fbpx

เอาผิด “ไฮโซลูกนัท” 2 ข้อหา กรณีด่า ผกก.ลุมพินี

กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – ตำรวจเตรียมดำเนินคดี 2 ข้อหา กับ “ไฮโซลูกนัท” ใช้ถ้อยคำหยาบคายรุนแรงต่อ ผกก.สน.ลุมพินี กรณีไม่ให้ขึ้นไปชี้จุดเกิดเหตุบนห้องของ “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” ด้าน “ทนายตั้ม” ขอให้ตำรวจตรวจสอบตำรวจยศ พล.ต.ต. ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี


พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมายของกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้พิจารณาให้ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี แจ้งความดำเนินคดีกับนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มราษฎร กรณีด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก รวม 2 ข้อหา คือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาท โดยเตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเร็วๆ นี้ ส่วนการที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ไฮโซลูกนัท และภรรยา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายถูกนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข่มขืนอนาจาร ขึ้นไปชี้จุดที่คอนโดฯ ย่านสุขุมวิทนั้น มองว่าจะเป็นผลดีต่อตัวผู้เสียหายเอง

สำหรับความคืบหน้าคดี ปัจจุบันมีผู้เสียหาย 15 ราย แยกเป็นคดีข่มขืน 3 ราย อนาจาร 7 ราย ข่มขืนอนาจาร 1 ราย อนาจารพรากผู้เยาว์ 1 ราย ขาดอายุความ 1 ราย คดีเกิดนอกราชอาณาจักร 1 ราย และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 1 ราย โดยเหยื่อรายที่ 6 ที่ปรากฏคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้เสียหายและนายปริญญ์นั้น แม้ผู้เสียหายประสงค์จะกันเป็นพยาน แต่ตำรวจพิจารณาแล้วไม่สามารถยอมความได้ จึงต้องมีการดำเนินคดี


ส่วนกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ อ้างว่าผู้เสียหายคดีแรกไม่ให้ความร่วมมือกับตนเอง เพราะมีอดีตตำรวจยศ พล.ต.ต. เข้ามาแทรกแซงนั้น ได้มีการตรวจสอบแล้ว ทราบว่าเป็นข้าราชการตำรวจบำนาญที่ทางมารดาของผู้เสียหายให้ความเคารพนับถือ และได้โทรศัพท์ปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนตัวของอดีตตำรวจไม่ได้เข้ามายุ่งในคดี หรือติดต่อพูดคุยกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด และผู้เสียหายประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับนายปริญญ์ อย่างถึงที่สุด คาดว่าจะสรุปสำนวนให้อัยการได้เร็วๆ นี้

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้ายื่นหนังสือถึง ผบช.น. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีมีตำรวจยศพลตำรวจตรี เข้ามาแทรกแซงคดีที่ผู้เสียหายอายุ 18 ปี เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข้อหากระทำอนาจาร โดยขอให้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของแม่ผู้เสียหาย ในเรื่องการติดต่อกับตำรวจนายนี้ และตรวจสอบว่า พลตำรวจตรีคนดังกล่าวมีการติดต่อกับบุคคลในพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่ามีการข่มขู่บังคับหรือจูงใจพยานหรือไม่ โดยทราบว่า พลตำรวจตรีนายนี้เคยดำรงตำแหน่งผู้การจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออก ปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว

นายษิทรา ระบุว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา เริ่มทราบว่าแม่ผู้เสียหายได้ปรึกษากับพลตำรวจตรีนายนี้มาตลอด จนสุดท้ายทางผู้เสียหายก็ไม่ทำสิ่งที่ควรทำ ซึ่งครอบครัวของเหยื่อแจ้งว่า พลตำรวจตรีนายนี้เป็นลุง แต่คาดว่าคงไม่ได้เป็นเครือญาติกัน โดยผู้เสียหายเริ่มไม่ให้ความร่วมมือตั้งแต่วันที่ตนแจ้งให้ไปที่ศาล เพื่อคัดค้านการประกันตัว แต่ยังไม่ถึงขั้นกลับคำให้การ ส่วนในอนาคตก็ไม่แน่นอน จึงต้องป้องกันไว้ก่อน เท่าที่ทราบ คาดว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผู้เสียหายก็คงได้ประสานกับพลตำรวจตรีนายนี้แล้ว โดยก่อนหน้าที่ผู้เสียหายมาปรึกษาตน ก็ยังไม่มีใครบอกให้เหยื่อไปแจ้งความแต่อย่างใด ตอนนี้กังวลว่า เมื่อคดีไปถึงชั้นอัยการ ที่อาจจะต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้เสียหายอาจให้การที่ไม่เป็นประโยชน์กับรูปคดี ยืนยันว่า เหยื่อทั้ง 15 ราย ที่มีการดำเนินคดีและให้การในฐานะพยานนั้น ยังไม่มีสิ่งไม่ชอบมาพากล แต่ต้องระวังไว้ เพราะฝ่ายผู้ต้องหาเริ่มตั้งหลักได้แล้ว หลังจากนี้ก็คงต้องระวังให้มากขึ้น ต้องคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้เสียหายให้ดี เพราะกลัวว่าจะมีบุคคลแอบอ้างเข้ามาทำให้รูปคดีเสียได้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง