ฝากขังผู้ต้องหาคดีปาระเบิดบ้านนายกฯ

กทม. 13 เม.ย.-ตำรวจ สน.บางซื่อ ฝากขัง 1 ในผู้ต้องหาคดีปาระเบิดกรมทหารราบที่ 1 รอ. พร้อมรับตัว 2 เยาวชนผู้ร่วมก่อเหตุมาทำการสอบสวน

วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ยื่นคำขออำนาจศาลอาญาฝากขังนายพรพจน์ แจ้งกระจ่าง อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน ร่วมกันกระทำให้เกิด ระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือต่อทรัพย์ของผู้อื่น, พาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ผ่านระบบจอภาพทางไกล


โดยคำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายพรพจน์ แจ้งกระจ่าง ได้ร่วมกับ นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ บุ๊ค Elevenfinger แรปเปอร์ ผู้ต้องหาที่ 1 อายุ 20 ปี, น.ส.ปฏิมา ฝากทอง อายุ 20 ปีผู้ต้องหาที่ 5 เเละเยาวชนอายุ15 ปีผู้ต้องหาที่3 กับพวกรวมทั้งหมด 7 คน ได้ไปร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มม็อบทะลุฟ้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเลิกชุมนุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขับรถจักรยานยนต์และนั่งซ้อนท้ายกันมารวม 3 คัน มาจอดบริเวณใต้ด่วนแยกดินแดง จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปตามถนนวิภาวดี(ขาออก) มุ่งหน้าไปแยกสุทธิสาร โดยรถจักรยานยนต์ทั้ง3 คันขับตามกันมาในระยะกระชั้นชิดกัน เมื่อรถทั้ง 3 คันแล่นมาถึงบริเวณหน้าประตู กรมทหาราบที่ 1 รักษาพระองค์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ได้เกิดเหตุระเบิดดังขึ้น จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมดได้พากันหลบหนีไปตามถนนวิภาวดีฯ มุ่งหน้าไปทางแยกสุทธิสาร ต่อมา สน.ท่าเรือ ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 เพื่อดำเนินคดีอีก 1 คดี และจากการสืบสวนสอบสวนตรวสอบกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ ผู้ต้องหา ทั้งหมดพร้อมรถ 3 คันไว้ได้ โดยภาพเห็นขณะที่รถทั้ง3คันขับผ่านประตูฯ ที่เกิดเหตุและได้เกิดเหตุระเบิดดังขึ้นทันที สามารถเห็นแสงจากการระเบิดทันที จึงเชื่อว่าผู้ต้องหานี้ได้ร่วมกันกับผู้ต้องหาอีก 6 คนได้ร่วมกันก่อเหตุทำให้เกิดเหตุ ระเบิดขึ้นโดยการปาระเบิด เข้าไปแล้วพากันหลบหนีไปดังกล่าว ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลอาญาออกหมายจับ นายพรพจน์ แจ้งกระจ่าง ผู้ต้องหานี้ไว้ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เม.ย.เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.ว่า นายพรพจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้หลบหนีอยู่ภายในจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตาม ทราบว่า นายพรพจน์ อยู่บริเวณ สภ.อ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายพรพจน์ จึงได้แสดงตัวพร้อมหมายจับเพื่อควบคุมตัว

สำหรับท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ต้องหาเคยถูกกล่าวหาต่อศาลในข้อหามีและใช้วัตถุระเบิดมาแล้ว คดีนี้ถือว่าเป็นคดีมีความร้ายแรง อัตราโทษสูงผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เชื่อว่าหากปล่อยตัวผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีปาระเบิดดังกล่าวนี้จาการสืบสวนมีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 คนปัจจุบันมีการเเจ้งข้อกล่าวหาไว้เเล้ว 3 คน ได้เเก่ น.ส.ปฏิมา, นายพรพจน์ ซึ่งถูกฝากขังไม่ได้รับอนุญาตประกันตัว เเละมีเยาวชนอายุ15 ปี ซึ่งเข้าขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายของศาลเยาวชน ส่วน นายธนายุทธ หรือบุ๊ค Elevenfinger มีรายงานว่าภายหลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ฯอนุญาตให้ประกันตัวคดีพบวัตถุระเบิดที่บ้านพัก ทางพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อเตรียมเข้าอายัดตัวเพื่อเเจ้งข้อกล่าวหาในคดีระเบิดที่ราบ 1 เเต่ไม่สามารถอายัดตัวได้ทันตอนนี้จึงต้องดำเนินการขั้นตอนส่งหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย

พลตำรวจตรีอรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เดินทางมาถึง สน.พร้อมกล่าวว่า วันนี้จะมีการนำตัว 2 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนจากจังหวัดนครนายกมายัง สน.บางซื่อ ในเบื้องต้นก็จะมีการพูดคุยสอบถามก่อนโดยในวันนี้ยังไม่สามารถนำส่งศาลเยาวชนฯเพื่อตรวจสอบการจับกุมได้ทันเนื่องจากเป็นช่วงเย็นเเล้ว คาดว่าจะส่งศาลได้ในวันพรุ่งนี้เพื่อกำเนินตามขั้นตอนกฎหมายเยาวชน จนกระทั่งประมาณ 18.00 น. ชุดจับกุมจึงได้นำ 2 เยาวชนชายเข้ามาภายใน สน.บางซื่อ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนสอบสวน ผู้ต้องหาเยาวชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย