ตร.เเถลงสรุปสำนวนคดี “เเตงโม” เกิดจากความประมาทของบุคคลอื่น

กรุงเทพฯ 26 เม.ย.- ตำรวจเเถลงสรุปสำนวนคดี “เเตงโม” สั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหา พร้อมเปิดคลิปนาทีตกเรือ ย้ำเกิดจากความประมาทของบุคคลอื่น ทำให้ “เเตงโม” เสียชีวิต ไม่ใช่การฆาตกรรม โดยตกจากท้ายเรือ บาดแผลเข้ากันได้กับใบพัดเรือ ส่วนปัสสาวะท้ายเรือหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้


วันนี้ (26 เม.ย.65) ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมคณะ เเถลงสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “เเตงโม นิดา” นักเเสดงสาว

คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยมีการสอบสวนพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ ของกลาง คลิป DNA และอื่นๆ ประกอบด้วย พยานบุคคล รวม 124 ปาก ดังนี้ พยานที่ติดต่อผู้ที่อยู่บนเรือจำนวน 26 ปาก, พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จำนวน 62 ปาก, พยานผู้เชี่ยวชาญจำนวน 16 ปาก, พยานเจ้าหน้าที่จำนวน 20 ปาก เอกสารพยานวัตถุ รวมทั้งสิ้น 335 รายการ ดังนี้ พยานเอกสาร (ผลการตรวจต่างๆ) จำนวน 47 ฉบับ, พยานวัตถุ จำนวน 88 ชิ้น, ไฟล์คลิปวิดีโอจำนวน 200 ไฟล์ และเอกสารจำนวน 2,249 แผ่น


ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย
1.ปอ ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำ, แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน, ไม่ติดชื่อเรือเป็นอักษรไทยและอักษรภาษาอังกฤษที่หัวเรือ, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุแล้ว

2.โรเบิร์ต ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย, ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นอายุแล้ว, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำ

3.แซน ข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย


4.จ๊อบ ข้อหาเพื่อจัดช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น, ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงในแม่น้ำ

5.กระติก ข้อหาเพื่อจัดช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น, แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน

6.เอ็ม กุนซือ ข้อหาเพื่อจัดช่วยผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น / เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าหน้าที่

โดยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกราย

ด้านตำรวจฝ่ายสืบสวนเปิดคลิปบางส่วนเพื่อให้คลายข้อสงสัย ทั้งหมด 25 นาที แบ่งเป็น 4 ส่วน
1.พฤติการณ์การเกิดเหตุ
2.ไทม์ไลน์
3.หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
4.สภาพบาดแผล

พฤติการณ์ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 22.30 น. ได้เกิดเหตุ “แตงโม” นักแสดงสาวชื่อดัง ตกจากเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้เคียงกับท่าเรือพิบูลสงคราม 1

เวลา 23.00 น. ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนตกเรือ โดยมีการระดมค้นหาแค่ยังไม่พบ จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมทราบเพียงว่าแตงโมตกเรือ ซึ่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงไม่พบแตงโม และไม่มีคนบนเรือมาแสดงตัว

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 น. ตำรวจพบเรือลำเกิดเหตุจอดอยู่ที่ NBC Boat Club จากนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ พบพิรุธต้องสงสัย คือ มีแก้วเพียง 1 ใบ ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนคนบนเรือ ในระหว่างตำรวจตรวจสอบพยานหลักฐานอยู่นั้น ตำรวจได้สืบทราบตัวตนทั้ง 5 คนบนเรือ คือ ปอ โรเบิร์ต แซน จ๊อบ กระติก

เวลา 15.00 น. มีผู้ให้คำปรึกษาทั้ง 5 แจ้งว่าจะพาเข้าพบตำรวจในเวลานี้ แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มาตามนัด
เวลา 18.00 น. ปอ ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวน
เวลา 20.00 น. ทั้ง 5 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. พบร่างแตงโม กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 2.35 เมตร พบว่าลักษณะบาดแผลบาดเป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติ

ไทม์ไลน์
** ข้อมูลที่อ้างอิง จำพวกภาพกล้องวงจรปิด ข้อมูลตรวจสอบโทรศัพท์ การแชทต่าง ๆ 

ขณะเดียวกัน ตำรวจเปิดคลิปวิดีโอความยาว 25 นาที ซึ่งคลิปดังกล่าวประกอบด้วย 4 ส่วน ได้เเก่ 1.พฤติการณ์เกิดเหตุ 2.ไทม์ไลน์หรือช่วงเวลาไล่เรียงตั้งเเต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ เเละหลังเกิดเหตุ 3.หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 4.สภาพบาดเเผล โดยไฮไลท์สำคัญ คือ ไทม์ไลน์ ซึ่งตำรวจไล่เรียงเวลาจากกล้องวงจรปิด เเละการใช้โทรศัพท์ของบุคคลบนเรือ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ก่อนเกิดเหตุ 9 วัน
เวลา 08.00 น. ปอทักหากระติกทางไลน์ นัดแนะเพื่อนเก่าจิบไวน์
เวลา 19.00 น. กระติกไลน์หาแตงโม ว่าปอชวนไปล่องเรือ / แตงโมตกลง
เวลา 19.56 น. กระติกส่งข้อความหาปอว่า จะมีเพื่อนไปก้วยทั้งหมด 4 คน รวมแตงโม (เพื่อนอีก 2 คนในวันจริงไม่ว่างมาขึ้นเรือ) จากนั้นปอส่งรูปเรือลำที่เกิดเหตุมาให้กระติก

วันที่ 23 กุมภาพันธ์
เวลา 08.00 น. กระติกไลน์ชวนแซนไปขึ้นเรือ / แซนตกลง
เวลา 18.00 น. กระติกส่งข้อความหาปอ บอกว่าแซนไปด้วย
จากนั้นปอส่งพิกัดอู่เรือมาให้และนัดหมายเวลาลงเรือที่อู่เรือ NBC คือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในเวลา 18.00 น. 
เวลา 22.00 น. กระติกส่งข้อความหาแตงโม ว่าปอจะพาขับเรือเส้นอยุธยา

วันที่ 24 กุมภาพันธ์  (วันเกิดเหตุ)
-เวลา 14.00 น. กระติกส่งข้อความไลน์หาเเตงโม บอกว่าจะไปรับ
-เวลา 14.26 น. กระติกขับรถถึงบ้านเเตงโม
-เวลา 15.00 น. อีกฟากหนึ่งปอเดินทางถึงอู่เรือ NBC
-เวลา 15.52 น. กระติกเเละเเตงโม ขับรถออกจากบ้านของเเตงโม เพื่อไปยังอู่เรือ
-เวลา 15.35 น. จ๊อบเดินทางถึงอู่เรือ NBC
เวลา 16.45 น. กระติกเเละเเตงโม เดินทางถึงอู่เรือ
** โดยทั้งหมดในเรือมีสมาชิก 5 คน แซนเดินทางมายังไม่ถึง

16.49 น. GPS เรือออกจากอู่ เคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ
17.00 น. โทรศัพท์กระติกถ่ายภาพกระติกกับแตงโม
17.01 น. เรือเทียบท่าเติมน้ำมัน (โดยไม่มีแซน)
17.13 น. โอนเงินจ่ายค่าเติมน้ำมัน

ขณะเดียวกัน
17.13 น. แซนเดินทางมาถึงอู่เรือ และถ่ายภาพไว้ เพื่อค่อยเรือกลับมารับ
17.24 น. เรือกลับมาถึงอู่รับแซน
17.46 น. โทรศัพท์กระติกถ่ายภาพแตงโมไว้
18.11 น. โทรศัพท์กระติกถ่ายภาพแตงโมไว้
18.28 น. เรือจอดเทียบท่าครัวบ้านตานิด จ.ปทุมธานี
19.57 น. จ่ายเงิน
20.08 น. เรือออกจากร้านอาหาร
20.30 น. ได้ถ่ายภาพแตงโมไว้
20.39 น. แซนได้ถ่ายรูป
21.23 น. ผ่านกล้องวงจรปิดพระนั่งเกล้า
21.33 น. ผ่านกล้องวงจรปิดสะพานพระราม 5
21.36 น. ผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม 1
21.54 น. ผ่านกล้องวงจรปิดท่าเรือเทเวศร์
** ซึ่งจุดนี้เกิดข้อสงสัยว่ามีลักษณะคล้ายคนกระโดดลงจากเรือ

-เวลา 21.56 น. เรือถึงสะพานพระราม 8 กระติกถ่ายภาพคู่กับเเตงโม โดยมีฉากหลังเป็นสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นภาพที่ถูกตั้งข้อสังเกตเเสงไฟบริเวณสะพานว่าเป็นการตัดต่อ เพื่อจับผิดกระติก เเต่ผลการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญ เเละตรวจการถ่ายภาพในมุม-เวลาเดียวกัน เเละตรวจสอบจีพีเอสของเรือ พบว่าเรือเดินทางมาจุดนี้ครั้งเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเเก้ไขเวลา จึงตัดประเด็นเรื่องการตัดต่อภาพทิ้งไป

-เวลา 22.06 น. เรือวกกลับ กระติกถ่ายภาพโรเบิร์ต ซึ่งเป็นสะพานคนละด้านกับที่ถ่ายคู่เเตงโม
-เวลา 22.11 น. กระติกติดต่อเรียกใช้บริการรถรับจ้างส่วนบุคคล เพื่อให้ไปส่งบ้านของเเตงโม
-เวลา 22.18 น. เรือวิ่งผ่านสะพานซังฮี้ เห็นภาพเเซนย้ายมานั่งบริเวณท้ายเรือ
-เวลา 22.21 น. เเตงโมยังตอบเเชทคนในไอจี
-เวลา 22.32 น. ยังเห็นคนบนเรือครบ 6 คน โดยเเซนยังนั่งท้ายเรือ

ทั้งนี้ ช่วงเวลาสำคัญคือ ช่วงเวลา 22.33.51 กล้องวงจรปิดของการไฟฟ้า เห็นลักษณะเเสงเงา มีวัตถุบางอย่างอยู่ท้ายเรือ -เวลา 22.34 น. เรือผ่านบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม ยังเห็นเเสงเงาเหมือนวัตถุบางอย่างยังอยู่ท้ายเรือ จนกระทั่งผ่านไปไม่กี่วินาที ในช่วงเวลา 22.34.09-22.34.10 จากการตรวจสอบเเสงเงา ไม่พบวัตถุดังกล่าวที่ท้ายเรือเเล้ว จึงสันนิษฐานว่าเเตงโมตกเรือในช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับคำให้การของเเซน ที่ให้การว่าเเตงโมมาเกาะขาเพื่อปัสสาวะ เเละคำให้การของคนอื่นๆ บนเรือ ที่ให้การว่าเห็นเเตงโมเดินไปท้ายเรือ ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่าเเตงโมตกจากท้ายเรือในเวลา 22.34.10 น.

วันที่ 25 กุมภาพันธ์
เวลา 00.28 น. กระติกส่งข้อความหาเพื่อนว่าลงจากเรือมาเข้าห้องน้ำ
00.30 น. เข้าห้องน้ำบ้านชาวบ้าน
00.39 น. กล้องจับภาพกระติกและโรเบิร์ต
00.44 น. โรเบิร์ต ปอ โทรหากัน
00.45 น. GPS ขอเรือวนกลับเข้าอู่เรือ

ขณะเดียวกันกระติกและโรเบิร์ตเดินมาที่ปากซอย
00.52 น. รถแกร็บมารับมุ่งหน้าอู่เรือ
01.03 น. ถึงอู่เรือ
01.06 น. เรือถึงอู่เรือ
01.22 น. โบ เดินทางถึงอู่เรือ
01.44 น. จ๊อบออกจากอู่
01.53 น. ผู้แนะนำคนหนึ่งส่งข้อความมาให้โรเบิร์ต อย่าให้การกับตำรวจ
02.26 น. มีการรวมกลุ่มกันที่ปั๊มเชลล์
02.27 น. ผู้แนะนำบอกให้ทั้ง 5 คน เลื่อนนัดตำรวจ เพราะมีแอลกอฮอล์ในเลือด
03.04 น. กระติกออกจากอู่เรือ
03.29 น. ขับรถถึงบ้านแตงโม
04.11 น. กระติกขับรถออกจากบ้านแตงโม
11.00 น. มาพบทนายคนหนึ่งย่านทองหล่อ
17.17 น. มาพบทนายชื่อดังอีกคนหนึ่งย่านราชพฤกษ์
20.00 น. ทั้ง 5 คน เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน

สำหรับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ตรวจเรือลำเกิดเหตุ พบ DNA ของคนบนเคือติดอยู่บนเรือหลายแห่ง, บริเวณห้องน้ำเรือมีการนำของไปเก็บไว้อยู่เต็มห้องน้ำ, ตรวจสอบคราบโลหิตบนเรือไม่พบคราบโลหิต

-ข้อพิรุธ พบแก้วไวน์ 1 ใบ จึงตรวจสอบโดยรอบ พบกระติกสีดำอยู่ที่อู่เรือ เปิดดูภายในพบแก้วจำนวนหลายใบ ซึ่งยืนยันได้ว่าเรือลำนี้เป็นเรือลำเดียวกับที่ใช้ในวันเกิดเหตุ ไม่ได้มีการสับเปลี่ยนเเต่อย่างใด

สำหรับผลการชันสูตรพลิกศพ

  • หญิงอายุ 36 ปี สูง 167 ซม.
  • สวมชุดว่ายน้ำเต็มตัว
  • กระดูกอยู่ในสภาพปกติ
  • ฟันไม่หัก
  • ศีรษะไม่พบรอยช้ำ
  • ตรวจแอลกอฮอล์ในตา 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  • ไม่พบสารเสพติด หรือสารยามอมเมา
  • พบโคลนทั่วไปในหลอดลม และแขนงในหลอดลม

บาดแผลภายนอก 26 บาดแผล
แบ่งเป็นกลุ่มบาดแผล 10 กลุ่ม
1.บาดแผลกลุ่มใหญ่ ฉีกขาด
2.บาดแผลฉีกขาดค่อนข้างเรียบ
3.บาดแผลถลอก แนวขวาง
4.บาดแผลถลอก แนวยาว
5.บาดแผลฉีกขาด แนวยาวบริเวณข้อพับ
6.บาดแผลถลอก แนวยาวซ้าย
7.บาดแผลถลอก เข่าซ้ายด้านนอก
8.บาดแผลฟอกช้ำ บริเวณต้นขาซ้ายด้านหน้า
9.บาดแผลฟอกช้ำ บริเวณเข่าซ้าย
10.บาดแผลฟอกช้ำ บริเวณแข้งซ้าย

ยืนยันว่าบาดแผลทั้งหมดเกิดก่อนการเสียชีวิต โดยเฉพาะบาดเเผลบริเวณต้นขา ยาว 26 เซนติเมตร กว้าง 7 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อนำบาดเเผลมาทำกราฟฟิกเปรียบเทียบ พบว่าเข้าได้กับลักษณะของใบพัดเรือ โดยปั่นในเเนวขวางกับขาของเเตงโม อีกทั้งเจ้าหน้าที่นำใบพัดเรือไปทดสอบโดยการกดเเละปั่นกับดินน้ำมัน พบลักษณะบาดเเผลมีความเว้าโค้งเเบบเเดียวกัน ประกอบกับบาดเเผลของผู้ที่ประสบเหตุถูกใบพัดเรือในต่างประเทศ ก็มีลักษณะเดียวกับบาดเเผลบริเวณต้นขาของเเตงโม

ส่วนคลิปที่โซเชียลตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฆาตกรรม โดยถูกตีศีรษะด้วยขวดไวน์ เเล้วโยนร่างทิ้งลงจากเรือนั้น จากไทม์ไลน์พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเเตงโมตกเรือเเล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่เเตงโมจะโดนทำร้าย อีกทั้งคลิปที่ถูกถ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่คนบนเรือกำลังทำลายพยานหลักฐาน เช่น เเก้วเเละขวดไวน์ โดยการโยนทิ้งลงน้ำ

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า จากภาพหลักฐานคงไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้ว่า แตงโมไปปัสสาวะบริเวณท้ายเรือจริงหรือไม่ เพราะมีเพียงคำให้การของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน เพียงคนเดียว แต่จากการเก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งจีพีเอสของเรือ ภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงผลการชันสูตรบาดแผลของแตงโม ที่สอดคล้องจังหวะการปั่นของใบพัดเรือ แพทย์สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า มีผู้เดินไปบริเวณท้ายเรือ และหายไปจากท้ายเรือ ในเวลาประมาณ 22.34.10 น. แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าเหตุนี้เป็นการกระทำโดยประมาทอย่างไร เนื่องจากมีผลต่อการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เชื่อว่าการที่บุคคลบนเรือพยายามปิดบังข้อเท็จจริงในช่วงแรกที่เกิดเหตุ เพราะทุกคนบนเรือมีอาการมึนเมาทั้งหมด และทุกคนมีการขอคำปรึกษาผู้อื่น ซึ่งแนะนำว่าให้เลื่อนการเข้าพบตำรวจ จนทำให้การค้นหาแตงโม และการตรวจร่างกายล่าช้า แต่ต่อมาพนักงานสอบสวน สามารถรวบรวมหลักฐาน จนดำเนินคดีกับบุคคลบนเรือ 5 คน และที่ปรึกษาทางคดี 1 คน โดยความผิดในข้อหาหลัก คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงยืนยันได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่การที่แตงโมตกน้ำเสียชีวิตเอง แต่เกิดจากบุคคลอื่น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]