จับตาแถลงปิดคดี “แตงโม” พรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้วกับคดี “แตงโม” ตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่สุดพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) จะมีการแถลงปิดคดีอย่างเป็นทางการ หลังการแถลงตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ส่งฟ้องทุกคดี ทุกข้อหา ต่ออัยการจังหวัดนนทบุรี ทันที


วันพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) เวลา 13.00 น. พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และคณะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จะแถลงปิดคดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยได้เชิญ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของแม่ เข้าร่วมรับฟังด้วย

การแถลงจะมีการชี้แจงทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นในประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหตุการณ์เรือลำเกิดเหตุ ความผิด อัตราโทษ ข้อเท็จจริง รวมถึงเรื่องบาดแผลว่าเกิดจากอะไร ซึ่งมีการชันสูตรศพถึง 2 รอบ โดยรวมระยะเวลา 2 เดือน 2 วัน ที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนคลี่คลายข้อสงสัย จนสามารถดำเนินคดีกับคนบนเรือได้ทั้งหมดทั้ง 5 คน ในข้อหาที่แตกต่างกันไป


โดย ปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ถูกดำเนินคดี 5 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา มาตรา 291 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ, แจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ตาม ป.อาญา มาตรา 172

จากการสอบสวนปอให้การว่า ตอนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ล่องเรือกลับ หลังจากไปถ่ายรูปที่บริเวณสะพานพระราม 8 และมาพบว่าช่วงที่แตงโมหายจากเรือคือช่วงบริเวณสะพานพระราม 7 ตอนนั้นตนเองไม่ได้เป็นคนขับเรือ แต่คนขับเรือคือ โรเบิร์ต และอ้างว่าแซนเป็นคนเห็นเหตุการณ์ เพราะแตงโมได้พยายามจับขา หลังจากนั่งปัสสาวะบริเวณท้ายเรือ ก่อนจะพลัดตกแม่น้ำ ช่วงนั้นไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากแตงโม เพราะเสียงเครื่องยนต์ดัง ประกอบกับเปิดเพลงจากลำโพง และเรือไม่ได้แล่นด้วยความเร็ว ยอมรับว่าทุกคนดื่มไวน์มาตั้งแต่ร้านอาหาร แต่ไม่มีอาการมึนเมา หลังรู้ว่าแตงโมตกเรือได้พยายามช่วยกันค้นหา ก่อนจะแจ้งตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยืนยันหลังเกิดเหตุไม่มีเจตนาหลบหนี แต่ยอมรับว่ามีอาการตกใจ กังวล เมื่อตั้งสติได้จึงเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ยืนยันไม่มีเจตนาให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับแตงโม

โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ถูกตั้ง 4 ข้อหา คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา มาตรา 291, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่มีใบอนุญาต, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ


จากการเปิดเผยของตำรวจ โรเบิร์ตยอมรับว่าขับเรือไม่เป็น แต่อยากลองขับ ทำให้มีจังหวะที่เรือกระชาก ขณะใช้ความเร็วเรือ 8 นอต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แตงโมพลัดตกเรือ

แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ถูกตั้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา มาตรา 291 เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ยืนยันคำให้การตามเติมว่าแตงโมไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ

จ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร โดน 2 ข้อหา คือ ช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา ตาม ป.อาญา มาตรา 184 หรือทำลายหลักฐาน, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ สอบสวน “จ๊อบ” ให้การปฏิเสธ ทั้ง 2 ข้อหา

กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ถูกข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ตาม ป.อาญา มาตรา 172, ทำลายพยานหลักฐาน ตาม ป.อาญา มาตรา 184 หลังลบภาพล่องเรือในมือถือ

กระติกให้การรับสารภาพว่า ได้ให้การอันเป็นเท็จ แต่ไม่ขอบอกรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องในสำนวน ซึ่งมีรายงานว่าได้ให้การเท็จเรื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากกว่า 3 ขวด และยืนยันไม่เห็นแตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือ โดยแซนเป็นคนเห็น ส่วนเรื่องลบรูปนั้น กระติกบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่บางรูปไม่สวยก็ลบ แต่ไม่ได้มีการทำลายหลักฐาน
จากข้อมูล

พอจะคาดการณ์ได้ว่าการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จากพยานหลักฐานขณะนี้ สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย เนื่องจากบาดแผลตามร่างกายนั้นเข้ากับใบพัดเรือ ซึ่งหลังจากตำรวจแถลงปิดคดีแตงโมแล้วเสร็จจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมสำนวนคดี ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการทันที เบื้องต้นตำรวจมีการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคนในทุกข้อกล่าวหาที่ถูกดำเนินคดี

นอกจาก 5 คนบนเรือแล้ว ตำรวจยังมีการดำเนินคดีกับนายเอ็ม กุนซือที่ให้คำแนะนำแก่คนบนเรือในการให้ข้อมูลกับตำรวจ ใน 3 ข้อหา ด้วย คือ มาตรา 84 ผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดไม่ว่าด้วยการใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด ผู้นั้นเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด, มาตรา 172 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 184 ผู้ใดช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด โทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การแถลงปิดคดีในวันพรุ่งนี้เป็นที่จับตา เพราะนอกจากผู้เสียชีวิตจะเป็นนักแสดงชื่อดังแล้ว ปมสาเหตุการเสียชีวิตยังเกิดข้อกังขาสงสัยมากมาย ตั้งแต่วันเกิดเหตุที่คนบนเรือหายตัวไป ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่กลับมีภาพจากกล้องวงจรปิดไปปรากฏในสถานที่ต่างๆ รวมทั้งไม่ได้เข้าพบตำรวจทันที การส่งศพแตงโมไปชันสูตร หลังพบร่างในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ จากเดิมจะส่งไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต แต่เปลี่ยนกะทันหันไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีการโยนแก้วและขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทิ้งน้ำ มีการไปรวมตัวกันหลังเกิดเหตุและยังนัดพบกับกุนซือก่อนเข้าพบตำรวจ เมื่อคนบนเรือไปพบตำรวจไม่มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ทั้งหมด รวมไปถึงการไปบวชโยคีของปอและโรเบิร์ต

นอกจากพฤติกรรมของคนบนเรือแล้ว กระแสสังคมยังตั้งคำถามถึงการทำคดีของตำรวจที่ถูกมองว่าหละหลวม ทำให้เกิดกระแสดราม่ามากมาย และมีนักสืบโซเชียลต่างพากันตรวจสอบขุดคุ้ยเพื่อช่วยหาหลักฐานในคดีนี้ โดยเฉพาะที่มีการระบุว่าชุดบอดี้สูท และทำท่าดังกล่าวก็ไม่สามารถทำได้ การนำคลิปการดำน้ำของกระติกออกมาเผยแพร่หลังจากเจ้าตัวบอกกับแม่แตงโมว่าว่ายน้ำไม่เป็น การตั้งข้อสังเกตเรื่องไฟบนสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นฉากหลังภาพถ่ายสุดท้ายของกระติกและแตงโม ที่ระบุเวลา 21.56 น. ขณะที่เวลาปิดไฟของสะพานพระราม 8 คือ 21.00 น. จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการเซตเวลาบนโทรศัพท์เพื่อสร้างหลักฐานเวลาหรือไม่

นักสืบโซเชียลได้ชี้พิรุธเรื่องรอยขีดข่วนและรอยฟกช้ำตามร่างกายของ ปอ แซน รวมถึงเสื้อของจ๊อบ ว่ามีรอยขาด จนนำไปสู่การเปลี่ยนเสื้อโชว์ของจ๊อบว่าเสื้อตัวนี้ไม่มีรอยขาด ปรากฏว่าตอนถอดเสื้อนักข่าวเห็นรอยฟกช้ำที่หัวไหล่และรอยขีดข่วนตามตัว รวมถึงมีการตั้งข้อสงสัยเรื่องสภาพศพของแตงโม โดยเฉพาะบาดแผลที่ต้นขาด้านใน รวมถึงสภาพศีรษะ กะโหล จนทำให้ทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้ชี้แจงการผ่าชันสูตรศพแตงโมให้แม่และทนายความทราบอย่างละเอียด ทำให้ครอบครัวพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังติดใจสงสัยอีก 11 ประเด็น ทนายความจึงมีการยื่นเรื่องต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขอให้มีการชันสูตรแตงโมเป็นครั้งที่ 2 และมีการแถลงผลเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ผลปรากฏว่าผลการชันสูตรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่เปิดเผยข้อมูลให้สื่อได้ทราบเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น ไม่พบบาดแผลที่ ศีรษะ สภาพใบหน้าของศพเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามสภาพของศพหลังการตายได้ ที่อาจเกิดจากอากาศ ความดัน ไม่พบว่ามีการรัดคอ แผลที่ขา เล็บมือ ได้ตรวจซ้ำอีกครั้งว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่ แผ่นหลังไม่พบบาดแผล หลอดลม อวัยวะเพศ ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว เสื้อผ้าที่สวมใส่วันเสียชีวิต ในการตรวจรอบ 2 ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ คือไม่ได้ตรวจบอดี้สูท โครงสร้างกระดูกทั้งหมดไม่พบการแตกหัก เช่น ฟันยังครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ในการตรวจสอบพบบาดแผลทั้งหมด 22 จุด แต่โดยรวมไม่ต่างจากรอบแรก คือไม่พบบาดแผลที่ศีรษะ ฟันยังครบถ้วนสมบูรณ์

พี่ชาย “แตงโม” เปิดภาพน้องสาวในวัยเด็ก
ล่าสุดเมื่อวานนี้ “ต่อย ดายศ” พี่ชาย “แตงโม” ที่เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาทวงความยุติธรรมให้กับน้องสาว และติดตามความคืบหน้าในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตลอด ได้เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Dayos Dechjob ด้วยการเปิดภาพที่หาดูยาก และไม่เคยโพสต์ลงที่ไหนมาก่อน นั่นคือภาพ “แตงโม” ในวัยเด็ก ขณะที่กำลังว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน มีรอยยิ้มสดใส แต่ไม่มีเขียนแคปชั่นอะไร มีเพียงใส่อิโมจิรูป (หัวใจสีแดง และแตงโม) เท่านั้น บ่งบอกให้รู้ถึงความรู้สึกว่า “คิดถึงแตงโม” น้องสาว เสมอนั่นเอง

โพสต์ล่าสุดต่อมา “ต่อย ดายศ” พี่ชาย “แตงโม” ที่คิดถึงน้องสาวมากๆ ได้เดินทางไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา ตรงบริเวณจุดที่พบร่างไร้วิญญาณของน้องสาวลอยขึ้นมาเหนือน้ำ พร้อมเช็กอิน “ท่าน้ำพิบูลสงคราม 1” กับใส่อิโมจิ (ตัวเศร้าร้องไห้) รวมไปถึงยังได้โพสต์คลิปภาพงานอาลัย “แตงโม” และคลิป “แตงโม” น้องสาว ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]