ทนายตั้ม เตรียมพาผู้เสียหายอีก 6 คน เเจ้งความเพิ่มคดี “ปริญญ์” 

กรุงเทพฯ 18 เม.ย.- ทนายตั้มเตรียมพาผู้เสียหายอีก 6 คน เข้าแจ้งความเพิ่มคดีอดีตรอง หน.พรรคการเมืองรายหนึ่งล่วงละเมิด หลังเมื่อคืนปล่อยคลิปเสียงสนทนาปริศนา พร้อมข้อความโป๊ะแตกแล้วยังอ้างถูกพรรคการเมืองหนึ่งใส่ร้าย 


เมื่อคืนที่ผ่านมา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความว่า “คลิปเสียงของเหยื่ออีกคน ที่ถูกรองหัวหน้าพรรคล่วงละเมิด สรุปมีกี่คนแน่ นับกันไม่หวาดไม่ไหว โป๊ะแตกขนาดนี้ กลับแก้ตัวไม่หยุด สมกับสุภาษิต “คนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัว” ทั้งที่เหยื่อหลายคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ว่าถูกนักการเมืองผู้นี้ล่วงเกินและกระทำชำเรา ข้อแก้ตัวเดียวที่คิดได้คือ ถูกพรรคการเมืองหนี่ง ที่ผมไม่ได้มีความสนิทชิดเชื้ออะไรด้วยเป็นคนเซ็ตอัปใส่ร้าย ส่วนเหยื่อที่เหลือคือลอกๆ กันมาจากในทีวี ไม่รู้จักกัน ลืมง่าย ลืมเก่ง คุณเป็นคนแบบไหนกันครับเนี่ย??? #พรรคก้าวไกลมาจากไหนก่อน #โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง”

ซึ่งหากฟังจากในคลิปและข้อความที่โพสต์ ทนายตั้มเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเป็นคลิปเสียงปริศนา อดีตรองหัวหน้าพรรค กับสาวปริศนา และขณะการสนทนา หญิงสาวเหมือนพยายามบอกเล่าเหตุการณ์ที่เจอกับฝ่ายชาย ว่าเคยเจอกันที่ไหนบ้าง รวมถึงห้องพักที่อยู่ในข่าว ก็เคยไป พร้อมย้ำถาม ทำไมพี่ไม่สำนึกผิด แต่ฝ่ายชายพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่อยากพูดคุย อ้างถูกกลั่นแกล้งจากพรรคการเมือง


ส่วนวันเดียวกันนี้ ทนายตั้ม ให้ข้อมูลว่าจะพาผู้เสียหายอีก 6 คนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผู้เสียหาย 6 คนนี้มีทั้งที่ถูกลวนลาม และข่มขืน โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินีทั้งหมด 

คดีนี้แม้ว่าจะมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความ แต่นายปริญญ์ที่เมื่อวานพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นำตัวส่งศาลฝากขังกรณี 3 สำนวนในคดีอนาจารต่อหน้าธารกำนัล 2 สำนวน และคดีข่มขืนกระทำชำเราอีก 1 สำนวน ได้ประกันตัวไปในวงเงิน 7 แสนบาท โดยศาลกำหนดเงื่อนไหขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ และย้ำว่าไม่เคยเสนอให้กับผู้เสียหาย ไม่หลบหนี พร้อมขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม 

สำหรับคดีนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 5 คน 3 คนบอกว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี อีกคนเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองเพชรบุรี และอีกคนอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรเชียงใหม่ และใน 5 คนนี้ แบ่งคดีเป็น


1.หญิงวัย 18 ปี เหตุเกิดเมื่อ 11 เมษายนที่ผ่านมา เข้าแจ้งความในข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล

2.ภรรยาของไฮโซ เหตุเกิดปี 2564 แจ้งความในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น

3.ผู้ช่วยหาเสียง จ.เพชรบุรี แจ้งความนายปริญญ์ในข้อหา กระทำอนาจาร

4.นักศึกษาหญิง วัย 18 ปี เหตุเกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  แจ้งความในข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล

5.หญิงสาว จ.เชียงใหม่  อายุ 25 ปี เหตุเกิดต้นปี 2564 ข้อหา กระทำอนาจาร 

คงต้องตามต่อกันยาวๆ สำหรับคดีนี้ เพราะพลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ติดตามคดีที่ สน.ลุมพินี บอกว่า มั่นใจพยานหลักฐานที่มีเอาผิดผู้ต้องหาได้ และที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ / ไม่หนักใจ และไม่มีการแบ่งว่าผู้ต้องหาจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือมีชื่อเสียง  

และล่าสุด พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยความคืบหน้าคดีหลังเรียกประชุมชุมสอบสวนคลี่คลายคดีเมื่อช่วงเช้าว่า คดีแรกที่เป็นคดีอนาจาร พนักงานสอบสวนส่งพยานหลักฐาน ซึ่งประกอบด้วยคลิปวงจรปิด ให้กับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบ ว่าเป็นคลิปตัดต่อหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีหลายคนถามว่า ผู้เสียหายหลายคนถูกกระทำการในรูปแบบต่างกัน และคนละห้วงเวลา ควรรวมคดีให้นครบาลดูแลเพียงหน่วยงานเดียวหรือไม่ตามกฎหมายแล้วทำไม่ได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีข้าราชการยศพันตำรวจเอก และ ตัวผู้ต้องหา พยายาม เข้าไปเจรจากับผู้เสียหายเพื่อให้ยุติคดี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล เบื้องต้นการตรวจสอบยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงคำกล่าวอ้างและกระแสข่าวเท่านั้น แต่หากมีพยานหลักฐานมายืนยันในภายหลัง ตำรวจก็พร้อมที่จะไปยื่นให้ศาลให้เพิกถอนการประกันตัวได้ 

นอกจากนี้ ประเด็นทำลายหลักฐาน การสืบสวนของตำรวจยังไม่พบ เพราะกลุ่มผู้ต้องหามีเพียงพยานหลักฐานที่หมดอายุการเก็บรักษาตามปกติเท่านั้น ย้ำว่าคดีนี้ทันกรอบเวลาการส่งสำนวนให้อัยการมีคำสั่งฟ้องแน่นอน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย