เลื่อนอ่านฎีกา “ธาริต” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เหตุป่วยโควิด

กรุงเทพฯ  21 เม.ย.-ศาลเลื่อนอ่านฎีกา “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อดีตอธิบดีดีเอสไอ กับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แจ้งข้อหา “สุเทพ-อภิสิทธิ์” สั่งฆ่าประชาชน หลังสั่งกระชับพื้นที่ นปช.เมื่อปี 53 เหตุธาริตขอพักรักษาตัวป่วยโควิด-19


ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ครั้งที่ 3 คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ผอ.ศอฉ. ร่วมกันเป็นโจทก์ ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ, พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ในฐานะพนักงานสอบสวน ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 วรรคสอง

กรณีเมื่อระหว่างเดือนกรกฎาคม 2554-13 ธันวาคม 2555 จำเลยทั้ง 4 ในฐานะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนและตั้งข้อหากับโจทก์ทั้ง 2 ฐานสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ต้องรับโทษ จากการที่ ศอฉ.ออกคำสั่งให้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ที่ชุมนุมขับไล่นายอภิสิทธิ์ ให้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 โจทก์ทั้ง 2 ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษพวกจำเลยด้วย


ต่อมาศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้ง 4 กระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษากลับให้จำคุกจำเลย คนละ 3 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่จำเลยทั้ง 4 ได้รับการประกันตัวและยื่นฎีกาต่อ

เมื่อถึงเวลานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 นายธาริต ไม่ได้เดินทางมาศาล นอกจากนี้ทนายจำเลยได้ยื่นหลักฐานใหม่ในคดี พร้อมวางเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาผลร้าย ขณะที่ทนายโจทก์ยื่นคัดค้าน อ้างว่าเป็นพยานหลักฐานที่มีในคดีอยู่แล้ว แต่ปล่อยเวลาเนิ่นนานไม่ยอมยื่นเข้ามาในสำนวนคดี แต่เพิ่งมายื่นหลังจากจะมีคำพิพากษาฎีกา นอกจากนี้ ยืนยันไม่ขอรับเงินจำนวน 300,000 บาท เนื่องจากมีสิทธิฟ้องร้องทางแพ่งและเป็นคดีอาญา

ส่วนนายธาริต จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพาษาฎีกาออกไปอีก 3 เดือน เนื่องจากมีอาการหายใจไม่ออก เหนื่อยอ่อนเพลีย ขอพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 เดือน ไม่เช่นนั้นอาจมีอันตรายถึงชีวิต ซึ่งทนายความโจกท์ที่ 1 และ 2 ไม่เห็นด้วย เนื่องจากใช้ระยะเวลานานเกินไป และก่อนหน้านี้ก็ขอเลื่อนพักรักษาตัวในโรคอื่นลักษณะเช่นนี้


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เนื่องจากคดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลฎีกา ให้ส่งคำร้องของจำเลยที่ 1 ประกอบกับจำเลยไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ จึงเห็นควรให้ส่งคำร้องของจำเลยที่ 1 พร้อมเอกสาร สำนวนและซองคำพิพากษาไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาก่อน โดยให้เลื่อนการอ่านคำพิพาษาในวันนี้ หากศาลฎีกามีวันนัดวันใดจะแจ้งวันนัดฟังอีกครั้ง ส่วนเรื่องการขอให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยที่ 1 จะพิจารณาสั่งเมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย