุเนื่องจากบุตรชายเป็นคนที่เพื่อน ๆ มักจะมาหา มารวมตัวกันไปไหนมาไหน ซึ่งช่วงเกิดเหตุประมาณสองทุ่ม ตนกับบุตรชายก็อยู่ในบ้านพัก แต่ไม่แน่ใจว่า หลังจากที่ตนเข้านอน บุตรชายจะออกไปกับเพื่อน ๆ หรือไม่ ส่วนจักรยานยนต์ที่ตำรวจยึดมาเป็นของตนเอง ที่ให้บุตรชายใช้ขี่ไปเรียนหนังสือ ส่วนเยาวชนที่ตำรวจพาออกจากห้องฝ่ายสืบสวนไปนำเสื้อและหมวกกันน็อกกลับมาเป็นรุ่นน้องของบุตรชาย


ส่วนประเด็นความขัดแย้งคาดว่ามาจากเมื่อ 6 เดือนก่อน บ้านตนเองถูกกลุ่มวัยรุ่นมาขว้างปาระเบิดใส่ในลักษณะเดียวกัน แต่ครั้งนั้นมีการมาเจรจาไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายที่ห้องสืบสวนมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่าความขัดแย้งน่าจะยุติลง แต่เมื่อคืนก็มาเกิดเหตุอีก ไม่มั่นใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากตำรวจรวมถึงบุตรชายยังไม่ได้ให้ข้อมูล ส่วนสาเหตุการปาระเบิดใส่บ้านพักเมื่อ 6 เดือนก่อนมาจากนักศึกษาอาชีวะต่างสถาบันกัน ที่เป็นอริกับบุตรชาย

ล่าสุด ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้คุมตัวเยาวชนชายอีก 1 ราย พร้อมรถจักรยานยนต์สีดำ มาสอบปากคำ นับเป็นเยาวชนรายที่ 3 ที่มีการคุมตัวมาสอบสวน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]