กองปราบฯ 25 เม.ย.- “อัจฉริยะ” นำผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีพันตำรวจเอกนายหนึ่งกับลูกน้องใน จ.กาญจนบุรี ฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย ปมเงินค่าสินไหมทดแทน หลังลูกชายผู้เสียหายถูกรถชนเสียชีวิต โดยจ่ายให้เพียง 100,000 บาท จากเงินทั้งหมด 1.5 ล้านบาท
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำนายสมคิด ละอองนวล เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีตำรวจยศพันตำรวจเอกที่มีตำแหน่งเป็นผู้กำกับใน จ.กาญจนบุรี กับพวกที่เป็นตำรวจฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย
นายอัจฉริยะ เล่าว่า เหตุดังกล่าวต่อเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมปีที่แล้ว ผู้กำกับรายนี้ได้ขับรถยนต์เก๋งชนรถจักรยานยนต์ที่นายปริญญา ละอองนวล ลูกชายนายสมคิด เป็นผู้ขับขี่ บริเวณทางเข้าสถานีตำรวจ จนเสียชีวิต โดยในคดีนี้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีพันตำรวจเอกรายนี้ ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย ศาลจังหวัดกาญจนบุรีพิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี ปรับ 25,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา
ขณะที่พนักงานอัยการยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหาย ได้เป็นเงินค่าสินไหมจากกรมธรรม์ประกันภัย และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท
ต่อมาพันตำรวจเอกรายดังกล่าวกับพวก ซึ่งเป็นลูกน้อง หลอกและบังคับให้นายสมคิด เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาบ่อพลอย เพื่อรอรับเงินค่าสินไหมทดแทน ก่อนให้ทำใบมอบอำนาจให้พันตำรวจเอกรายนี้ไปถอนเงินออกมา โดยอ้างว่าหากไม่ทำเช่นนี้ผู้เสียหายจะไม่ได้เงิน รวมทั้งยังเคยให้ลูกน้องที่เป็นตำรวจ 2 นาย พานายสมคิดไปยกเลิกระบบข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าออกที่ธนาคาร เพื่อไม่ให้รู้ความเคลื่อนไหวทางบัญชี และให้มอบสมุดบัญชีเงินฝากของนายสมคิด ไว้กับตัวผู้กำกับรายนี้เอง ก่อนถอนเงินมาให้นายสมคิดเพียง 100,000 บาท ที่เหลือ 1.4 ล้านบาท นำไปเป็นของตนเอง
นายอัจฉริยะ ระบุว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการร่วมมือกันระหว่างผู้บังคับบัญชากับลูกน้องที่เป็นพนักงานสอบสวนยศพันตำรวจโท ซึ่งเคยมีเรื่องราวเรียกเงินจากคู่กรณีในอุบัติเหตุรถยนต์จำนวนกว่า 200,000 บาท มาแล้วครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย