กรุงเทพฯ 18 เม.ย.- ทนายตั้มเตรียมพาผู้เสียหายอีก 6 คน เข้าแจ้งความเพิ่มคดีอดีตรอง หน.พรรคการเมืองรายหนึ่งล่วงละเมิด หลังเมื่อคืนปล่อยคลิปเสียงสนทนาปริศนา พร้อมข้อความโป๊ะแตกแล้วยังอ้างถูกพรรคการเมืองหนึ่งใส่ร้าย
เมื่อคืนที่ผ่านมา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความว่า “คลิปเสียงของเหยื่ออีกคน ที่ถูกรองหัวหน้าพรรคล่วงละเมิด สรุปมีกี่คนแน่ นับกันไม่หวาดไม่ไหว โป๊ะแตกขนาดนี้ กลับแก้ตัวไม่หยุด สมกับสุภาษิต “คนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัว” ทั้งที่เหยื่อหลายคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ว่าถูกนักการเมืองผู้นี้ล่วงเกินและกระทำชำเรา ข้อแก้ตัวเดียวที่คิดได้คือ ถูกพรรคการเมืองหนี่ง ที่ผมไม่ได้มีความสนิทชิดเชื้ออะไรด้วยเป็นคนเซ็ตอัปใส่ร้าย ส่วนเหยื่อที่เหลือคือลอกๆ กันมาจากในทีวี ไม่รู้จักกัน ลืมง่าย ลืมเก่ง คุณเป็นคนแบบไหนกันครับเนี่ย??? #พรรคก้าวไกลมาจากไหนก่อน #โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง”
ซึ่งหากฟังจากในคลิปและข้อความที่โพสต์ ทนายตั้มเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเป็นคลิปเสียงปริศนา อดีตรองหัวหน้าพรรค กับสาวปริศนา และขณะการสนทนา หญิงสาวเหมือนพยายามบอกเล่าเหตุการณ์ที่เจอกับฝ่ายชาย ว่าเคยเจอกันที่ไหนบ้าง รวมถึงห้องพักที่อยู่ในข่าว ก็เคยไป พร้อมย้ำถาม ทำไมพี่ไม่สำนึกผิด แต่ฝ่ายชายพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่อยากพูดคุย อ้างถูกกลั่นแกล้งจากพรรคการเมือง
ส่วนวันเดียวกันนี้ ทนายตั้ม ให้ข้อมูลว่าจะพาผู้เสียหายอีก 6 คนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผู้เสียหาย 6 คนนี้มีทั้งที่ถูกลวนลาม และข่มขืน โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินีทั้งหมด
คดีนี้แม้ว่าจะมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความ แต่นายปริญญ์ที่เมื่อวานพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นำตัวส่งศาลฝากขังกรณี 3 สำนวนในคดีอนาจารต่อหน้าธารกำนัล 2 สำนวน และคดีข่มขืนกระทำชำเราอีก 1 สำนวน ได้ประกันตัวไปในวงเงิน 7 แสนบาท โดยศาลกำหนดเงื่อนไหขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ และย้ำว่าไม่เคยเสนอให้กับผู้เสียหาย ไม่หลบหนี พร้อมขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
สำหรับคดีนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 5 คน 3 คนบอกว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี อีกคนเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองเพชรบุรี และอีกคนอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรเชียงใหม่ และใน 5 คนนี้ แบ่งคดีเป็น
1.หญิงวัย 18 ปี เหตุเกิดเมื่อ 11 เมษายนที่ผ่านมา เข้าแจ้งความในข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
2.ภรรยาของไฮโซ เหตุเกิดปี 2564 แจ้งความในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น
3.ผู้ช่วยหาเสียง จ.เพชรบุรี แจ้งความนายปริญญ์ในข้อหา กระทำอนาจาร
4.นักศึกษาหญิง วัย 18 ปี เหตุเกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แจ้งความในข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
5.หญิงสาว จ.เชียงใหม่ อายุ 25 ปี เหตุเกิดต้นปี 2564 ข้อหา กระทำอนาจาร
คงต้องตามต่อกันยาวๆ สำหรับคดีนี้ เพราะพลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ติดตามคดีที่ สน.ลุมพินี บอกว่า มั่นใจพยานหลักฐานที่มีเอาผิดผู้ต้องหาได้ และที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ / ไม่หนักใจ และไม่มีการแบ่งว่าผู้ต้องหาจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือมีชื่อเสียง
และล่าสุด พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยความคืบหน้าคดีหลังเรียกประชุมชุมสอบสวนคลี่คลายคดีเมื่อช่วงเช้าว่า คดีแรกที่เป็นคดีอนาจาร พนักงานสอบสวนส่งพยานหลักฐาน ซึ่งประกอบด้วยคลิปวงจรปิด ให้กับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบ ว่าเป็นคลิปตัดต่อหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีหลายคนถามว่า ผู้เสียหายหลายคนถูกกระทำการในรูปแบบต่างกัน และคนละห้วงเวลา ควรรวมคดีให้นครบาลดูแลเพียงหน่วยงานเดียวหรือไม่ตามกฎหมายแล้วทำไม่ได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีข้าราชการยศพันตำรวจเอก และ ตัวผู้ต้องหา พยายาม เข้าไปเจรจากับผู้เสียหายเพื่อให้ยุติคดี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล เบื้องต้นการตรวจสอบยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงคำกล่าวอ้างและกระแสข่าวเท่านั้น แต่หากมีพยานหลักฐานมายืนยันในภายหลัง ตำรวจก็พร้อมที่จะไปยื่นให้ศาลให้เพิกถอนการประกันตัวได้
นอกจากนี้ ประเด็นทำลายหลักฐาน การสืบสวนของตำรวจยังไม่พบ เพราะกลุ่มผู้ต้องหามีเพียงพยานหลักฐานที่หมดอายุการเก็บรักษาตามปกติเท่านั้น ย้ำว่าคดีนี้ทันกรอบเวลาการส่งสำนวนให้อัยการมีคำสั่งฟ้องแน่นอน.-สำนักข่าวไทย