ตร.PCT แถลงผลจับขบวนการค้าอาวุธปืนออนไลน์ทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ 15 เม.ย.- ตำรวจ PCT แถลงผลการระดมกวาดล้างเครือข่ายเฟซบุ๊กชื่อ “หนุ่ม” ลอบจำหน่ายอาวุธปืนทางออนไลน์ ส่งขายเเล้วกว่าทั่วประเทศ ทลายเป้าหมาย 77 จุด จับกุมผู้ต้องหา 34 ราย ยึดอาวุธปืน แท่นกลึง เครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก 


เมื่อเวลา 10.00 น. (15 เม.ย.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผอ.ศปอส.ตร.) หรือ PCT: Police Cyber Taskforce, พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8/หน.ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8/หน.ชุดปฏิบัติการที่ 3 PCT ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้าง เครือข่ายเฟซบุ๊กชื่อ “หนุ่ม” ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนทางออนไลน์ เข้าทลายเป้าหมาย 77 จุด จับกุมผู้ต้องหา 34 ราย ยึดอาวุธปืน แท่นกลึง เครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ศูนย์ PCT  และ บช.น.,ภ.1-9 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมากในขณะนี้ 


คดีนี้ ชุดปฏิบัติการ PCT ร่วมกับ บก.สส.ภ.8 สืบสวนทราบว่า มีการซื้อขายอาวุธปืนผ่านกลุ่มไลน์ชื่อว่า “GUN FOR LOVE” มีสมาชิก 400 กว่าคน โดยแอดมินใช้ชื่อ “หนุ่ม”​ เป็นพ่อค้าคนกลาง สั่งสินค้ามาขายต่อให้เพื่อนสมาชิก โดยมีการรีวิวสินค้า เป็นอาวุธปืน ลำกล้อง เครื่องกระสุน ชนิดต่างๆ มีทั้งของที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน หากสมาชิกสนใจ จะต้องโอนเงินผ่านบัญชื่อ “โสภาวดี…..” และแอดมินจะสั่งให้คนขายส่งสินค้าไปให้สมาชิกโดยตรงทางไปรษณีย์ จากการตรวจสอบพบว่ามีการส่งสินค้าแล้วทั่วประเทศ หวั่นนำไปก่อเหตุในห้วงเทศกาลสงกรานต์

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบ และสั่งการไปยัง พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ จำนวน 2 หมาย และหมายค้นอีก 77 หมาย ในพื้นที่ 51 จังหวัด และประสานไปยัง ศูนย์ PCT บช.น.,ภ.1-9 , และ บช.ก. เพื่อขยายผลจับกุมทั้งผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมด


ต่อมา วันที่ 12 เม.ย.65 เวลา 08.00 น. สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1,2,3 PCT (ตามลำดับ) ร่วมกับ กำลังตำรวจ PCT น.,ภ.1-9 เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันทั่วประเทศ 

ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.8 นำกำลังเข้าจับกุม นายสถิตคุณ หรือ “หนุ่ม” (ชื่อปรากฏตามเฟซบุ๊ก) อายุ 21 ปี ได้ที่บ้านหลังหนึ่งพร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ชุดลูกเลื่อนและชุดลั่นไก สำหรับปืนยาวขนาด .22LR จำนวน 1 ชุด แม็กกาซีน และเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก พร้อมสมุดบัญชี 7 เล่ม  และกล่องพัสดุที่ใช้สำหรับจัดส่งให้ลูกค้าอีก 7 กล่อง ซึ่งนายสถิตคุณ ยอมรับว่า เป็นแอดมินที่ใช้ชื่อว่า “หนุ่ม” จริง โดยตนเคยเรียนช่าง และประกอบอาชีพขายนก ส่วนตัวเป็นคนรักและชอบอาวุธปืนมาก เริ่มจากสั่งอาวุธมาทดลองใช้และสะสมก่อน ต่อมาเริ่มลงรูปในกลุ่ม ไลน์ และ เฟซบุ๊ก จึงมีคนสนใจเข้ามาติดต่อซื้อ และเป็นที่มาของการตั้งกลุ่ม Gun for love โดยจะได้รับส่วนต่างจากการขายครั้งละ 1,000-2,000 บาท

ที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายสิทธิศักดิ์ (สงวนนามสกุล)​ พร้อมแท่นกลึง 1 แท่น และอุปกรณ์ทำปืน เช่น เครื่องเจียโลหะ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ ฯ จะรับคำสั่งจาก “หนุ่ม” ให้ประกอบปืนส่งขาย หรือบางครั้งก็ขายเฉพาะชิ้นส่วนปืน ยอมรับว่าทำมาแล้ว 60-70 ครั้ง สามารถทำรายได้กว่า 300,000 บาท 

นอกจากนี้ยังสามารถจับกุม น.ส.โสภาวดี (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ตามหมายจับ ซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีให้นายสถิตคุณ รับโอนเงินจากลูกค้า ซึ่งผลการปฏิบัติของ ศูนย์ PCT ตร., บช.น.,ภ.1-9 และ บช.ก. (กก.4 บก.ป) ครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 34 ราย ยึดอาวุธปืนสั้น 17 กระบอก ปืนยาว 41 กระบอก กระสุนปืน 6,421 นัด อุปกรณ์ปืน 9 ชิ้น นอกจากนี้ยังพบยาบ้า 200 เม็ด ยาไอซ์ 0.92 กรัม และกัญชาอีก 3,627 กรัม  นำผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” 

 ผอ.PCT กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี ห่วงใยพี่น้องประชาชน หวั่นตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์ โดยเฉพาะในห้วงเทศกาลสงกรานต์ 65 นี้ กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งระดมกวาดล้างจับกุมอย่างจริงจัง ซึ่งสถิติคดีทางออนไลน์นับตั้งแต่เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ (1 มี.ค.65) ถึงปัจจุบัน พบว่า มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 13,015 ราย แบ่งเป็น 1.ความผิดเกี่ยวกับการซื้อสินค้าที่ไม่ได้รับสินค้า 4,271 คดี 2.หลอกทำภารกิจ (เช่น ให้รีวิวสินค้า,กดไลท์ Tiktok, กดไลท์สินค้า) 1,443 คดี 3.หลอกให้กู้เงิน 1,356 คดี 4.ทำให้รักแล้วหลอกลงทุน (Hybrid scam) 1,123 คดี 5.Call center 1,109 คดี 6.แชร์ลูกโซ่ 510 คดี 7.หลอกยืมเงิน 468 คดี 8.ซื้อสินค้าแต่ได้ไม่ตรงปก 189 คดี และ 9.หลอกลวงรูปแบบอื่นๆ อีก 1,688 คดี 

จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า อย่าหลงเป็นเหยื่อโอนเงินให้ใครง่ายๆ ทั้งนี้ หากพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ตลอด 24 ชม. หรือผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com

โดยจากการตรวตค้นพบว่า นายสถิตคุณจะส่งอุปกรณ์ส่วนประกอบไปให้เพื่อนร่วมขบวนการในจังหวัดสุโขทัยทำกลึงและหาชิ้นส่วนประกับปืนส่งกลับมาประกอบที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนขายให้กับลูกค้าที่อยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจะให้ลูกค้าชำระเงินด้วยการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ว่าจ้างให้บุคคลอื่นเปิดไว้

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]