“อัจฉริยะ” โชว์ภาพอ้างมีการสร้างแผลเพิ่มคดีแตงโม

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.- “อัจฉริยะ” ร้อง ผบ.ตร.สั่งย้ายพร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 4 นายตำรวจคุมคดี “แตงโม” นำโดย ผบช.ภ.1 พร้อมโชว์ภาพอ้างเจ้าหน้าที่นำศพ “แตงโม” ออกมาทำให้บาดแผลเข้ากับใบพัดเรือ ยืนยันวันที่ 9 พ.ค.นี้ เปิดชื่อกุนซือขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และย้ายจากตำแหน่งเดิมมาประจำที่ ศปก.ตร. กับนายตำรวจที่ทำคดีการเสียชีวิตนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม จำนวน 4 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งดังกล่าว เนื่องจาก พล.ต.ต.ไพศาล และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ บกพร่องต่อหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบในการทำคดีชันสูตรการเสียชีวิตของแตงโมควบคู่ไปกับคดีหลัก ส่วน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ และ พล.ต.ต.วสันต์ เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชา แต่นำหลักฐานเท็จร่วมกันแถลงข่าวโดยใช้ข้อมูลเท็จ ตลอดจนไม่มีคำสั่งให้อายัดเรือของกลาง และตรวจหาแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกายของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน หนึ่งในบุคคลที่อยู่บนเรือ


นายอัจฉริยะ ยังนำภาพที่อ้างว่าอยู่ภายในสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นภาพที่มีการนำใบพัดเรือสปีดโบ๊ทมาเทียบกับบาดแผลของแตงโม ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นการนำออกมาโดยผิดปกติ และเป็นการสร้างบาดแผลให้มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่การชันสูตรครั้งแรกมีเพียง 11 แผลเท่านั้น แต่ตำรวจแถลงสรุปไปถึง 26 แผล และเห็นว่าบาดแผลเกิดเป็นเส้นตรงและเกิดจากของมีคมหรือคัตเตอร์มากกว่า แต่การสรุปผลพยายามทำให้เข้ากับใบพัดเรือ และภาพถ่ายที่นำมาเปรียบเทียบก็ได้มาจากแพทย์นิติเวชที่ส่งให้ทีมสืบสวนนำไปประกอบสำนวนคดี และนี่ถือว่าเป็นการสร้างหลักฐานเท็จอีกชิ้นหนึ่ง

นายอัจฉริยะ ยืนยันว่าจะแถลงเปิดโปงถึงขบวนการสร้างหลักฐานเท็จในคดีนี้ทั้งหมดในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ โดยจะเปิดคลิปวิดีโอตั้งแต่การชันสูตรศพที่มีความพยายามสร้างบาดแผล ไปจนถึงข้อมูลเกี่ยวกับคำให้การของพยานที่ขัดแย้งกับที่ตำรวจแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นจะเปิดชื่อกุนซือที่เป็นหัวหน้าขบวนการนี้ ที่เป็นตำรวจชื่อย่อ “ต” ที่ยังอยู่ในราชการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”