ชายวัย 70 หึงโหด ใช้ค้อนทุบหัวสาวดับคาห้องเช่า

กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – ชายวัย 70 ปี หึงโหด ใช้ค้อนทุบหัวหญิงวัย 37 ปี เสียชีวิตคาห้องเช่า ก่อนห่อมัดร่างเตรียมนำไปทิ้งหวังอำพราง


เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในห้องพักไม่มีชื่อ เลขที่ 74/30 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ภายในห้องพักชั้น 2 พบร่างผู้เสียชีวิตถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนอย่างมิดชิด เปิดออกพบร่างหญิงสาวนอนเปลือยกาย ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.เกศสุดา อายุ 37 ปี มีบาดแผลบริเวณใบหน้าถูกตีด้วยของแข็ง เขียวเป็นจ้ำฟกช้ำ และมีเลือดไหล ถัดไปจากร่างพบค้อน ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายผู้ตายตกอยู่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายเชย อายุ 70 ปี อาชีพคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วย จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน


นายจรูญ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีแม่ค้าที่รู้จักกันโทรมาหาตน บอกว่า ห้องตาเชย ผู้ก่อเหตุ มีคนเสียชีวิต ตนจึงไปดู เห็นร่างคนถูกห่อด้วยผ้าห่มผ้าปูที่นอน จึงพยายามสะกิดดู เมื่อไม่ขยับ ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ 191 ให้มาตรวจสอบ เพราะกลัวว่าจะมีเหตุ

ด้าน น.ส.ดารุณี แม่ของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ร้องไห้จนเป็นลม อาสาสมัครร่วมกตัญญูต้องช่วยกันปฐมพยาบาล โดยผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ตนแยกกันอยู่กับลูกสาว ซึ่งตัวลูกสาวเองมักย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ไม่เป็นหลักแหล่ง ล่าสุดที่เจอกับลูกสาว คือ เมื่อวันเสาร์ (2 เม.ย.) ที่ผ่านมา ลูกสาวได้เดินทางไปหาตน โดยเดินทางไปพร้อมกับผู้ก่อเหตุ สำหรับนายเชย (ผู้ก่อเหตุ) คบหากับลูกสาวตนได้สักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมาบอกกับตนว่า อยากจะผูกข้อมือแต่งงาน นอกจากนี้ยังเคยมาบอกให้ตนช่วยตามลูกสาวกลับมา หลังจากที่ลูกสาวไปติดพันคนอื่น ก็ไม่คิดว่านายเชยจะมาก่อเหตุกับลูกสาวของตน

สอบสวนนายเชย ให้การรับสารภาพว่า มีปากเสียงกับผู้ตาย ก่อนบันดาลโทสะ ใช้ค้อนที่อยู่ในห้องตีศีรษะผู้ตายจนเสียชีวิต แล้วห่อด้วยผ้าห่มและมัดอย่างมิดชิด หลังจากนั้นจึงลงไปจ้างรถสามล้อมาช่วยขนศพออกไปหวังอำพราง โดยอ้างว่าเป็นพระพุทธรูป แต่คนขับรถสามล้อไม่หลงเชื่อ และคิดว่าไม่น่าจะใช่พระพุทธรูป


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสาเหตุมาจากความหึงหวง อย่างไรก็ตาม จะสอบปากคำผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วน “เหนือ กลาง ตะวันออก” มีฝนตกบางแห่ง อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”