กรุงเทพฯ 19 เม.ย. – ไล่เรียงไทม์ไลน์ผู้เสียหาย 14 คน คดี “ปริญญ์” พบก่อเหตุตั้งแต่ช่วงปี 50 จนมาถึง 2 เคสล่าสุดในปีนี้
จนถึงตอนนี้มีผู้เสียหายคดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รวม 14 คน ไล่เรียงมาตั้งแต่ รายแรก เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา เป็นนักศึกษา อายุ 18 ปี นับเป็นคนเปิดเรื่องนี้ออกมา โดยเหตุเกิด วันที่ 11 เมษายน ช่วงประมาณ 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม ที่ Rooftop ของร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 11 ซึ่งได้มีการติดต่อจะคุยเรื่องหุ้น แต่ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้ทำลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม ชวนพูดคุยเรื่องใต้สะดือ ไม่มีการพูดคุยในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องหุ้น ตามที่พูดคุยกันไว้ ได้มีการแจ้งความข้อหา : กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
รายที่ 2 เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อายุ 18 ปีเช่นกัน เหตุเกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานที่เดียวกับรายแรก คือ Rooftop ของร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 11 โดยก่อนหน้านั้นได้รู้จักกันในงานที่ผู้ก่อเหตุมาเป็นวิทยากร จากนั้นได้ทักมาชวนไปรับประทานอาหาร และบังคับให้ดื่มไวน์ ชวนคุยเรื่องความรักและเพศสัมพันธ์ มีการจับแขน จับหน้า จับมือ พร้อมอ้างว่าขอดูลายมือ และมีการอุ้มผู้เสียหายกลางร้านอาหาร ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ วันที่ 15 เมษายน ข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
รายที่ 3 แอนนา แฟนของไฮไซลูกนัท เกิดเหตุช่วงมีนาคม 2564 มีการนัดคุยที่ร้านอาหาร แล้วชวนไปออฟฟิศเพื่อจะคุยเรื่องธุรกิจ แต่พอไปถึงกลับเป็นห้องพักภายในคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท 33 และได้มีการข่มขืน จนทำให้ผู้เสียหายเป็นโรคซึมเศร้า รายนี้เข้าแจ้งความ วันที่ 14 เมษายน ข้อหา : ข่มขืนกระทำชำเรา
รายที่ 4 เป็นอดีตสมาชิกพรรคเดียวกันกับผู้ก่อเหตุ เหตุเกิดปี 63 หลังจบงานเลี้ยงที่ จ.เพชรบุรี ขณะที่ผู้เสียหายกำลังมาเก็บของที่รถ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาจับเอว จับก้น จับหน้าอก ล้วงจับของสงวน ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 14 เมษายน ข้อหา : กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
รายที่ 5 เป็นสาวเชียงใหม่ อายุ 25 ปี รู้จักกันในงานสัมมนา และมีการลวงผู้เสียหายเข้าโรงแรมช่วงต้นปี 64 ทำทีขอดูลายมือ และมีการลวนลามจูบปาก หอมแก้ม ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 เมษายน ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา
ส่วนรายที่ 6 – รายที่ 14 ได้เข้าแจ้งความเมื่อวานนี้ ที่ สน.ลุมพินี
รายที่ 6 เป็นหญิงสาวอายุ 26 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ( เป็นเจ้าของคลิปเสียงสนทนากับผู้ก่อเหตุที่ทนายตั้มโพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กเมื่อคืนวันที่ 17 เม.ย.65) รายนี้ เหตุเกิดช่วงปี 63 ผู้ก่อเหตุได้ข่มขืนผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายตั้งใจจะมาให้ปากคำในฐานะพยาน เพราะเคยมีการรับสิ่งตอนแทนมาแล้ว แต่พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุเข้าข่ายความผิดอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้
รายที่ 7 นักศึกษา อายุ 21 ปี เหตุการณ์เกิดเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้นอายุ 17 ปี ถูกลวนลามในตอนที่ฝึกงาน เคยโดนกระทำอนาจารระหว่างไป BTS โดยผู้ก่อเหตุได้ขออาสาจะไปส่ง มีการพูดจาแทะโลม ลูบขา แจ้งความข้อหา : กระทำการอนาจารและพรากผู้เยาว์ (เพราะตอนเกิดเหตุ ผู้เสียหายมีอายุเพียง 17 ปี)
รายที่ 8 ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว เหตุเกิดช่วงปี 59 โดยเจอผู้ก่อเหตุด้วยเหตุผลพูดคุยเรื่องธุรกิจ การลงทุน ที่ห้องเกิดเหตุเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้มีการใช้นิ้วมือล่วงล้ำ เคสนี้ ประสงค์ดำเนินคดีข้อหาข่มขืน
รายที่ 9 หญิงสาวอายุ 26 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว รู้จักกันในงานต้อนรับรองหัวหน้าพรรค จากนั้นมีการหลอกจะพาไปทานอาหาร แต่กลับเป็นที่ห้องพักคอนโด มีการชวนดื่ม และกระทำอนาจาร ผู้เสียหายรายนี้ เคยแจ้งความแล้วเมื่อ 13 พ.ย.63 แต่คดีไม่คืบหน้า และเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) จึงมาติดตามถามความคืบหน้าทางคดีที่ สน.ลุมพินี
รายที่ 10 หญิงสาวไม่ทราบอายุและอาชีพ เหตุเกิดช่วงปี 59 ผู้ก่อเหตุบอกจะให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ นัดไปที่ห้องทำงาน ผู้ก่อเหตุพยายามชวนให้ดื่มแอลกอฮอลล์ จากนั้นเริ่มลวนลามจับมือ แขน และล่วงละเมิดทางเพศ จนตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้น พบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างป้อม รปภ. รายนี้ บอกว่า รู้สึกขยะแขยงทุกครั้งที่เห็นชายคนดังกล่าวทำหน้าที่วิทยากร ตอนนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา
รายที่ 11 หญิงสาวไม่ทราบอายุและอาชีพ เหตุเกิดปี 57 โดยถูกล่อลวงไปที่พักเพราะผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นสำนักงาน และได้ลวนลาม ผู้เสียหายพยายามขัดยืน อ้างเหตุผลทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ถูกข่มขืน ทำให้เป็นซึมเศร้า เคสนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา
รายที่ 12 นักศึกษา เหตุเกิดปี 60 ที่อังกฤษ ผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุรู้กันกันก่อนที่เมืองไทย จากนั้นไปเจอที่อังกฤษ ผู้ก่อเหตุได้ชวนไปกินข้าว และเอาไวน์ให้ดื่มไม่กี่แก้ว จากนั้นผู้เสียหายรู้สึกเหมือนภาพตัด จึงไปแอบในห้องน้ำ พนักงานมาช่วย ผู้เสียหายจึงรีบหนีกลับบ้าน โดยคดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา
รายที่ 13 หญิงอายุ 43 ปี เหตุเกิดประมาณปี 50 ทำงานตึกเดียวกับผู้ก่อเหตุ มีการชวนไปดื่มกาแฟช่วงกลางวันแสกๆ มีการจับมือจับขา โอบเอว หลังจากนั้น ได้โทรมาชวนขึ้นออฟฟิศ ผู้ก่อเหตุได้ปิดไฟ พยายามล้วงทุกสิ่ง จูบปากแล้วบอกว่าขอ จนสุดท้ายผู้เสียหายหนีออกมาได้ คดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา
รายสุดท้ายที่มาแจ้งความเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) รายที่ 14 หญิงอายุ 31 ปี เหตุเกิดปี 58 ผู้ก่อเหตุพบผู้เสียหายตอนไปสัมภาษณ์งาน และได้ไปนั่งดื่ม มีการพยายามลวนลาม ผู้เสียหายพยายามปัดป้อง จากนั้นได้นัดผู้เสียหาย บอกว่าจะขอไปเช็กห้องที่คอนโด ผู้เสียหายเห็นว่ามีเซลผู้หญิงขึ้นไปด้วย จึงไม่กังวล แต่ไม่รู้ว่าเซลลงไปตอนไหน ผู้ก่อเหตุได้เข้าสวมกอดจากด้านหลัง แล้วข่มขืนในห้อง
หากดูจากช่วงเวลาที่ผู้เสียหาย 14 คน ให้การถึงช่วงเวลาที่เกิดเหตุ พบว่า มีการก่อเหตุตั้งแต่ช่วงปี 50 จากนั้นเว้นช่วงไป แล้วเริ่มมาก่อเหตุอีกครั้งในปีช่วง 57-60 จากนั้นกลับมาก่อเหตุอีกในปี 63 ปี 64 และ 2 เคสล่าสุดในปีนี้ (2565) เคสแรก เดือนกุมภาพันธ์ เคส 2 เดือนเมษายน
ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า กรณีที่ผู้เสียหาย 9 คน เข้าแจ้งความ เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกิดขึ้นนานแล้ว ทางตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบและพิจารณาวันเวลาก่อนปี 2562 เพราะในข้อหาข่มขืนบางมาตราสามารถยอมความกันได้ แต่หลังปี 2562 มีการแก้กฎหมายยอมความกันไม่ได้ ดังนั้น อาจมีปัญหาเรื่องระยะเวลาการเกิดเหตุ ต้องดูรายละเอียด ซึ่งคาดว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) น่าจะมีความชัดเจนว่า จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ในคดีไหนบ้าง ส่วนการเข้าตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ มีประโยชน์ต่อรูปคดี ได้เข้าไปดูสถานที่ ถ่ายภาพเก็บหลักฐาน ส่วนสถานที่อื่นๆ ยังไม่ได้ขอหมายค้น.-สำนักข่าวไทย