มือยิงรถตู้อาสามูลนิธิฯ อ้างโมโหถูกปาดหน้า-บีบแตรใส่

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงรถตู้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู อ้างลงมือ เพราะไม่พอใจ ถูกรถอาสากู้ภัยขับปาดหน้าบีบแตรใส่ ด้านผู้เสียหายยืนยัน ไม่ได้ขับปาดหน้าหรือบีบแตรใส่ เพราะรถแตรเสีย ตำรวจจ่อแถลงคดีพรุ่งนี้ (25 เม.ย.)


จากกรณีที่เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา มีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงรถอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่บริเวณจุดจอดรถบนถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม ตัดถนนประเสริฐมนูกิจ จนทำให้ได้รับความเสียหายกระจกรถด้านข้างและด้านท้ายแตกเสียหาย

หลังจากเกิดเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ช่วงคืนที่ผ่านมา และนำตัวไปตรวจค้นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุในบ้านพักย่านนวมินทร์ คือ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็ก สีแดงดำ พร้อมกับปืนที่ใช้ก่อเหตุหลังได้นำไปทิ้งไว้ที่พงหญ้าข้างทาง พบว่าเป็นปืนขนาด จุด 380 พร้อมแมกกาซีน 2 แม็ก และกระสุนอีก 11 นัด


ความคืบหน้า พันตำรวจเอกพรทวี สมวงศ์  ผู้กำกับการ สน.โชคชัย ให้ข้อมูลว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการขอศาลอาญา ออกหมายจับนายธีระวัฒน์ อายุ 31 ปี ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นแล้ว โดยเมื่อคืน ชุดสืบสวน ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย ย่านถนนนวมินทร์ มาสอบปากคำ และยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง อ้างถูกรถของ อาสามูลนิธิ ขับรถปาดหน้าบริเวณถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม ขาออก ทำให้ไม่พอใจจึงกลับไปที่บ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกล โดยนำอาวุธปืนกลับมายิง โดยยืนยันว่าจะยิงเพียงรถ ไม่ตั้งใจยิงคน และไม่ได้เป็นเรื่องบาดหมางระหว่างมูลนิธิ เพราะไม่ได้เป็นอาสาสมัครมูลนิธิใด และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานอาสามูลนิธิใดๆ ซึ่งการยิงในครั้งนี้เป็นการตั้งใจยิงรถอาสาสมัครโดยไม่ได้เจาะจงว่าเป็นรถใคร ซึ่งจะมีการแถลงคดีในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.)

ด้าน พี่สาวผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยม น้องชาย ซึ่งก่อเหตุดังกล่าว บอกว่า ได้พูดคุยกับน้องชาย ซึ่งน้องชาย ยอมรับว่า เป็นคนยิงปืนใส่รถตู้ภัยจริงบอกว่าโมโหที่ถูกขับรถปาดหน้า และถามว่ามีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ น้องชายปฏิเสธไม่พูด และน้องชายไม่ได้ทำงานมูลนิธิแต่อย่างใด ซึ่งได้บอกให้น้องทำใจยอมรับกับ สิ่งที่ได้ทำลงไป

และยัง มีนายเอิร์ท อ้างเป็นเพื่อนผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยม แต่ไม่สามารถเยี่ยมได้ เพราะหมดเวลา โดยนายเอิร์ท บอกว่า อยากมาพูดคุย เพื่อทราบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะส่วนตัวไม่เชื่อว่าเพื่อนจะไม่พอใจในประเด็นขับรถปาดหน้า เพราะก่อนเกิดเหตุเคยมาปรึกษา โดยมีการพกอาวุธปืนมาด้วยแล้วบอกว่าร้อนเงิน ไม่มีเงินใช้ จึงเชื่อว่าเพื่อน อาจรับงานมาเพื่อมาก่อเหตุ ส่วนจะรับงานใครมาไม่รู้ ขอคุยเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน


นอกจากนี้ นายชยธร เจ้าของรถ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมแฟนสาว เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ ยืนยันไม่มีการขับรถปาดหน้าหรือ บีบแตรใส่คนคันอื่น ระหว่างทาง เพราะแตรรถเสียไม่สามารถใช้การได้ และกล้องหน้ารถเสีย จึงไม่สามารถบันทึกภาพ ส่วนคลิปวงจรปิดที่ปรากฏในโลกโซเชียลเป็นคลิปของกล้องหน้ารถเพื่อนอาสาอีกหนึ่งคันที่จอดอยู่หน้ารถตน รวมถึงได้ไปสอบถามไปที่สมาชิกในกลุ่มอาสาด้วยกันก็ยืนยันว่าไม่มีการขับรถปาดหน้าใคร และไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุที่บอกว่ายิงแต่รถไม่ได้ตั้งใจยิงคน แต่ส่วนตัวเห็นว่าผู้ต้องหาจ่อปืนมาที่ตน ส่วนรถคันก่อเหตุจำได้ว่าเป็นรถลักษณะที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้ น่าจะเป็นคันเดียวกัน แต่ไม่สามารถจำหมายเลขทะเบียนได้ ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุ ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันพร้อมทำหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งผู้บาดเจ็บต่อไป

ด้าน นางสาวธันยาพร แฟนสาว เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ จึงอยากสอบถามไปถึงผู้ก่อเหตุว่ามายิงรถอาสากู้ภัยด้วยสาเหตุใด เพราะไม่เคยรู้จัก หรือมีเรื่องบาดหมางหรือโกรธเคืองกันมาก่อน ยืนยันว่า ขณะนั่งรถไปกับแฟนไม่ได้ขับรถปาดหน้าใคร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]