กระบะทำเก้าอี้ร่วงโดนหนุ่มขี่ จยย.ล้มคว่ำ

กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – นาทีชีวิต! เก้าอี้ร่วงหล่นจากรถกระบะไปโดนคนขี่รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำได้รับบาดเจ็บ หวิดเกิดเหตุสลดบนท้องถนน


(วันที่ 5 เม.ย.65 เวลา 15.04 น.) ภาพจากคลิปกล้องหน้ารถ เผยให้เห็นนาทีชีวิต เก้าอี้ร่วงลงมาจากรถกระบะ กระเด็นไปโดนคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ตามมา ซึ่งในคลิปเหตุการณ์จะเห็นว่า ศีรษะคนขี่รถจักรยานยนต์เฉียดล้อรถบรรทุกที่ขับตามมาไปนิดเดียว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนราชพฤกษ์ ขาออก มุ่งหน้าตลิ่งชัน ก่อนข้ามแยกบางแวก จรัญฯ 19 โดยภาพเหตุการณ์นี้ได้ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของคุณ Piyapong Thamdee ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่ได้รับบาดเจ็บ ได้โพสต์ข้อความตามหารถกระบะคันที่ทำเก้าอี้หล่นลงมา


สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดจากรถกระบะซึ่งบรรทุกสิ่งของเกินออกมานอกตัวรถ มีกฎหมายระบุข้อควรปฏิบัติไว้ว่า

  1. ความกว้าง ได้ไม่เกินส่วนกว้างของรถ
  2. ความยาว ด้านหน้ายื่นไม่เกินหน้าหม้อรถ และด้านหลังยื่นพ้นตัวรถไม่เกิน 2.50 เมตร
  3. ความสูง กรณีรถกระบะบรรทุกให้บรรทุกสูงจากพื้นทางได้ไม่เกิน 3.00 เมตร แต่ถ้ารถมีความกว้างของรถเกินกว่า 2.30 เมตร ให้บรรทุกสูงจากพื้นทางได้ไม่เกิน 3.80 เมตร
  4. ต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันคน สัตว์ หรือสิ่งของที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสงสะท้อน หรือปลิวไปจากรถ อันอาจก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อน รำคาญ ทำให้สกปรก เสื่อมเสียสุขภาพอนามัย หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือทรัพย์สิน

เพราะตามมาตรา 20 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 “ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถบรรทุกคน สัตว์ สิ่งของ ต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันมิให้คน สัตว์ สิ่งของที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสงสะท้อน หรือปลิวไปจากรถ อันอาจก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ ทำให้สกปรก เปรอะเปื้อน ทำให้เสื่อมเสียสุขภาพอนามัยแก่ประชาชน หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน หากไม่ปฏิบัติตาม มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท”

และมาตรา 128 “ห้ามมิให้ผู้ใดวาง เท หรือทิ้งเศษแก้ว ตะปู ลวด น้ำมันหล่อลื่น กระป๋อง หรือสิ่งอื่นใด หรือการกระทำใดๆ บนทาง อันอาจทำให้เกิดอันตรายหรือเสียหายแก่ยานพาหนะหรือบุคคล หรือเป็นการกีดขวางการจราจร รวมถึงกรณีผู้ประกอบการขนส่งที่ละเลยไม่จัดให้มีวัสดุปิดคลุมป้องกันสิ่งของบรรทุกร่วง หล่น หรือไม่ควบคุมให้พนักงานขับรถใช้อุปกรณ์สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้า จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2522 มาตรา 32 (3) ระบุว่า ต้องถูกปรับไม่เกิน 50,000 บาท ด้านผู้ขับรถที่กระทำฝ่าฝืน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ