สตช.28 เม.ย.-เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด นำเหยื่อค้าประเวณีข้ามชาติร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลจับกุมแม่เล้าคนไทย และช่วยหญิงสาวที่ถูกบังคับค้าประเวณีในบ่อนตรงข้าม อ.แม่สอดอีกนับร้อยคน
นายเอกภาพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจ สายไหมต้องรอด พาหญิงสาว อายุ 21 ปี หนึ่ง ในเหยื่อขบวนการค้าประเวณีข้ามชาติ เข้าร้องเรียน พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐาน รองผู้อำนวยการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ต้องการ ปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง (ศพดส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับขบวนการค้าประเวณีข้ามชาติ
หญิงสาว ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเป็นสมาชิกในเพจหางานต่างประเทศ โดย เพจไลฟ์สดหาคนไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน จึงตัดสินใจ ไปทำงาน โดยเข้าใจว่าเป็นงานเอนเตอร์เทน หรืองาน PR ซึ่งในฝั่งเมียนมาเรียกงาน KTV // จากนั้น ได้นั่งรถทัวร์ไปพบกับผู้จัดหางานที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อไปถึงพบหญิงสาวชาวมาเลเซียอีก 6 คน ที่เข้ามาทำงานเว็บพนันออนไลน์ ร่วมลักลอบข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศเมียนมาด้วย โดยมีคนในขบวนการเป็นผู้นำพาข้ามแดน ไปส่งที่บ่อนคาสิโน ซึ่งคนในพื้นที่เรียกว่าท่า เอเอ
เมื่อถึงท่าเอเอ ปรากฎว่า มีแม่เล้าคนไทยมาคัดเกรดหญิงสาวที่ถูกพาข้ามแดนเข้ามา โดยหญิงสาวหน้าตาดี จะได้ทำงาน KTV หรืองานเอนเตอร์เทน ส่วนผู้เสียหายไม่ผ่านการคัดเลือกจึงถูกบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ยินยอมต้องจ่ายเงินค่าไถ่ 2 หมื่น 5 พันบาท ไม่เช่นนั้นจะถูกขายต่อ ซึ่งผู้เสียหายไม่มีเงินจ่ายค่าไถ่จึงถูกขายต่อแล้วถูกบังคับค้าประเวณี ทั้งนี้ ในช่วงที่ผู้เสียหาย ทำงานอยู่สังเกตเห็นว่ามีช่วงการสับเปลี่ยนเวรของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับ จุดที่ถูกบังคับค้าประเวณีอยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 400 เมตรจึงอาศัยช่วงเวลากลางคืนตัดสินใจวิ่งหลบหนีกับเพื่อนอีกราย โดยกระโดดลงไปในแม่น้ำเมย แล้วร้องขอความช่วยเหลือจากทหารไทยที่ลาดตระเวรอยู่ชายฝั่งให้ช่วยเหลือ ซึ่งขณะวิ่งหนีมีเจ้าหน้าที่ หรือคนเฝ้าสถานค้าประเวณี วิ่งไล่จับตัวแต่ตามไม่ทัน
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่าได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายผ่านทางเพจสายไหมต้องรอด ช่วงต้นเมษายนที่ผ่านมา จึงประสานให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง กระทั่งผู้เสียหายหนีข้ามกลับมายังฝั่งประเทศไทยได้ และเข้าสู่กระบวนการกักตัวของจังหวัดเป็นที่เรียบร้อย จึงไปรับตัวมาเพื่อแจ้งความดำเนินคดี เพื่อขยายผลช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกบังคับค้าประเวณีในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีจำนวนนับร้อยคนตามที่ผู้เสียหายเล่าให้ฟัง พร้อมทั้งระบุว่า ผู้ที่ไลค์โซเชียล หางานเคทีวี และมีหญิงสาวหลงไปทำงานจำนวนมากเป็นเน็ตไอดอลคนไทยรายหนึ่ง
ขณะที่ ทีมสายไหมต้องรอดยังมีการเปิดเผยคลิปเหตุการณ์ขณะที่ ผู้เสียหายสาว ทั้งสองคนหลบหนีวิ่งข้ามชายแดนและกระโดดลงแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นคลิปที่ทหารไทยบันทึกไว้ผ่านกล้อง อินฟราเรด โดยจากคลิปจะเห็นว่าขณะที่ผู้เสียหายทั้งสองพยายามวิ่งหลบหนีและกระโดดลงแม่น้ำเมย ได้มีไฟฉายของทหารฝั่งเมียนมาร์ วิ่งติดตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารไทย ได้พยายามตะโกนบอกทหารเมียนมาร์ว่าอย่าทำอะไร พร้อมตะโกนให้ฝั่งไทยมีการบันทึกคลิปไว้ เพื่อป้องกันการกระทำรุนแรง จนทำให้ผู้เสียหายทั้งสองรายสามารถข้ามแดนกลับมาประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ทีมสายไหมต้องรอดยังได้เดินทางไปยังบริเวณชายแดน จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม พบว่า จุดที่ผู้เสียหายถูกกักตัวไว้เพื่อค้าบริการ ตั้งอยู่ห่างชายแดนไทยเพียง 402 เมตร .-สำนักข่าวไทย