“รองฯ รอย” แจงปม “ปวีณ” อ้างถูกกดดัน-แทรกแซง

กทม. 30 เม.ย. – ตำรวจเดินหน้าปราบค้ามนุษย์ ‘ผอ.ศพดส.ตร.’ เผย 4 เดือน ปี 65 ดำเนินคดีแล้ว 85 ราย สั่งฟ้อง 100% ชี้แจง “คดีโรฮีนจา” ยันสำนวนรัดกุม ทีมอัยการ–ตร. ขยายผลถึงปลายทาง จับแล้ว 120 คน เร่งรัดตามจับอีก 30 คน เคลียร์ทุกปม ตีข่าว “ปวีณ” ถูกแทรกแซง กดดัน ตั้งคำถามการออกมาเคลื่อนไหว
 
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยว่า วานนี้ ( 29 เมษายน 2565 ) ได้ประชุมเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์
 
“ตลอดปีที่ผ่านมา ตร. เร่งรัดปราบปราม ดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ให้ความรู้ตำรวจเรื่องข้อกฎหมาย แนวทางการดำเนินคดี และข้อปฏิบัติต่อเหยื่อค้ามนุษย์โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน กำชับดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกคดี โดยเฉพาะคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมกระทำผิด หรือมีส่วนรับผลประโยชน์ ต้องดำเนินคดีทั้งทางอาญา และทางปกครอง โดยไม่ละเว้น” พล.ต.อ.รอย กล่าว
 
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตร.มุ่งเน้นการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งแสวงหาพยานหลักฐาน ทั้งด้านนิติวิทยาศาสตร์ เอกสาร เส้นทางการเงิน ฯลฯ ให้ครบ ครอบคลุม ขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ จากต้นทางถึงปลายทาง สำนวนคดีต้องมีประสิทธิภาพ รัดกุม สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล โดยที่ผ่านมา ศพดส.ตร. มีแนวทางปฏิบัติ ให้พนักงานสอบสวนหารือกับพนักงานอัยการ สำนักคดีค้ามนุษย์ ในการทำสำนวนการสอบสวนคดีค้ามนุษย์ทุกคดี ซึ่งเห็นได้ชัดจากสถิติการสั่งฟ้องทุกคดีในชั้นอัยการ
 
“ในปี 2564 ดำเนินคดีค้ามนุษย์ 188 คดี เป็นความรับผิดชอบของตร. 182 คดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ 6 คดี จำแนกเป็น ค้าประเวณี 132 คดี สื่อลามก 13 คดี ผลประโยชน์รูปแบบอื่น 7 คดี เอาคนลงเป็นทาส 2 คดี ขอทาน 2 คดี บังคับใช้แรงงาน 15 คดี ขูดรีดและอื่นๆ 11 คดี โดยทั้งหมด โดยอัยการสั่งไม่ฟ้อง 7 คดี ต่อมาในปี 2565 ที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด–19 พบว่าสถิติการจับกุม ดำเนินคดีมนุษย์เพิ่มขึ้น เพียงช่วง 4 เดือนแรกของปี มกราคม – เมษายน 2565 จับกุมได้แล้ว 85 คดี เป็นความรับผิดชอบของตร. 83 คดี ดีเอสไอ 2 คดี จำแนกเป็นคดีค้าประเวณี 63 คดี สื่อลามาก 10 คดี ขอทาน 3 คดี บังคับใช้แรงงาน 7 คดี โดยยังไม่ปรากฏคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง” รองผบ.ตร. เผย
 
พล.ต.อ.รอย เผยอีกว่า ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 664 ราย เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 279 ราย ไม่เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 320 ราย อยู่ระหว่างคัดแยก 65 ราย ขณะเดียวกันดำเนินคดีเรือประมงผิดกฎหมาย 13 ลำ จากการตรวจสอบ 2,116 ลำ นอกจากนี้ยังตรวจสอบคดีลูกเรือตกน้ำในช่วงปี 2563 – 2564 จำนวน 231 ราย พบลูกเรือถูกทำร้ายร่างกายก่อนตกน้ำเสียชีวิต 4 ราย แต่ยังไม่พบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์
 
ผอ.ศพดส.ตร. ชี้แจงถึงคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ในพื้นที่ สภ.ปาดังเบซาร์ จว.สงขลา ในคดีอาญา ที่ 148/2558 ที่สำนักข่าวอัลจาซีรา นำเสนอการให้สัมภาษณ์ ของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดี ว่า คดีนี้เกิดขึ้นในปี 2558 ในพื้นที่ ตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จว.สงขลา พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งพนักงานสอบสวน 133 นาย มีพล.ต.อ.เอก อังสนานนนท์ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้นเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และกำกับดูแลคดี เนื่องจากเป็นคดีที่มีความผิดนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีพนักงานอัยการร่วมสอบสวน 12 ท่าน ในส่วนของตำรวจยังมี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน
 
“คดีนี้ เริ่มเมื่อ 3 พฤษภาคม 2558 ต่อมาเมื่อ 28 พฤษภาคม 2558 พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองผบช.ภ.8 เข้าร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน ตามหนังสือคำสั่งของอัยการสูงสุด คดีนี้ใช้เวลา 51 วัน ในการทำสำนวนจนส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ในวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ขยายผลจนพบผู้เกี่ยวข้อง ผู้ต้องหา 155 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย ออกหมายจับ 153 หมาย มีเจ้าหน้าที่ของรัฐตกเป็นผู้ต้องหา 22 คน ประกอบด้วย ทหาร 5 นาย, ตำรวจ 4 นาย, ปกครอง 12 ราย และเจ้าหน้าที่อนามัย 1 ราย จับกุมแล้ว 120 หมาย ถอนหมาย 3 หมาย เนื่องจากเสียชีวิตระหว่างหลบหนี คงเหลือ 30 หมายจับ ที่ยังหลบหนี ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ส่งฟ้องทั้งหมด” รองผบ.ตร. กล่าว
 
พล.ต.อ.รอย ที่ผ่านมาเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 30 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงผู้สนับสนุน ช่วยเหลือในการกระทำความผิด ประกอบด้วย ชาวไทย และคนต่างด้าว จากการสืบสวนทราบส่วนใหญ่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงมอบหมายให้ ภ.9 ตำรวจสอบสวนกลาง และกองการต่างประเทศ ร่วมกันประสานประเทศที่เกี่ยวข้อง ติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม และ 24 มีนาคม ที่ผ่านมาก็ติดตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการนี้ได้เพิ่มอีก 2 ราย คดีนี้ตำรวจยังเกาะติด ไม่ได้ละเลย
 
กรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่าถูกกดดันให้ช่วยเหลือ พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ต้องหารายสำคัญ ในคดีนี้ เพื่อให้ได้รับการประกันตัว พล.ต.อ.รอยฯ กล่าวว่า คดีนี้ทำในรูปแบบคณะกรรมการ มีทั้งนายตำรวจผู้ใหญ่ในตำแหน่งสูงกว่า พล.ต.ต.ปวีณ และอัยการเป็นทีมพนักงานสอบสวน การพิจารณาในการปล่อยชั่วคราวอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ประกอบกับเป็นคดีร้ายแรง และมีอัตราโทษสูงถึงการประหารชีวิต มีผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก จึงต้องปฏิบัติให้เท่าเทียมกัน ไม่มีผู้ต้องหารายใดได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน การกล่าวอ้างว่าถูกกดดันขอให้ช่วยเหลือให้ได้รับการประกันตัว จึงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง พล.ต.ต.ปวีณ ไม่มีอำนาจในการอนุญาตให้ประกันตัว นอกจากนี้ คดีนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ และช่วงนั้นไทยก็ถูกจับตาเรื่องการจัดระดับ Trafficking in Persons (TIP) Report ซึ่งตอนนั้นไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3 ทำให้คดีนี้เป็นที่จับตาจากหลายฝ่ายอย่างมาก เพราะส่งผลกระทบต่อการจัดระดับฯ ซึ่งภายหลังคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ที่เจ้าหน้าที่ไทยขยายผลจับกุบผู้ต้องหาจำนวนมาก ประกอบกับปัจจัยอื่นๆ ส่งผลให้การจัดระดับ TIP report ของไทยขยับดีขึ้นอยู่ที่ เทียร์ 2 เฝ้าระวัง
 
ส่วนที่ระบุว่า พล.ต.ต.ปวีณ ถูกกดดัน คุกคามข่มขู่ นั้น รอง ผบ.ตร.ระบุว่า พล.ต.ต.ปวีณ เป็นเพียงหนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนเท่านั้น ไม่มีอำนาจเด็ดขาดในการสั่งคดี ผู้ควบคุมกำกับดูแลในคดีนี้ คือ พล.ต.อ.เอก ตามการมอบหมายของอัยการสูงสุด  


สำหรับกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง รองผบ.ตร. ระบุว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจ เป็นอำนาจการพิจารณาให้ความเห็นชอบของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)                
 
“มาพูดโดยข้อมูลฝ่ายเดียว โดยไม่มีอะไรรองรับ ซึ่งข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว แล้วทำไมต้องมาพูดในช่วงนี้ หวังผลประโยชน์อะไรที่ต้องการให้กระทบภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ ทำให้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตั้งใจทำงานกันทุกฝ่าย ทั้งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ตำรวจ อัยการ เราตั้งใจทำงานปราบปรามการค้ามนุษย์ แต่มาถูกดิสเครดิตโดยคนคนเดียว มาพูดโดยไม่มีอะไรรองรับ แล้วมาเป็นประเด็น มันไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่าตรงไหนยังไม่ทำ ก็บอกมา จะได้ไปทำ” พล.ต.อ.รอย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : “คลิปเสียง” อาวุธทางการเมืองในกัมพูชา

กัมพูชา 19 มิ.ย. – กรณีคลิปเสียงที่นายฮุน เซน เปิดเผยออกมา หลายท่านคงสงสัยว่า เขาเคยใช้วิธีนี้กับใครอีกหรือไม่ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามการปล่อยคลิปเสียงในฐานะเครื่องมือทางการเมืองในกัมพูชา. – สำนักข่าวไทย

รทสช.มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติพรรคคุยนายกฯ ก่อน

รทสช. 19 มิ.ย.- “รวมไทยสร้างชาติ” ยังไม่เผยมติพรรค มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติคุยนายกฯ ก่อน หลังมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองเกือบ 2 ชม. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล นายชื่นชอบ คงอุดม นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เข้าร่วมประชุม ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ติดภารกิจ ส่วนนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม ซึ่งทั้งนายเกรียงยศ และนายเกชา อยู่กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค จากนั้นเวลา 19.00 น. นายพีรพันธุ์ เดินทางออกจากพรรค […]

มทภ.2 ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยน มุ่งป้องกันประเทศทุกวิถีทาง

นครราชสีมา 19 มิ.ย. – ท่วมท้น! กำลังใจหลั่งไหลสู่ “พล.ท.บุญสิน” และทหารชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยนแปลง มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทาง ขอให้ประชาชนไว้วางใจ ช่วงบ่ายวันนี้ (19 มิ.ย.68) ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา สถานศึกษาและบริษัทเอกชน นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และส่งต่อธารน้ำใจไปยังทหารที่ประจำอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ นักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ยังนำข้อความจากใจของนักเรียนที่เขียนให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 มามอบให้ด้วย ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และบอกว่าจะรีบนำสิ่งของไปมอบให้โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝ่ายบริหารก็แก้ปัญหาทางการเมือง ส่วนความมั่นคงของชาติ ทั้ง 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทางที่จะไม่ให้เสียดินแดน ขอให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ สิ่งที่ตนพูดไปแล้วก็ตามนั้น. – สำนักข่าวไทย

“ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล มองเป็นการสนทนา “อา-หลาน”

พรรคชาติ​ไทย​พัฒนา​ 19​ มิ.ย.-“วราวุธ” ประกาศชัด “ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัว บอกช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ รัฐบาลต้องมีความมั่นคงทางอธิปไตย มองคลิปเสียงเป็นการสนทนาระหว่าง “อา-หลาน” แต่ไม่รู้เจตนาคนปล่อย ขอคุยนายกฯ ก่อนเสนอที่ประชุมพรรคเคาะอีกครั้ง นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา​ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ สส.​ของพรรค และประธานคณะกรรมการดำเนินงานของพรรค เกือบ 2 ชั่วโมง ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อคิดและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ทุกคนลงความเห็นในทางเดียวกันว่าในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่าอธิปไตยของประเทศและความมั่นคงของประเทศคือสิ่งสำคัญที่สุดและไม่ควรตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง พรรคและสมาชิกพรรคจึงเห็นว่าควรสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงให้รัฐบาลทำให้เกิดความมั่นคงในอธิปไตยของประเทศ และได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนไปพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมีแนวทางอย่างไร หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมและครบถ้วนแล้วจะนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป นายวราวุธ ยืนยันชัดเจนว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะยังไม่ถอนตัวจากรัฐบาล เพราะความเข้มแข็งของรัฐบาลที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตย เราได้ยินคลิปการพูดคุยสนทนา แต่ไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว แน่นอนในโลกโซเชียลอาจจะบอกว่าชัดขนาดนี้แล้วจะคิดอะไรอยู่อีก แต่การตัดสินใจทำงานในรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศเราเอามาเสี่ยงไม่ได้การทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พรรคชาติไทยพัฒนามองว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อถามว่าจะให้รัฐบาลมากน้อยแค่ไหนนั้น นายวราวุธ กล่าวว่าทุกพรรคคงอยากจะหาทางออกให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุดเพราะความมั่นคงของประเทศไม่ควรตกอยู่ในความจำเสื่อม เชื่อว่าจะมีการพูดคุยกันโดยเร็ว เมื่อถามว่าการจับมือกับนายกฯ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายวรวุธ กล่าวว่า […]