อ้างเป็นประธานบริษัทตุ๋นเงินกว่า 29 ล้าน

กองปราบฯ 22 เม.ย.- กองปราบฯ รวบประธานคณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม อ้างตัวเป็นประธานบริษัทอีกหลายแห่ง ใช้เอกสารปลอมหลอกชาวบ้านร่วมลงทุน พบ 1 ปี เงินหมุนเวียนกว่า 29 ล้านบาท 


พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม ร่วมกับ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองปราบปราม แถลงจับกุมนายกำจรเกียรติ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ปลอมเอกสารสิทธิ, ใช้เอกสารสิทธิปลอม และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ โดยจับกุมที่อู่ซ่อมรถ ย่านบางกะปิ พร้อมยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 8 ใบ เอกสารเกี่ยวกับคณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า ตำรวจได้เตือนเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 หลังพบว่ามีองค์กรหนึ่งใช้ชื่อว่า คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม ชักจูงชาวบ้านให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยแจ้งว่าจะมีเงินเดือนค่าตอบแทนในแต่ละระดับที่สูงตั้งแต่ 15,000-1,000,000 บาท ตรวจสอบนายกำจรเกียรติ อยู่เบื้องหลัง โดยโครงการตามที่กล่าวอ้างไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง แต่ยังไม่ชัดเจนในความผิด กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีผู้เสียหายชาวเชียงใหม่มาร้องเรียนว่า มีคนอ้างชื่อคณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม มาชักชวนแม่ให้เข้าร่วมกลุ่ม โดยเสนอตำแหน่งผู้อำนวยการระดับตำบล และมีค่าตอบแทนเดือนละ 50,000 บาท เพียงจ่ายค่าสมัครสมาชิกแรกเข้า 320 บาท ซึ่งผู้ร้องเรียนคิดว่าเป็นมิจฉาชีพ จึงไม่ยอมให้แม่สมัคร แล้วนำพยานหลักฐานมามอบให้ตำรวจสืบสวน พบว่า กลุ่มดังกล่าวได้หลอกลวงชาวบ้านในจังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ตาก พิจิตร และนครสวรรค์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ


ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 บก.ป. เปิดเผยว่า พฤติกรรมนายกำจรเกียรติ อ้างตัวเป็นประธานคณะปฏิรูปยุทธศาสตร์ฯ และจะชักชวนให้ชาวบ้านร่วมเป็นสมาชิก โดยอ้างถึงนโยบายการทำความดี เพื่อช่วยเหลือสังคมประเทศชาติ อาทิ จัดสรรที่ดินทำกิน ครอบครัวละ 25 ไร่, เด็กที่มีอายุ 15-30 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้เงินเดือนๆ ละ 10,000-15,000 บาท โดยจะแบ่งสมาชิกเป็น 4 ระดับ คือ จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน แต่ละระดับต้องมีสมาชิก 16 คน จากนั้นกลุ่มสมาชิกต้องทำโครงการเสนอนายกำจรเกียรติ ทั้งยังอ้างถึงการเสนอโครงการต่างๆ ต่อบริษัท เคแอลปิโตรเลียม ประเทศไทย จำกัด ซึ่งระบุว่าตนเองเป็นกรรมการบริษัท และมีเงินทุนจดทะเบียนถึง 20,000 ล้านบาท แล้วจะมอบเงินงบประมาณในการช่วยเหลือกลุ่มสมาชิกให้ และเมื่อจัดทำโครงการสำเร็จ สมาชิกในกลุ่มแต่ละระดับจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนขั้นต่ำ คือ ระดับหมู่บ้าน 20,000 บาท ระดับตำบล 50,000 บาท ระดับอำเภอ 50,000 บาท ระดับจังหวัด 100,000 บาท

หากประชาชนสนใจสมัครสมาชิก ต้องชำระเงินค่าสมัครรายคน แบ่งเป็น ระดับหมู่บ้าน 200 บาท ระดับตำบล 300 บาท ระดับอำเภอ 400 บาท ระดับจังหวัด 500 บาท โดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีนายกำจรเกียรติ โดยตรง แต่เมื่อตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทะเบียนธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ธนาคาร แล้วพบว่า บริษัทดังกล่าวปลอมหนังสือรับรองการมีเงินฝากของธนาคารฯ ว่ามียอดเงินคงเหลือในบัญชี ณ วันที่ 22 ก.พ.64 จำนวน 20,000,000,000 บาท แล้วนำมาใช้ยื่นขอเพิ่มทุนจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่กรมทะเบียนธุรกิจการค้า และบริษัทดังกล่าวไม่เคยแจ้งประกอบกิจการกับกรมธุรกิจพลังงาน และบริษัทดังกล่าวไม่เคยเสียภาษีกับกรมสรรพากรแต่อย่างใด ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า มีเงินโอนเข้าบัญชีผู้ต้องหา ตั้งแต่ 1 ม.ค.64 – 28 มี.ค.65 มียอดรวมเงินโอนเข้า กว่า 29 ล้านบาท แต่ถูกโอนไปใช้จ่ายส่วนตัวเกี่ยวกับผู้หญิง โอนให้พวกพ้องของตัวเอง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย