รวบ “ส.จ.เอี้ยง” โยงคดียิงนายก อบต.บางสมบูรณ์

นครนายก 27 เม.ย.- กองปราบฯ รวบ “ส.จ.เอี้ยง” ผู้ต้องหาโยงคดียิงนายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก โดยทำหน้าที่จัดหารถเตรียมใช้สวมหรือทดแทนรถคันที่ก่อเหตุ ขณะที่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ รวมคดีนี้ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน จับได้แล้ว 3 คน เหลือเพียง “กุมารขาว” ที่ยังหลบหนี


ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุมนายนพดล อานทอง หรือ ส.จ.เอี้ยง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ในข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางหลักฐานในคดีอาญาเพื่อปกปิดความผิด ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มนายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ จ.นครนายก และพวก โดยตำรวจไปจับกุมได้ที่ จ.นครนายก

สำหรับพฤติการณ์ของการก่อเหตุมีรายงานจากคณะทำงานว่า ในส่วนของตัว ส.จ.เอี้ยง จะทำหน้าที่ในการหารถเพื่อเตรียมใช้สวมหรือทดแทนกับรถที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยมีการเตรียมซื้อรถรุ่นและสีเดียวกันรอไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบแผนประทุษกรรม พบว่ามีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มใส่ผู้สมัคร ส.จ.นครนายก จนทำให้ผู้สมัครคนดังกล่าวเสียชีวิต ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวมีการซื้อรถเตรียมไว้สลับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน แต่ในขณะนั้นตัวนายนพดล ไม่ได้ถูกออกหมายจับในคดีดังกล่าว เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งสำหรับคดีเก่าเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย


นอกจากนี้ ตำรวจยังได้ยึดรถของกลางในคดียี่ห้อมิตซูบิชิ แอททราจ สีบรอนซ์ ไว้ตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ลายพิมพ์ลายนิ้วมือแฝง และวัตถุพยานที่อยู่ภายในรถคันดังกล่าว ทั้งนี้ รถคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อเดียว รุ่นเดียว สีเดียว กับรถที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจยึดได้ที่จังหวัดชลบุรี โดยคาดว่ารถคันที่ยึดได้วันนี้ กลุ่มคนร้ายหามาเพื่อใช้ตบตาตำรวจ ในการสืบสวนติดตามหารถคันจริงที่ใช้ในการก่อเหตุ

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง พร้อมกับเปิดเผยว่า ส.จ.เอี้ยง ยังให้การภาคเสธว่า ซื้อรถคันดังกล่าวมาให้บุตรชายใช้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ถล่มยิงดังกล่าว โดยซื้อรถคันดังกล่าวมาหลังจากเกิดเหตุ แต่จากการสืบสวนของตำรวจ เชื่อว่ารถคันนี้ผู้ต้องหาจงใจจะนำมาใช้เพื่อตบตาหรืออำพรางการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่ง ส.จ.เอี้ยง รู้จักคุ้นเคยกับผู้ต้องหาทุกคน และจากการรวบรวมหลักฐาน ส.จ.เอี้ยง มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอหมายจับเพิ่มเติม

สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริเวณถนนปากท่อบางปรัง-เตยน้อย หมู่ 2 ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมืองนครนายก คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มรถตู้ของนายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.สมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายสมชาย ม่วงกาศ อายุ 63 ปี รองนายก อบต.บางสมบูรณ์ และนายวัชระ นุชแดง อายุ 52 ปี คนขับรถ เสียชีวิต


ต่อมาตำรวจคลี่คลายคดีรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดนครนายกอนุมัติหมายจับ 4 คน คือ 1.นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือบิ๊ก หรือกุมารขาว อายุ 35 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร (หลบหนี)

2.นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ อ๊อด หรือกุมารดำ อายุ 52 ปี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยไม่มีเหตุอันควร (จับแล้ว)

3.นายธวัชชัย ศรีชาญ หรือวัช อายุ 48 ปี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (จับแล้ว)

4.นายนพดล อานทอง หรือ ส.จ.เอี้ยง ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางของกลางในคดีอาญาเพื่อให้พ้นผิด (จับวันนี้)

สรุปตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน ล่าสุด คือ ส.จ.เอี้ยง ยังเหลือนายรัฐพล หรือ “กุมารขาว” ที่อยู่ระหว่างหลบหนี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย

น้ำค้างแข็ง

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า ขณะที่พื้นราบหนาวไม่แพ้กัน อุณหภูมิลดเหลือ 6-7 องศาฯ ส่วนที่พิษณุโลก บ้านร่องกล้า อุณหภูมิยอดหญ้าลบ 2 องศาฯ และที่บึงกาฬ ความหนาวกระทบวิถีชาวบ้าน ลมแรงทำไฟไหม้บ้าน